Alcopop เล็ง “Harry Potter Live” หลัง “Amadeus Live” โชว์ออเคสตราพร้อมฉายหนังประสบความสำเร็จ

จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และจบลงอย่างสุดประทับใจ สำหรับ “Amadeus Live” (อะมาดิอุส ไลฟ์) โชว์ครั้งแรกในเมืองไทยที่ฉายภาพยนตร์แบบ 4kHD screen เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของ Mozart (โมสาร์ท) หรือชื่อเต็มคือ Wolfgang Amadeus Mozart (โวฟ์กัง อะมาดิอุส โมสาร์ท) ศิลปินนักประพันธ์เพลงคลาสสิกของโลก ไปพร้อมการบรรเลง soundtrack และ score ของภาพยนตร์แบบสดๆ (Live in-sync) โดยวงออเคสตราอาชีพเพียงวงเดียวของไทย Thailand Philharmonic Orchestra (TPO) และ Choirs of Mahidol University ซึ่งจัดเต็มวงร้อยกว่าชีวิต โดยมีคอนดักเตอร์ระดับโลกอย่าง Ludwig Wicki มากำกับวง

โชว์ดังกล่าวจัดขึ้นเพียงสองรอบเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ณ มหิดลสิทธาคาร (Prince Mahidol Hall) มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา นับเป็นโชว์สุดอลังการที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ เลยในบ้านเรา และแน่นอนว่าได้รับกระแสตอบรับอย่างดียิ่ง

Ludwig Wicki

Ludwig Wicki (ลุดวิก วิกกิ) คอนดักเตอร์ผู้ควบคุมวง ซึ่งมีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก รวมทั้งเป็นผู้ก่อตั้งวง 21st century Symphony Orchestra ได้กล่าวถึงความรู้สึกในการแสดงโชว์ครั้งนี้ว่า ตัวเขาตื่นเต้นมากที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของ Amadeus Live ในประเทศไทย เพราะเป็นครั้งแรกในเอเชีย ซึ่งแม้จะเคยไปออสเตรเลียมาแล้ว แต่ครั้งนี้เป็น Classical 100% เต็ม

งานทุกอย่างต้องโฟกัส ต้องลงเจาะรายละเอียดทุกอย่าง จึงมีความจริงจัง มีความละเอียดอ่อนมากกว่างานอื่นๆ ที่เขาทำมา ไม่ว่าจะเป็น Lord of the ring หรืออะไรก็ตาม ซึ่งเขาได้ชื่นชมวงดนตรีออเคสตราของไทยด้วยว่า คนไทยเป็นคนทำงานหนัก มีความพยายามที่จะฟังและพัฒนาตัวเองได้ดีขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งตัวเขาเองเป็นแฟนพันธุ์แท้ของโมสาร์ท จึงอยากจะให้ทุกอย่างออกมาสำเร็จ

นอกจากนี้ Amadeus LIVE ยังเป็นโชว์ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งที่ Royal Albert Hall London, David Geffen Hall New York ซึ่งสำหรับ Jack Stookes (แจ็ค สตูกส์) โปรดิวเซอร์ของโชว์ในไทยครั้งนี้มองว่า ส่วนตัวเขาแล้วไม่รู้สึกกดดัน แต่นี่คือความท้าทาย

Jack Stookes

แจ็ค บอกว่า ต้นฉบับภาพยนตร์ Amadeus นั้นยาวมาก ซึ่งเขาต้องนำมามิกซ์ให้เข้ากับวงออเคสตรา ช่วงไหนออเคสตราแทรกได้หรือไม่ได้ ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 1 ปี ในการตัดต่อ แก้ไข และปรับให้เข้ากันทั้งเรื่องภาพและออเคสตรา

“มี 2 เหตุผล ที่ผมเลือกทำเรื่องนี้ เหตุผลแรกคือ Amadeus เป็นหนังที่ดี ตลก มีความรู้สอดแทรก เหตุผลที่สองคือ โมสาร์ทเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ มีผลงานมาสเตอร์พีซที่ดีมากมาย มันเป็นอะไรที่หายาก อีกอย่างคือโชว์แบบนี้ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆ มันเป็นอะไรที่พิเศษจริงๆ แล้วเท่าที่ทำงานกับคนไทยมา ทุกอย่างก็ลื่นไหล และเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ ผมอยากให้ทุกคนที่ได้มาดูโชว์ครั้งนี้กลับบ้านไปแล้วยิ้ม มีความสุข”

ทางด้าน ดารริน ภาษีผล หรือ คุณนุ่น International Content Promoter แห่ง Alcopop Group ผู้จัดงานครั้งนี้ กล่าวว่า ส่วนตัวเคยดู Amadeus หลายรอบ รู้สึกประทับใจ และมองว่าโมสาร์ทเป็นนักดนตรีที่เก่งที่สุดในโลก จึงได้คุยกับทางต่างประเทศ กระทั่งได้นำมาแสดงที่ประเทศไทย

ดารริน ภาษีผล

“จริงๆ แล้วเป็นครั้งแรกในไทยที่มีการแสดงแบบนี้ เป็นการดูหนังพร้อมกับได้ยกเอา soundtrack ในหนังออกมาเล่นสดๆ โดยวงออเคสตรา แล้วคอนดักเตอร์ก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่ได้บินมาช่วยกำกับวงให้ ซึ่งมันคงเป็นประสบการณ์ครั้งนึงในชีวิตของคนเราที่น่าจะได้สัมผัสอะไรแบบนี้ น่าจะได้ยิน ได้เห็น หรือได้รับชม คิดว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ แล้วที่จริงดนตรีคลาสสิกก็เป็นสิ่งที่ใกล้ตัว ไม่ว่าจะดูหนัง ดูโฆษณา หรือเพลงที่เปิดตามโรงแรม ตามห้างสรรพสินค้า ล้วนมีเพลงออเคสตรา มีดนตรีคลาสสิกอยู่ด้วย”

ด้วยความที่ Amadeus Live เป็นโชว์ที่มีมาตรฐานสูง ดังนั้น สถานที่ในการจัดแสดงจึงต้องครบและพร้อม ซึ่งเรื่องนี้คุณนุ่นบอกว่า เหตุผลที่ต้องแสดงที่ “มหิดลสิทธาคาร” เพราะเป็นที่เดียวในเมืองไทยที่ทางเมืองนอก approve ซึ่งทาง Alcopop ได้ส่งสถานที่จัดงานหลายๆ ที่ไปให้เลือก แต่สุดท้าย “มหิดลสิทธาคาร” ก็เป็นที่เดียวในเมืองไทยที่วงออเคสตราจะสามารถเล่นได้เต็มวง และได้เสียงที่ดี ครบทุกอย่าง

มหิดลสิทธาคาร

ผลจากความทุ่มเทของทีมงาน และการฝึกซ้อมอย่างหนัก จึงทำให้ “Amadeus Live” ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งคุณนุ่นได้กล่าวทิ้งท้ายถึงโปรเจกต์ต่อๆ ไป ที่เชื่อแน่ว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีไม่แพ้กัน

“Amadeus Live มีกระแสดีมาก เรื่องต่อๆ ไปที่คิดว่าจะนำเข้ามาทำคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์, สตาร์วอร์ส, ไททานิค รวมทั้งอาจจะมีเรื่องอื่นๆ ตามมาเรื่อยๆ”

ใครไม่ได้ไปดู Amadeus Live ครั้งนี้ ปาดน้ำตาแล้วคอยติดตามโชว์ครั้งต่อๆ ไปได้ที่ FB: Alcopop Group จะได้ไม่พลาดอีก