ให้แมคบุ๊คไปเลย ร่ำลากันวันจันทร์ มีประกันสุขภาพให้ ความใส่ใจที่มีให้เห็นในการเลย์ออฟของ Airbnb

นี่เป็นการพูดคุยจากที่บ้านของผมเป็นครั้งที่ 7 แล้ว แต่ละครั้งที่เราได้พูดคุยกัน ผมได้มาแจ้งข่าวทั้งดีและร้าย แต่วันนี้ผมจำเป็นต้องมาแจ้งข่าวที่น่าเศร้าที่สุด

ทุกคนถามถึงเรื่องเลย์ออฟพนักงาน ผมได้แจ้งไปแล้วว่ามันเป็นไปได้ที่เราต้องเลย์ออฟ วันนี้ผมมายืนยันว่าเราจำต้องลดขนาดคนทำงานของแอร์บีเอ็นบี สำหรับบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการมีกันและกัน นี่คือช่วงเวลาที่ยากจะเผชิญ และมันยิ่งยากสำหรับคนที่ต้องออกจากแอร์บีเอ็นบี ผมจะอธิบายเหตุผลอย่างละเอียดที่สุด เท่าที่จะทำได้ ว่าอะไรทำให้ผมจำเป็นต้องตัดสินใจแบบนี้ และเรากำลังทำอะไรเพื่อช่วยเหลือคนที่ถูกเลย์ออฟ และจะเกิดอะไรขึ้นกับคนอื่นๆ

ผมขอเริ่มจากการอธิบายถึงเหตุผลในการต้องตัดสินใจแบบนี้ เราอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในช่วงชีวิต และระหว่างที่เรากำลังเผชิญกับโควิด-19 การเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกกลับหยุดชะงักลง ธุรกิจของแอร์บีเอ็นบีได้รับผลกระทบอย่างหนัก รายได้ของเราลดลงกว่าครึ่งเทียบกับปี 2019 เราเพิ่มทุนมาสองพันล้านเหรียญสหรัฐแต่ทุกส่วนก็ได้รับผลกระทบจากลดต้นทุนอย่างหนัก

ระหว่างที่เรากำลังเผชิญหน้ากับนโยบายที่เราจำเป็นต้องทำ เราก็ค้นพบความจริงที่โหดร้ายสองข้อ

1. เราไม่รู้เลยว่า ผู้คนจะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวตอนไหน
2. แม้มันกลับมาแล้ว อะไรๆ ก็จะเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม

แม้เราจะรู้ว่าธุรกิจของแอร์บีเอ็นบีจะฟื้นคืนกลับมาได้อีกครั้ง ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นอย่างถาวร ด้วยสาเหตุนี้ เราจึงจำเป็นต้องลดขนาดขององค์กรของเรา โฟกัสที่ธุรกิจที่เราต้องการจะโฟกัส

พนักงานของแอร์บีเอ็นบี 1,900 คน จะต้องถูกเลย์ออฟ จากทั้งหมด 7,500 คน นับได้ร้อยละ 25 ของทั้งหมด เราไม่สามารถทำทุกอย่างที่อยากทำได้ การลดจำนวนพนักงานนี้ เพื่อให้ตรงกับยุทธศาสตร์ของเรา

ยุทธศาสตร์ข้างหน้าคือเราจะโฟกัสเลือกทำบางธุรกิจเท่านั้น

หลังจากนี้การเดินทางรอบโลกจะไม่เหมือนเดิม และแอร์บีเอ็นบีจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ผู้คนจะต้องการทางเลือกที่ใกล้บ้านมากขึ้น ปลอดภัยขึ้น และราคาย่อมเยาลง แต่ในเวลาเดียวกัน คนก็ต้องการได้รับสิ่งที่เขารู้สึกเหมือนถูกพรากจากเขาไป นั่นคือการติดต่อระหว่างกันและกัน

ครั้งที่เราเริ่มต้นธุรกิจแอร์บีเอ็นบี เราเน้นย้ำเรื่องการติดต่อและเป็นของกันและกัน วิกฤตครั้งนี้บอกให้เรากลับไปสู่สิ่งที่เราเน้นยำในตอนแรก กลับไปสู่เบสิค กลับไปสู่สิ่งที่ทำให้แอร์บีเอ็นบีพิเศษกว่าที่อื่นๆ – การที่คนเปิดบ้านตอนรับผู้คน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์แก่กัน

นั่นแปลว่าเราจะลดการลงทุนในกิจกรรมที่ไม่ได้ส่งเสริมธุรกิจการเป็นโฮสต์ เราจำต้องหยุดธุรกิจขนส่งและสตูดิโอ และกลับไปลงทุนเรื่องการโรงแรม

การตัดสินใจนี้ไม่ใช่เพราะพวกคุณทำงานกันได้ไม่ดี และไม่ได้แปลว่าคนที่อยู่ในแผนกเหล่านี้ทุกคนจะโดนเลย์ออฟ ในทางกลับกัน ทุกคนในแอร์บีเอ็นบี จะได้รับผลกระทบ หลายทีมจะถูกลดจำนวนตามผลงานที่ชี้วัดโดยทิศทางใหม่

คำอธิบายเรื่องการลดกำลังคน

มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องวางหลักการกันก่อน หลักการนี้มีปรัชญาการทำธุรกิจของเรานำทาง รายละเอียดของหลักการที่ว่านี้คือ:

• วางแผนการลดคน ให้ตรงกับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจที่เราจะไป
• ช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบให้ได้มากที่สุด
• ยึดมั่นในความหลากหลายอย่างเด็ดขาด
• สื่อสารทางตรง หนึ่งต่อหนึ่ง กับคนที่ได้รับผลกระทบ
• เฝ้ารอสื่อสารผลการตัดสินใจ เมื่อรายละเอียดทุกอย่างครบถ้วนแล้ว – ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนรังแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง

ผมพยายามอย่างเต็มที่ ในการยึดหลักการต่างๆ เหล่านี้

ในการลดจำนวนคน

ขั้นตอนของเราหลังจากนี้ เราจะโฟกัสที่กลยุทธ์ธุรกิจที่ยั่งยืน เราจะประเมินว่าแต่ละทีมทำผลงานเป็นอย่างไร เมื่อนำมาทาบกับยุทธศาสตร์ที่เราวางไว้ และเราจะกำหนดขนาดและรูปร่างของแต่ละทีมกันใหม่ เสร็จแล้ว เรายังได้ทำการประเมินผลงานไล่เป็นรายบุคคลไป และตัดสินใจบนพื้นฐานทักษะที่สำคัญต่อการอยู่รอด

ผลลัพธ์คือเราจำต้องแยกทางกับเพื่อนร่วมทีมหลายคนที่เรารักและเห็นคุณค่า แอร์บีเอ็นบีจำต้องสูญเสียคนเก่งๆ ไป และบริษัทอื่นๆ ที่ได้ตัวคนเหล่านี้ไป ก็ถือว่าโชคดีมาก

เรายังจัดการเรื่องผลกระทบจากการว่างงาน ประกันสุขภาพ และคำแนะนำเรื่องงานใหม่ ให้กับคนที่ถูกเลย์ออฟ และพยายามทำดูแลพวกเขาอย่างที่สุด ด้วยหัวใจที่ใส่ใจ

ความเสียหายเบื้องต้น

พนักงานแอร์บีเอ็นบีที่ในสหรัฐฯ ที่ถูกเลย์ออฟ จะได้เงินเยียวยา 14 สัปดาห์จากเงินเดือน และได้เพิ่มอีก 1 สัปดาห์ต่อระยะเวลาการทำงานที่นี่ 1 ปี โดยจำนวนปีปัดส่วนขึ้น เช่นคนที่ทำงานที่นี่มา 3 ปี 7 เดือน จะได้เงินเดือนเพิ่มอีก 4 สัปดาห์ รวมเป็นเงินเดือน 18 สัปดาห์ ส่วนพนักงานทั่วโลก จะได้รับเงินเยียวยาอย่างน้อย 14 สัปดาห์

การลงทุน

เราละเว้นกฎ กำแพง 1 ปีสำหรับทุกคนที่เพิ่งเข้ามาทำงานกับเราในปีนี้ เท่ากับว่าทุกคนจะได้เป็นผู้ถือหุ้น และได้ประโยชน์จากตรงนี้ด้วย

ประกันสุขภาพ

ท่ามกลางวิกฤตด้านสุขภาพที่ยังไม่รู้วันสิ้นสุด เราต้องการลดความเดือดร้อนของทุกคนเรื่องค่าใช่จ่ายด้านสุขภาพ พนักงานในสหรัฐฯ จะได้รับประกันชีวิต 1 ปีเต็ม ส่วนพนักงานในประเทศอื่นๆ เราจะออกประกันสุขภาพคุ้มครองไปจนถึงสิ้นปี 2020

ระบบช่วยเหลือเรื่องการจ้างงาน

เป้าหมายของเราคือการเชื่อมโยงพนักงานที่ถูกเลย์ออฟ กับโอกาสในการหางานใหม่ๆ และเรามี 5 โครงการในการช่วยเหลือ:

• เชื่อมโยงศิษย์เก่าแอร์บีเอ็นบีกับนายจ้างใหม่ – เราจะเปิดเว็บไซท์เพื่อให้พนักงานที่ถูกเลย์ออฟ ลงทะเบียนประวัติการทำงาน เรซูเม่ และผลงานเอาไว้ เพื่อให้บริษัทอื่นๆ ได้เห็น
• หางานให้ศิษย์เก่าแอร์บีเอ็นบี – เราจะจัดสรรฝ่ายบุคคลส่วนหนึ่ง ทำงานเต็มเวลา เพื่อช่วยหางานให้กับพนักงานที่ถูกเลย์ออฟ
• RiseSmart – เราพาร์ทเนอร์กับ RiseSmart บริษัทที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการย้ายงาน และการหางาน เพื่อช่วยเหลือทุกคน
• ศิษย์ปัจจุบันร่วมช่วยเหลือ – เราจะกระตุ้นให้คนที่ยังไม่ตกงาน ช่วยเหลือคนที่ถูกเลย์ออฟ ในการหางานใหม่ทำ
• ให้แมคบุ๊คไว้ติดตัว – การหางาน จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ เราอนุญาตให้ทุกคนที่ถูกเลย์ออฟ นำแมคบุ๊คที่บริษัทให้ไว้ติดตัวไปได้เลย

สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือ

ผมอยากให้ทุกคนเห็นภาพชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรามีพนักงานอยู่ใน 24 ประเทศ และกว่าที่นโยบายของเราจะนำไปใช้ได้จริง ก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนทางกฎหมายของแต่ละประเทศด้วย หลายประเทศก็มีกฎหายเฉพาะที่แตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ตาม เราพยายามวางแผนอย่างรัดกุม เพื่อให้พนักงานจากทุกประเทศได้รับการช่วยเหลือ

ขอเริ่มต้นจากสหรัฐฯ และแคนาดา ผมบอกชัดเจนได้เลยว่า สำหรับพนักงานที่ถูกเลย์ออฟ คุณจะได้รับอีเมลเพื่อเข้ามาพูดคุยกับหัวหน้าของคุณ การได้รับแจ้งข่าวจากหัวหน้าของคุณ แบบเจอหน้ากัน ได้คุยกัน ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรา พนักงานชุดนี้จะทำงานถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2020 เป็นวันสุดท้าย เราจงใจให้เป็นวันจันทร์ เพราะเรามองว่าจะเป็นวันที่ทุกคนจะได้บอกลากันและวางแผนการชีวิตหลังจากนี้ได้ง่ายขึ้น – เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราใส่ใจ

พนักงานหลายคนจะถูกย้ายตำแหน่ง คนกลุ่มนี้จะได้รับอีเมลที่มีหัวข้อว่า “ตำแหน่งใหม่” ในอีเมลจะมีรายละเอียดอธิบาย

สำหรับพนักงานที่อยู่ทั่วโลก ผมจะคอนเฟอเรนซ์คอลล์ เรียกประชุมกับแต่ละทีมโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 6 โมงเย็นสำหรับทีมเอเชีย-แปซิฟิก เที่ยงตรงสำหรับทีมยุโรปและตะวันออกกลาง เมื่อการประชุมสิ้นสุดลงแล้ว เราจะเดินหน้าขั้นตอนการทำงานส่วนอื่นๆ ทันที ตามแต่กฎและระเบียบที่แต่ละประเทศวางเอาไว้

ผมได้ขอให้หัวหน้าแต่ละคน ให้รอจนสิ้นสัปดาห์นี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่สุด ผมอยากให้แต่ละคนมีเวลาในการจัดการชีวิตอยู่บ้าง และผมจะมาตอบคำถามทุกคนในเวลา 4 โมงเย็นของวันพฤหัสฯ นี้

สุดท้ายนี้

แปดสัปดาห์ของโควิด-19 ผมเรียนรู้ว่าวิกฤตจะบอกว่าอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตคุณ แม้มันจะเป็นช่วงที่วุ่นวายมาก แต่สำหรับผมหลายอย่างกลับชัดเจน

ก่อนอื่นผมขอขอบคุณทุกคน ท่ามกลางช่วงเวลาที่เจ็บช้ำนี้ พวกคุณเป็นแรงบันดาลใจให้ผม และผมกลับเห็นมุมที่ดีของแต่ละคน ในช่วงเวลาที่แย่ที่สุด โลกต้องการการเชื่อมโยงกันระหว่างผู้คน และแอร์บีเอ็นบีจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ผมมีความเชื่อมั่นแบบนี้ได้ เพราะผมเชื่อมั่นในตัวคุณ

ข้อที่สอง ผมรักพวกคุณ ภารกิจของเรามันไม่ใช่เรื่องการท่องเที่ยว ตอนเราเริ่มทำแอร์บีเอ็นบี สโลแกนแรกของเราคือ “เดินทางแบบมนุษย์” ความเป็นมนุษย์สำคัญกว่าเรื่องการเดินทาง สิ่งสำคัญของพวกเราคือการมีกันและกัน และใจกลางของการอยู่ด้วยกัน มันคือความรัก

สำหรับคนที่อยู่ต่อ

การแสดงความเคารพต่อคนที่กำลังจะจากเราไปที่ดีที่สุด คือการให้เขารับรู้ว่างานที่เขาได้ทำมานั้น มันสำคัญ และพวกเขาจะอยู่เป็นครอบครัวเราตลอดไป ผมมั่นใจว่างานของพวกเขาจะเดินหน้าต่อไป คู่ขนานไปกับภารกิจของเรา

สำหรับคนที่ต้องจากไป

ผมเสียใจจริงๆ ครับ โปรดมั่นใจไว้ว่านี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ โลกต้องการคนเก่งและมีความสามารถแบบพวกคุณ… ที่ช่วยแอร์บีเอ็นบีเติมโตมาได้ไกลขนาดนี้ ผมขอขอบคุณจากใจครับ

ไบรอัน

ที่มาข้อความจาก ไบรอัน เชสกี้  CEO และผู้ร่วมก่อตั้งแอร์บีเอ็นบี

แปลโดยนภพัฒน์จักษ์ อัตตนนท์ บรรณาธิการข่าว Workpoint News