Smart Farming ถูกใช้ผสมผสานในภาคเกษตรกันมาหลายปีแล้ว แม้ดูเหมือนจะถูกใช้เป็นหลักในภาคเกษตรอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มากกว่า หรือเห็นกันตามแปลงเกษตรอินทรีย์ และแปลงเกษตรแนวทดลองที่ใช้ระบบ IoT (Internet of Things) ควบคุมทุกอย่างผ่านทางอินเทอร์เน็ต เช่น ใช้เซ็นเซอร์ตรวจอากาศ เซ็นเซอร์วัดดิน เซ็นเซอร์ตรวจโรคพืช ตรวจวัดผลผลิต เพื่อเก็บข้อมูลความชื้นในดิน อุณหภูมิ ปริมาณแสง และสารเคมี
แต่ตอนนี้ในวงการเกษตรต่างประเทศกำลังพูดถึงสิ่งที่ก้าวหน้าไปอีกขั้น โดยมีการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาร่วมทำงานกับอุปกรณ์การเกษตรเพื่อใช้เป็นแรงงานเกษตรแทนมนุษย์ให้มากขึ้นไปอีก ด้วยการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า ‘AI Cultivators’ ขึ้นมา
แนวคิดการพัฒนา AI Cultivators เทียบกันก็เหมือนอุปกรณ์การเกษตรยุคใหม่ที่ฉลาดเอามาก ๆ โดยนอกจากจะเป็นอุปกรณ์ทางการเกษตรอัจฉริยะที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว คือ ทำการปลูกได้ กำจัดศัตรูพืชได้ ใส่ปุ๋ยให้พืชผลได้ โดยจะมีการติดตั้งซอฟท์แวร์ เซนเซอร์ และกล้อง ควบคุมและประมวลผลด้วยระบบ AI ให้ทำงานในพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งไม่สร้างความเสียหายให้กับพืชผลด้วย
และอีกหน้าที่ของมันยังถูกออกแบบมาว่าจะสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
AI Cultivators ถูกคาดหวังว่าจะมีส่วนช่วยปฏิวัติการเกษตรของโลกได้ ที่สำคัญหากผู้พัฒนาสามารถทำให้อุปกรณ์นี้มีราคาไม่แพง และเกษตรกรเข้าถึงได้
บริษัทเกษตรในต่างประเทศกำลังให้ความสนใจกับระบบ AI Cultivators โดยมีบริษัทนวัตกรรมด้านการเกษตรอย่างน้อย 3 ราย กำลังเร่งพัฒนา
FarmWise กำลังสร้างเครื่องกำจัดวัชพืชอัจฉริยะแทนแรงงานมนุษย์ ที่จะต้องทำหน้าที่อย่างแม่นยำ กำหนดเป้าหมายได้ โดยไม่ให้พืชผลได้รับผลกระทบ ซึ่งบริษัทจะต้องสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ให้ AI แยกแยะให้ได้ระหว่างพืชผลกับวัชพืช
Abundant Robotics กำลังออกแบบรถเก็บเกี่ยวผลแอปเปิ้ลที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถเลือกเก็บแอปเปิ้ลจากต้นได้อย่างนุ่มนวล ไม่ทำให้ตัวผลช้ำ เสียหาย ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของสวนลดต้นทุนค่าแรงเก็บผลไม้ และลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานเก็บผลไม้ รวมทั้งเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้นจากการเก็บผลไม้ที่มีประสิทธิภาพไม่เสียหาย
Lely Industries บริษัทที่เด่นเรื่องพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเลี้ยงโคนม กำลังพัฒนา AI ที่บริหารจัดการดูแลให้อาหารเลี้ยงสัตว์อย่างแม่นยำ โดยติดตั้งเซ็นเซอร์และระบบควบคุมอัตโนมัติ ทำหน้าที่แทนแรงงานที่ให้อาหารสัตว์
ความเชื่อว่า AI Cultivators จะมาช่วยปฏิวัติวงการเกษตรได้ ?
– AI Cultivators ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ทำหน้าที่ดูแลไร่นาแบบไม่รู้เหน็ดเหนื่อย และมีความแม่นยำในการทำงานมากกว่าแรงงานมนุษย์ แน่นอนว่าทำให้ได้ผลผลิตที่สูงขึ้น และลดผลผลิตที่เสียหาย ทำให้ในต่างประเทศหวังว่า AI Cultivators จะมาเป็นตัวเปลี่ยนเกมของอุตสาหกรรมเกษตร
– ช่วยลดต้นทุนแรงงาน โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติที่ทำให้ทดแทนแรงงานเข้มข้นได้ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรประหยัดเวลาและค่าแรง เพราะเครื่องจักรที่ติดตั้งระบบ AI Cultivators สามารถทำหน้าที่ปลูก กำจัดวัชพืช และใส่ปุ๋ยพืชผลโดยไม่ต้องใช้มนุษย์เลย
– ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม เพราะความสามารถของโปรแกรมที่มีความแม่นยำในการวิเคราะห์พืชผล AI Cultivators ถูกออกแบบให้หลีกเลี่ยงการใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยเคมีในพื้นที่ไม่ต้องการได้
เป็นตัวอย่างการใช้เทคโนโลยี AI มาเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับวงการเกษตรเพื่อลดต้นทุนเพิ่มรายได้ บนพื้นฐานที่บริษัทนวัตกรรมเหล่านี้ตั้งใจพัฒนาให้ต้นทุนของอุปกรณ์ AI Cultivators มีราคาไม่แพงและเกษตรกรเข้าถึงได้ในทุกขนาดพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อไม่ให้เทคโนโลยี AI ถูกมองว่าจำกัดใช้อยู่เพียงในระบบเกษตรอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เท่านั้น แต่บรรดาไร่นาขนาดเล็กสามารถเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านี้ได้ด้วย
สถานการณ์ตอนนี้ AI Cultivators ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา แต่ก็ถูกคาดหวังว่ามีศักยภาพที่จะเป็นส่วนหน่ึงในการปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรได้ ถ้าทำสำเร็จและมีการใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นแนวคิดของยุคเกษตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่คาดว่ากำลังมาถึง เช่นเดียวกับในอีกหลายวงการทั่วโลกที่เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้อย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น
โดยผลสำรวจ ของ PwC พบว่า ผู้บริหารธุรกิจกว่า 54 % ระบุว่า AI ได้เพิ่มโปรดักทีฟให้องค์กร ส่วนข้อมูลจาก McKinsey ระบุว่า AI สามารถลดต้นทุนได้ 20-30 %
แล้ว AI สามารถทำอะไรให้กับอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรได้บ้าง โซลูชั่นที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะทำให้แรงงานคนในภาคการเกษตรได้รับผลกระทบ หรือจริง ๆ เป็นข้อดีของภาคเกษตรในอนาคต?