การฟื้นตัวของธุรกิจสายการบินนับตั้งแต่พ้นวิกฤตโควิด-19 มาได้ถือว่าคึกคักอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงจะทำให้สายการบินต่างๆ กลับมามีกำไรแต่ยังทำให้เกิดเส้นทางการบินใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย
เช่นเดียวกับ ‘AirAsia’ ที่ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านเป็นอีกหนึ่งสายการบินที่มีการขยับขยาย ทั้งการตัดสินใจควบรวม AirAsia X และการเปิดเส้นทางการบินใหม่ล่าสุดแห่งที่ 7 ณ ประเทศกัมพูชา
โดย ‘โทนี่ เฟอร์นานเดส’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Capital A ได้เล่าถึงเหตุผลของการตัดสินใจเปิดเส้นทางการบินใหม่ที่กัมพูชาว่า กัมพูชาเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจด้วยที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ภายในภูมิภาคอาเซียน ทำให้กัมพูชามีเส้นทางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดี
และด้วยจำนวนประชากรกัมพูชากว่า 17 ล้านคนกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโต ทำให้มีฐานลูกค้าที่หลากหลายจึงมีความต้องการเดินทางภายในประเทศที่สูงขึ้น
ซึ่งสายการบิน ‘แอร์เอเชีย กัมพูชา’ เป็นการร่วมทุนระหว่างกลุ่ม AirAsia ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 51% กับบริษัทท้องถิ่นสิวิไล เอเชีย ถือหุ้นในสัดส่วนที่เหลืออีก 49%
โดยได้เปิดให้บริการเที่ยวบินเเรกเมื่อ 2 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ (PNH) ด้วยเครื่องบินเริ่มต้นแอร์บัส A320 จำนวน 2 ลำ
ที่จะเชื่อมต่อจากพนมเปญไปยังเมืองยอดนิยมอย่างเสียมราฐและสีหนุวิลล์ และจุดหมายปลายทางอื่นๆ ผ่านศูนย์กลางการบินในกัวลาลัมเปอร์และกรุงเทพ
นอกจากนี้ ‘โทนี่’ ยังพูดถึงพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนที่เปลี่ยนไปหลังโควิด-19 ผู้คนเริ่มออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และมีการใช้จ่ายไปกับการท่องเที่ยวในอัตราที่สูงขึ้น
ถือเป็นโอกาสดีของธุรกิจสายการบินที่จะได้มองหาสิ่งใหม่ๆ ทาง Capital A จึงได้มองหาเส้นทางอื่นๆ ที่มีศักยภาพเพิ่มเติม หลังจากประกาศเปิดตัวในกัมพูชาไป เช่น เวียดนาม สิงคโปร์ จีน และอินเดีย
ในขณะที่ ‘วิสธ นัม’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์เอเชีย กัมพูชา ได้บอกว่า จากการขยายเครือข่ายบินที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในอาเซียนเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ยมากกว่า 10% ต่อปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ดังนั้นการเปิดเส้นทางบินใหม่ในกัมพูชาครั้งนี้ จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในอาเซียนจากการท่องเที่ยวที่คึกคัก รวมถึงส่งเสริมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมให้ทั่วทั้งภูมิภาค
โดยปัจจุบันแอร์เอเชีย กัมพูชาจะให้บริการเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางในประเทศเป็นหลักก่อน จากนั้นจึงขยายไปยังเส้นทางระหว่างประเทศต่างๆ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2567