สบส. ไฟเขียวให้ รพ.เอกชน โฆษณารับจองวัคซีนโควิด-19 ตามเงื่อนไข 5 ข้อ ย้ำห้ามโฆษณาโอ้อวดเกินจริง
วันที่ 16 มิ.ย. 2564 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรม สบส.ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกำหนดแนวทางในการโฆษณาเบื้องต้นไว้ 5 ข้อ สำหรับการโฆษณาจองวัคซีนโควิด-19 ของสถานพยาบาลเอกชน คือ
1.วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่จะโฆษณาต้องได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยา และได้รับการอนุมัติให้โฆษณายาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
2. โฆษณาหรือประกาศเกี่ยวกับสถานพยาบาล กรณีการจองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ต้องยื่นขออนุมัติจากผู้อนุญาต ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 คือ กรม สบส. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หากได้รับการอนุมัติแล้วจึงสามารถเผยแพร่โฆษณาได้
3. หากสถานพยาบาลมีการเรียกเก็บเงินมัดจำ หรือค่าใช้จ่ายใดๆ จากประชาชน หากไม่สามารถดำเนินการตามถ้อยคำที่ปรากฏในโฆษณา จะต้องคืนเงินมัดจำหรือค่าใช้จ่ายใดๆเต็มจำนวน
4. การกำหนดระยะเวลาในการฉีดวัคซีน ต้องกำหนดระยะเวลาให้ใกล้เคียงที่จะได้รับวัคซีนมาให้บริการจริงมากที่สุด เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนเกิดความคาดหวังเกินจริงกับระยะเวลา และป้องกันมิให้ประชาชนต้องรอคอยเนิ่นนานจนเกินสมควร
5. ในการโฆษณาทุกครั้งต้องระบุข้อความ “รัฐบาลได้มีการจัดสรรวัคซีนโควิด 19 ให้กับประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย” และ “ส่วนการจองวัคซีนโควิด 19 ของสถานพยาบาลเอกชนเป็นทางเลือกหนึ่งที่ประชาชนสามารถเลือกรับบริการได้ แต่ต้องชำระค่าใช้จ่ายเอง” เพื่อให้ประชาชนได้พิจารณาตัดสินใจก่อนรับบริการ
ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาการโฆษณาจองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของสถานพยาบาลเอกชนมิได้มีการขออนุมัติอย่างถูกต้อง กรม สบส.จึงต้องมีคำสั่งให้ระงับการโฆษณา ด้วยเนื้อหาของโฆษณาที่ยังไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัตินั้น อาจจะมีข้อความที่ไม่ถูกต้อง สร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชน ประกอบกับที่ผ่านมาภาคเอกชนก็ยังไม่มีกำหนดเวลาของวัคซีนที่เข้ามาอย่างชัดเจน และบางครั้งก็มีการเก็บค่ามัดจำ/ค่าจองซึ่งเป็นภาระของภาคประชาชน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความคาดหวังเกินจริงและร้องเรียนภายหลังได้
กรม สบส.จึงขอกำชับให้สถานพยาบาลเอกชนที่ต้องการโฆษณาหรือประกาศที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ยื่นคำขออนุมัติโฆษณาหรือประกาศให้ถูกต้องทุกครั้ง โดยโฆษณาหรือประกาศฯ ที่ผ่านการอนุมัติแล้ว ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้รับบริการ ช่วยลดปัญหาการฟ้องร้อง และป้องกันการถูกดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่ อีกทั้ง เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันด้านธุรกิจสถานพยาบาล ที่กำหนดให้การโฆษณาหรือประกาศฯ จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน