SHARE

คัดลอกแล้ว

ภาพจาก YouTube : KCTS9

เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยายของ แฟรงก์ อบาเนล อดีตนักต้มตุ๋นบันลือโลก ที่ใช้ความฉลาดปราดเปรื่องในระดับอัจฉริยะไปในที่ผิด ด้วยการเนียนเข้าไปในวงการอาชีพต่างๆ อย่างหลากหลาย อาทิ ผู้ช่วยนักบิน , หมอ , ทนายความ และอาจารย์มหาวิทยาลัย ฯลฯ ทั้งที่ไม่เคยผ่านการศึกษาจากสถาบันที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพเหล่านี้เลย

อบาเนลก่อคดีใน 26 ประเทศทั่วโลก เป็นหนึ่งในอาชญากรที่เอฟบีไอต้องการตัวมากที่สุด และสิ่งที่น่าทึ่งยิ่งไปการนั้นก็คือ เขาเริ่มเข้าสู่เส้นทางการเป็นนักต้มตุ๋น เมื่ออายุเพียง 16 ปี

จากเด็กบ้านแตก สู่การเป็นนักต้มตุ๋น

แฟรงก์ อบาเนล มีชื่อเต็มว่า แฟรงก์ วิลเลียม อบาเนล จูเนียร์ เกิดในครอบครัวฐานะปานกลางที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 เมษายน ค.ศ. 1948 (พ.ศ. 2491) ขณะอายุ 16 ปี เขาก็ต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ขื่นขม จนนำไปสู่จุดเปลี่ยนของชีวิต เมื่อพ่อกับแม่หย่าร้างกัน ทำให้อบาเนลตัดสินใจหนีออกมาจากบ้าน พร้อมเงินติดตัวเพียง 200 ดอลลาร์สหรัฐ

ด้วยจำนวนเงินที่น้อยนิด จึงไม่เพียงพอในการยังชีพ แต่จากการเป็นนักสังเกต มีปฏิภาณไหวพริบเป็นเลิศ ทำให้เขาพบช่องโหว่งในระบบการเงินของธนาคาร ที่ในเวลานั้นเทคโนโลยีการตรวจสอบยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าใดนัก

เขาจึงเสี่ยงทำเช็คปลอมขึ้นมา ในเวลาที่นำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ก็จะแต่งตัวอย่างภูมิฐาน น่าเชื่อถือ และขณะที่พนักงานกำลังตรวจสอบรายละเอียดบนเช็ค เขาจะชวนสนทนาในเรื่องต่างๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ทำให้อบาเนลสามารถโกยเงินจากวิธีนี้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ได้ถึง 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ภาพจาก catchthemifyoucan.wordpress.com

เนียนเป็นผู้ช่วยนักบิน ในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา   

เมื่อเช็คที่เขานำไปขึ้นเงินทยอยเด้ง รวมมูลค่าเป็นเงินจำนวนมหาศาล ทางการก็เข้ามาคลี่คลายคดี แต่อบาเนลไหวตัวทันเสียก่อน จึงหนีออกจากนิวยอร์ก แล้วการเนียน “เป็นใครก็ได้ ที่เขาอยากเป็น” ก็เกิดขึ้น

อาชีพแรกที่อบาเนลเลือกที่จะเป็นก็คือ “ผู้ช่วยนักบิน” ของ  “แพนแอม” ซึ่งขณะนั้นเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา

อบาเนลเริ่มต้นด้วยการหาข้อมูล ก่อนติดต่อขอสัมภาษณ์พนักงานของแพนแอม ถึงการทำหน้าที่ผู้ช่วยนักบิน โดยอ้างว่า ตนเป็นนักเรียนในสถานศึกษาแห่งหนึ่ง ต้องการข้อมูลเหล่านี้ไปเผยแพร่ในนิตยสารของโรงเรียน

อบาเนลสอบถามข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียดยิบ ทำให้เขาเห็นลู่ทางที่จะได้เครื่องแบบผู้ช่วยนักบินมา โดยอบาเนลได้โทรไปแจ้งกับสำนักงานของสายการบินแพนแอมว่า เครื่องแบบผู้ช่วยนักบินของเขาหายระหว่างส่งไปซักอบรีดขณะพักอยู่ในโรงแรมต่างประเทศ และมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องแบบด่วน ทางสำนักงานจึงประสานไปยังฝ่ายที่รับผิดชอบ ทำให้เขาได้เครื่องแบบผู้ช่วยนักบินของแพนแอมมาอย่างง่ายดาย

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าเครื่องแบบ ก็คือเข็มกลัดเครื่องหมายของแพนแอม ซึ่งผู้ที่สามารถซื้อได้ จะต้องมีบัตรพนักงาน อบาเนลจึงติดต่อไปยังโรงพิมพ์ที่จัดพิมพ์สิ่งพิมพ์ให้แพนแอม โดยอ้างว่า ตนเป็นตัวแทนจากสายการบินต่างประเทศ สนใจจะให้ทางโรงพิมพ์พิมพ์บัตรพนักงาน จึงขอดูตัวอย่างบัตรพนักงานของสายการบินแพนแอม เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ หลังจากนั้นเขาได้ปลอมแปลงบัตรพนักงานแพนแอมขึ้นมา แล้วใช้เป็นหลักฐานในการซื้อเข็มกลัด

ระหว่างที่เนียนเป็นผู้ช่วยนักบิน อนาเบลหาความรู้ในอาชีพนี้จากกัปตันและผู้ช่วยฯ ด้วยการถาม ถาม และก็ถาม ทำให้เขาสามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างแนบเนียนและไม่มีใครสงสัย ร่วมถึงใช้สิทธิพิเศษในการเดินทางฟรีไปประเทศต่างๆ มากมาย

ต่อมาเอฟบีไอก็เริ่มระแคะระคาย เมื่อพบว่า มีการนำเช็คปลอมของสายการบินแพนแอมไปขึ้นเงินในธนาคารหลายแห่งทั่วโลก อนาเบลจึงจำต้องหนีไปอยู่ในเมืองเล็กๆ ในรัฐจอร์เจีย

เนียนเป็นกุมารแพทย์

และที่รัฐจอร์เจียนี่เอง เขาก็จับผลัดจับผูลได้เป็นหมอ เนื่องจากเขามักโม้กับใครๆ ว่าตนเองมีอาชีพเป็นกุมารแพทย์ ต่อมาเมื่อกุมารแพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งลาออก ก็มีผู้ทาบทามให้เขาไปเป็นกุมารแพทย์ที่นั่น เพราะกฎหมายของรัฐกำหนดว่า โรงพยาบาลต่างๆ ต้องมีกุมารแพทย์ประจำอย่างน้อยหนึ่งคน

แม้การปลอมเป็นแพทย์ มีโอกาสโป๊ะแตกได้ง่าย แต่ด้วยความคึกคะนอง นึกสนุก และมั่นใจว่า “ตัวเองสามารถเป็นใครก็ได้ ที่อยากเป็น” อบาเนลจึงปลอมแปลงใบอนุญาตแพทย์ และเริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะกุมารแพทย์กำมะลอ

ซึ่งจากนิสัยเป็นผู้ชอบศึกษาหาความรู้ อบาเนลจึงใช้เวลาในช่วงเข้าเวรกลางคืน อ่านตำราแพทย์อย่างจริงจัง ส่วนในการรักษาคนไข้ เขาก็ใช้ความกะล่อนเอาตัวรอดไปได้ทุกครั้ง และมีวิธีให้หมอคนอื่นมาตรวจและรักษาคนไข้แทนได้อย่างแยบยล แต่ลึกๆ แล้วเขาก็รู้สึกหวั่นๆ ว่า จะพลาดเข้าสักวัน จึงตัดสินใจออกเดินทางผจญภัยอีกครั้ง โดยจุดหมายต่อไปของอบาเนลก็คือ หลุยเซียนา

ภาพจาก catchthemifyoucan.wordpress.com

เนียนเป็นทนายความ

ระหว่างอยู่ที่หลุยเซียนา เขาโกหกคนรักว่า ตัวเองจบปริญญาโทด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด คนรักจึงแนะนำให้เขารู้จักกับทนายความในสำนักงานอัยการประจำรัฐ ที่ตอนนั้นกำลังหาผู้ช่วย และทนายความผู้นั้นก็ท้าทายอบาเนลว่า ถ้าเขาสอบได้ใบอนุญาตทนายความ ก็ยินดีรับเข้าทำงาน

แต่การสอบเพื่อให้ใบอนุญาตดังกล่าว จำเป็นต้องมีปริญญาด้านกฎหมาย อบาเนลจึงปลอมแปลงใบปริญญากฎหมายของฮาวาร์ดขึ้นมา เพื่อนำไปสมัครสอบ โดยเขาใช้เวลาศึกษาตำรากฎหมายด้วยตัวเองเพียงแค่ 2 เดือน แล้วก็สามารถสอบผ่าน ได้รับใบอนุญาตทนายความมาครอบครอง

แต่ระหว่างที่เขาทำงานในสำนักงานอัยการประจำรัฐ เพื่อนร่วมงานหลายคนก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่า อนาเบลไม่ได้จบมาจากฮาวาร์ด จนนำไปสู่การพยายามจับผิด ทำให้เขารู้สึกอึดอัด

ประกอบกับเมื่อเขาขอคนรักแต่งงาน และตัดสินใจสารภาพว่า จริงๆ แล้วเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุยังไม่ถึง 20 ปี และชื่อจริงของเขาคือ แฟรงก์ อบาเนล ด้วยความโกรธแค้นที่ถูกหลอกมาโดยตลอด รวมถึงกลัวว่าตัวเองและครอบครัวจะพลอยซวยไปด้วย เธอจึงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ เพื่อล่อเขาให้ถูกจับ ทำให้อบาเนลต้องหนีอีกครั้ง

เนียนเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย

อบาเนลได้รู้ซึ้งถึงรสชาติความเจ็บปวดจากการเป็นผู้ถูกหลอก และสิ่งที่ทำให้เจ็บปวดมากขึ้นอีกเท่าทวีคูณ เมื่อผู้ที่หักหลังเขา กลับเป็นคนที่เขารักและไว้ใจที่สุด ต่อมาเมื่อเขาหนีไปอยู่ที่ยูทาห์ รัฐทางตะวันตกของสหรัฐฯ อบาเนลก็เนียนเข้าไปเป็นอาจารย์พิเศษด้านสังคมวิทยา ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

โดยสิ่งที่น่าทึ่งก็คือ ทั้งที่เขาไม่มีความรู้ในด้านนี้มาก่อน แต่กลับเป็นอาจารย์ที่ป๊อบปูล่าร์มากๆ เหล่านักศึกษาชื่นชม ถึงขนาดร่วมกันยื่นคำร้องให้เขาได้เป็นอาจารย์ประจำ

ถึงแม้การใช้ชีวิตอาจารย์มหาวิทยาลัยจะมีความสงบสุขในระดับหนึ่ง แต่ด้วยเงินเดือนที่น้อยนิด ประกอบกับอบาเนลติดนิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เพราะที่ผ่านมาสามารถหาเงินจำนวนมากได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาจึงตัดสินใจกลับไปเนียนเป็นผู้ช่วยนักบินอีกครั้ง เนื่องจากอาชีพนี้มีช่องทางให้เขาโกยเงินจากการปลอมแปลงเช็ค ที่สามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล

ถูกรวบตัว

ในขณะที่อายุไม่ถึง 20 ปี อบาเนลก็ขึ้นทำเนียบอาชญากรที่เอฟบีไอ รวมถึงหลายประเทศต้องการตัวมากที่สุด และเมื่อระแคะระคายว่า อบาเนลกลับมาเนียนเป็นผู้ช่วยนักบินอีก ทางเอฟบีไอจึงออกประกาศจับไปยังสายการบินต่างๆ ทั่วโลก

อบาเนลจนมุมในขณะอายุ 21 ปี จากการให้เบาะแสของแอร์โฮสเตสสายการบิน  Air France เขาโดนรวบตัวในฝรั่งเศส ถูกคุมขังอยู่ที่นั่น 6 เดือน แล้วถูกส่งไปขึ้นศาลและติดคุกที่สวีเดน 1 ปี ก่อนถูกส่งตัวกลับสหรัฐฯ ประเทศบ้านเกิด

ภาพจาก catchthemifyoucan.wordpress.com

กลับมาเป็นตัวเองอย่างเเท้จริง

อบาเนล ถูกศาลสหรัฐฯ ตัดสินจำคุก 12 ปี แต่เมื่อถูกคุมขัง 5 ปี เขาก็ได้รับการปล่อยตัว ภายใต้เงื่อนไขว่า ต้องเป็นที่ปรึกษาด้านการป้องกันการฉ้อโกงให้หน่วยงานของรัฐ โดยไม่รับค่าตอบแทน

หลังออกจากคุก อบาเนลดำเนินชีวิตอย่างยากลำบาก ด้วยประวัติอาชญากร ทำให้ไม่สามารถเลือกงานได้มากนัก แม้เขาไม่ได้ปกปิดว่าตัวเองเป็นใคร แต่ก็ระมัดระวังไม่ให้คนอื่นรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขามากเกินไป ด้วยเกรงว่าหากนายจ้างเเละเพื่อนร่วมงานรู้อดีตของเขาเเล้วจะรังเกียจ ทำให้เขารู้สึกเลื่อนลอย เพราะไม่สามารถหาที่ยืนอย่างมั่นคงได้ในสังคม

กระทั่งเมื่อเขาทบทวนพิจารณาถึงเรื่องราวที่ผ่านมา คำถามที่ว่า “เขาคือใคร ?” ก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาก็คิดว่า “เป็นใครก็ได้ ที่อยากเป็น” แต่เพราะความคิดนี้นี่แหละ ที่ทำให้ชีวิตมุ่งสู่หายนะ ต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ถูกจับกุมติดคุกติดตะราง กระทั่งก่อให้เกิดความรู้สึกสับสนว่า “จริงๆ แล้ว เราคือใครกันแน่ ?”

และแล้วในวันที่ผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย ก็ทำให้เขาเลือกที่จะกลับมาเป็นตัวเองอย่างแท้จริง เป็น แฟรก์ อบาเนล ผู้ที่เคยผิดพลาด แต่ไม่ขอกลับไปยังเส้นทางเดิม จะไม่ต้มตุ๋นหลอกลวงใครๆ อีก

เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงเดินทางไปยังธนาคารแห่งหนึ่ง แล้วเล่าถึงความผิดพลาดในอดีต ระหว่างใช้ชีวิตเป็นนักต้มตุ๋น ก่อนเสนอตัวเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่ธนาคาร เพื่อป้องกันกลโกงจากเหล่ามิจฉาชีพ ปรากฏว่าผู้บริหารธนาคารแห่งนั้นสนใจ และว่าจ้างอบาเนลเป็นที่ปรึกษาในทันที

ต่อมาเขาได้ก่อตั้ง  Abagnale & Associates บริษัทให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยจากธุรกรรมทางการเงิน ร่วมถึงเป็นวิทยากรบรรยายให้กับองค์กรต่างๆ ทั่วโลก เเละได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองผ่านหนังสือที่ชื่อว่า Catch Me If You Can เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ที่ผู้ได้อ่านต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า สนุกจนวางไม่ลง เเละได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย รวมถึงเวอร์ชั่นแปลไทย ที่ชื่อว่า แฟรงก์ อบาเนล ยอดนักตุ๋น

จากความโด่งดังของหนังสือเล่มดังกล่าว จึงมีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Catch Me If You Can (จับให้ได้ ถ้านายแน่จริง) โดยมี สตีเว่น สปีลเบิร์ก รับหน้าที่ผู้กำกับ ส่วนผู้รับบทเป็นอบาเนล ก็คือ ลีโอนาโด ดิคาปริโอ ที่ต้องหักเหลี่ยมเฉือนคมกับ ทอม แฮงค์ ในบทเอฟบีไอคู่ปรับ

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวสุดเหลือเชื่อ ของอดีตนักต้มตุ๋น ที่เคยใช้ความฉลาดในระดับอัจฉริยะไปในทางที่ผิด แต่เมื่อได้รับโทษทัณฑ์และสำนึกได้ เขาก็เลือกเส้นทางสายใหม่ โดยการให้ความรู้และคำแนะนำเพื่อต่อกรกับเหล่ามิจฉาชีพ ที่ไม่เพียงป้องกันความเสียหายให้กับสถาบันการเงินและบุคคลต่างๆ แต่ยังสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ จนทำให้อบาเนลกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมาได้ ในฐานะสุจริตชน

อ้างอิงจาก

แฟรงก์ อบาเนล ยอดนักตุ๋น (Catch Me If You Can) ผู้เขียน : แฟรงก์ วิลเลียม อบาเนล จูเนียร์ แปลโดย : โรจนา นาเจริญ

ภาพยนตร์ Catch Me If You Can กำกับ : สตีเว่น สปีลเบิร์ก

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า