ศึกเน็ตบ้านเดือด AIS ซื้อกิจการ 3BB สู้ TRUE ที่เป็นเจ้าตลาด

ถือเป็นมูฟเมนต์ที่น่าสนใจสำหรับ AIS ท่ามกลางการพยายามควบรวมกันระหว่างคู่แข่งอย่าง Dtac และ TRUE ล่าสุด AIS เข้าซื้อกิจการ 3BB บริการเน็ตบ้านอีกเจ้าที่คนไทยใช้งานกันมากถึง 2.4 ล้านราย 

ข่าวลือการซื้อ 3BB นั้นมีมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก่อนหน้านี้ JAS เจ้าของ 3BB ปฏิเสธว่าไม่มีการซื้อขายใดๆ แต่ล่าสุด มีเอกสารการเข้าซื้อเผยแพร่โดย SET แล้ว 

การซื้อ 3BB ทำในนามบริษัทย่อยของ AIS คือ บริษัทแอดวานซ์  ไวร์เลส เน็ทเวอรค์ จำกัด (AWN) เป็นผู้ซื้อ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTT) จำนวน 7,529,242,385 หุ้น คิดเป็น สัดส่วนร้อยละ 99.87 ของจำนวนหุ้นที่ขายแล้วทั้งหมด และเป็นการซื้อมาจากเจ้าของเดิมอย่าง JAS (บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มหาชน)

นอกจากซื้อ 3BB แล้ว ยังซื้อ หน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอรเ์น็ตจัสมิน จาก JAS จำนวน 1,520,000,000 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.00 คิดเป็นมูลค่ารวม 12,920 ล้านบาท

รวมทั้งสองธุรกรรม ซื้อไปทั้งหมด 32,420 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อก็ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบจาก กสทช. ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาสแรกปีหน้า

ก่อนหน้านี้ Bangkok Post รายงานความคืบหน้าการเข้าซื้อ บอกว่าการที่ AIS ซื้อ TTTBB ซึ่งให้บริการภายใต้แบรนด์ 3BB จะทำให้ AIS เป็นผู้ให้บริการบรอดแบนด์รายใหญ่อันดับสองของประเทศ รวมผู้ใช้บริการ 4.3 ล้านคน ในขณะที่อันดับหนึ่งอย่าง TRUE มี 4.7 ล้านคน

ดีลดังกล่าว ช่วยให้ AIS ขยายธุรกิจบรอดแบนด์ในพื้นที่ชนบท ผ่านเครือข่ายไฟเบอร์ของ JASIF ได้ด้วย อีกนัยหนึ่งก็เป็นการสู้การควบรวมของคู่แข่ง TRUE-DTAC ที่หลายฝ่ายมองว่ายังไงก็ควบรวมสำเร็จแน่นอน 

มีข้อมูลจาก นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า การลงทุนขยายธุรกิจในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญตามเป้าหมายกลยุทธ์ของบริษัทฯ เพื่อขยายการเติบโตในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน และมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ผ่านสายไฟเบอร์ที่ครอบคลุมลูกค้าที่กว้างขวางมากขึ้น

ให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากบริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพที่ดี อีกทั้ง จะช่วยให้การพัฒนาโครงข่ายไฟเบอร์ในประเทศไทยโดยรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดทอนความซ้ำซ้อนของการลากสายไฟเบอร์โดยไม่จำเป็นซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นายสมชัย กล่าวต่อด้วยว่าโดยรวมแล้วการลงทุนนี้จะส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มของธุรกิจและผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว นอกจากนี้การที่บริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและได้เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักและผู้เช่าของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน จะส่งเสริมให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงขึ้น รวมถึงจะมีการปรับเงื่อนไขให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาวพร้อมทั้งสร้างโอกาสแก่กองทุนในการลงทุนทรัพย์สินโทรคมนาคมของบริษัทฯ เพิ่มเติมในอนาคต

ที่มา : SET, Bangkok Post, Brand Inside