SHARE

คัดลอกแล้ว

จะกี่ยุคกี่สมัย ตลาดหุ้นก็ยังดึงดูดใจคนได้เสมอ ด้วยแนวคิดที่ให้เงินทำงาน การลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงย โดยไม่ต้องลงแรงกายใดๆ ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าสนใจกว่าการที่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินให้ได้กว่าเป็นไหนๆ

แต่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จจากการลงทุน มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องขาดทุนเพราะตลาดหุ้น จะด้วยความรู้ความเข้าใจที่ยังน้อยเกินไป หรือจังหวะการลงทุนที่ไม่เป็นใจก็ตาม ท้ายที่สุด ก็มีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่เอาชนะตลาดได้

อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ไม่เคยเข็ดอยู่แล้ว แม้ว่าจะผ่านมากี่ศตวรรษ ผู้คนก็ยังลงทุนในตลาดหุ้นเสมอ โอบอุ้มให้สิ่งที่เรียกว่า ‘ตลาดหุ้น’ มีอายุยืนยาวกว่า 400 ปี

ว่าแต่ ตลาดหุ้นคืออะไร เป็นสถานที่แบบไหน TODAY Bizview จะเล่าให้ฟัง

[ หุ้นคืออะไร ตลาดหุ้นคืออะไร ]

ย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้น ‘หุ้น’ (Share) คือตราสาร (เอกสารแสดงสิทธิตามกฎหมาย) ที่บริษัทต่างๆ ออกเพื่อระดมทุนไปใช้ในกิจการ โดยเปิดให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อเป็น ‘ผู้ถือหุ้น’ (Shareholder) ซึ่งผู้ถือหุ้นจะได้รับส่วนแบ่งเป็น ‘เงินปันผล’ (Dividend Yield) ตามจำนวนหุ้นที่ถือไว้

นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังสามารถทำเงินจาก ‘การซื้อขาย’ (Trading) หุ้นได้อีกด้วย ซึ่งสถานที่ที่เอาไว้ซื้อขายหุ้น ก็คือ ‘ตลาดหุ้น’ (Stock Market) นั่นเอง

ตลาดหุ้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. ตลาดแรก (Primary Market) เป็นศูนย์กลางให้ธุรกิจเข้ามาระดมทุนผ่านการขายหุ้นใหม่ (IPO) ให้แก่นักลงทุนที่ต้องการลงทุน และ

2. ตลาดรอง (Secondary Market) เป็นศูนย์กลางในการนำหุ้นมาซื้อขายเปลี่ยนมือกัน เป็นตลาดที่มีไว้เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ซื้อหุ้นในตลาดแรก ว่าจะสามารถขายหุ้นนั้นเพื่อเปลี่ยนมือกลับเป็นเงินสดเมื่อไหร่ก็ได้

[ ตลาดหุ้นแห่งแรกของโลก ]

สำหรับตลาดหุ้นแรกของโลก คือ ตลาดหลักทรัพย์อัมสเตอร์ดัม ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1602 หรือประมาณ 400 ปีที่แล้ว เพื่อซื้อขายหุ้น ‘บริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์’ (Dutch East India Company: VOC) หุ้นตัวแรกของโลก (ปัจจุบันเลิกกิจการแล้ว)

ตลาดหุ้นสมัยก่อนแตกต่างกับตลาดหุ้นยุคปัจจุบันที่สามารถซื้อขายหุ้นผ่านช่องทางออนไลน์ได้ อย่างตลาดหุ้นแรกของโลกที่มีที่ทำการอยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำอัมสเทลในกรุงอัมสเตอร์ดัม นักลงทุนจะพากันไปรวมตัวที่สะพานเพื่อซื้อขายหุ้น

อีกหนึ่งสิ่งที่แตกต่างกับตลาดหุ้นปัจจุบันคือ เวลาทำการ ในสมัยนั้น แม้เวลาทำการของตลาดหุ้นอัมสเตอร์ดัมจะเป็นวันจันทร์ถึงศุกร์เหมือนปัจจุบันก็จริง แต่เปิดให้ซื้อขายเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น (11.00-12.00 น.)

ปัจจุบัน ตลาดหุ้นอัมสเตอร์ดัมยังคงเปิดให้บริการอยู่ แต่เป็นการให้บริการร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ในยุโรปอีก 7 แห่ง ได้แก่ เบลเยียม ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อิตาลี นอร์เวย์ และโปรตุเกส (ข้อมูล ณ เดือน ก.พ. 2567) ภายใต้ชื่อ ‘ยูโรเน็กซต์’ (Euronext)

a-brief-history-of-the-stock-market

[ ตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ]

แม้อัมสเตอร์ดัมจะมาก่อน แต่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange: NYSE) กลับเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าตลาด (Market Capitalization) มากกว่า 25 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 930 ล้านล้านบาท)

รองลงมาคือ ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (NASDAQ) 23 ล้านล้านเหรียญ (ราว 850 ล้านล้านบาท) Euronext ที่เรากล่าวถึงไปแล้วข้างต้น 7 ล้านล้านเหรียญ (ราว 260 ล้านล้านบาท) และตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (Shanghai Stock Exchange: SSE) 6 ล้านล้านเหรียญ (ราว 220 ล้านล้านบาท)

ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กถือเป็นตลาดหุ้นแห่งแรก และเป็นตลาดหุ้นที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ปี ค.ศ. 1792 ปัจจุบันนอกจากจะเป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ยังเป็นตลาดหุ้นที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลกด้วย

NYSE มีชื่อเล่นว่า ‘กระดานใหญ่’ (The Big Board) โดยหุ้นตัวแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก คือ ‘ธนาคารแห่งรัฐนิวยอร์ก’ (The Bank of New York) ซึ่งปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจอยู่ภายใต้ชื่อ ‘ธนาคารแห่งนิวยอร์กเมลลอน’ (The Bank of New York Mellon)

[ ตลาดหุ้นแห่งแรกของไทย ]

สำหรับประเทศไทย ตลาดทุนแบ่งออกเป็น 2 ยุค คือ 1. ตลาดหุ้นกรุงเทพ (Bangkok Stock Exchange) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชน และ 2. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Securities Exchange of Thailand) ที่แม้จะเป็นนิติบุคคล แต่ถูกกำกับโดยกระทรวงการคลัง

ยุคของ ‘ตลาดหุ้นกรุงเทพ’ เริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.ค. 2505 ในรูปห้างหุ้นส่วน จำกัด โดยในปีต่อมา (2506) ถึงจะจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด และเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ตลาดหุ้นกรุงเทพ’ (Bangkok Stock Exchange)

น่าเสียดายที่ตลาดหุ้นกรุงเทพไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยเพียง 160 ล้านบาทในปี 2511 และ 114 ล้านบาทในปี 2512 ต่อมาลดลงเป็น 46 ล้านบาทในปี 2513 และลดลงเหลือ 28 ล้านบาทในปี 2514

แม้ในปี 2515 ปริมาณการซื้อขายจะกลับมาอยู่ที่ 87 ล้านบาท แต่การซื้อขายหุ้นก็ยังไม่เป็นที่นิยม ทำให้ท้ายที่สุด ตลาดหุ้นกรุงเทพก็ต้องปิดกิจการลงเพราะขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ ประกอบกับประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องตลาดทุน

[ ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน ]

แม้ว่าตลาดหุ้นกรุงเทพจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่แนวคิดเกี่ยวกับการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ยังคงอยู่ ซึ่งในเวลาต่อมา รัฐบาลไทยก็ได้มีการปรับแก้กฎหมายและว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างชาติเข้ามาศึกษาช่องทางพัฒนาตลาดทุนไทย

หลังปรับแก้กฎหมายจนลงตัวแล้ว ตลาดหุ้นไทยก็กลับมาเปิดการซื้อขายอีกครั้งในวันที่ 30 เม.ย. 2518 ภายใต้ชื่อ ‘ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย’ (The Securities Exchange of Thailand) ก่อนจะเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษเป็น The Stock Exchange of Thailand (SET) ในวันที่ 1 ม.ค. 2534

โดยหุ้นตัวแรกที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีอยู่ 8 ตัวด้วยกัน แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ 5 ตัว คือ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) บมจ.ดุสิตธานี (DTC) บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCG) และบมจ.ทุนธนาชาต (TCAP)

ปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทย (รวม SET และ mai ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2567) ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีต มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนกว่า 900 บริษัท และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 40,000 ล้านบาท

a-brief-history-of-the-stock-market

ที่มา:

  • ปีเตอร์, ลินซ์., และ จอห์น, รอธไชลด์. (2553). เรียนให้รวย (นรา สุภัคโรจน์, ผู้แปล) กรุงเทพมหานคร: โพสต์บุ๊กส์.
  • arts.tu.ac.th/uploads/arts/TU104/171061.pdf
  • dictionary.orst.go.th/
  • www.innovestx.co.th/knowledge-hub/detail/start-investing-the-first-step/stock-101-and-how-to-start-investing
  • www.investopedia.com/articles/07/stock-exchange-history.asp
  • www.investopedia.com/ask/answers/08/first-company-issue-stock-dutch-east-india.asp
  • www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/485-tsi-understanding-european-stock-market-and-indices
  • www.euronext.com/en
  • www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/467-tsi-understanding-us-stock-market
  • www.statista.com/statistics/270126/largest-stock-exchange-operators-by-market-capitalization-of-listed-companies/
  • library.jitta.com/th/blogs/introduction-to-us-stock-market-th
  • www.investopedia.com/terms/b/bigboard.asp
  • www.set.or.th/th/about/overview/journey
  • www.set.or.th/th/market/information/securities-list/main
  • www.facebook.com/set.or.th
  • www.set.or.th/th/education-research/research/market-report/main
  • media.set.or.th/set/Documents/2023/Feb/30years.pdf

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า