Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

กลุ่มบริษัทอาลีบาบา (Alibaba Group) ของจีน รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ที่ดีเกินคาด แม้จะมีการระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผลกระทบต่อธุรกิจในประเทศ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม

โดยในรอบปีบัญชี 2020 กลุ่มบริษัท อาลีบาบา มีรายรับในช่วง 12 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2020 อยู่ที่ 72,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรจากผลการดำเนินงาน เพิ่มขึ้น 60% โดยมีกำไร 12,900 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 411,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นายแดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอของอาลีบาบา เตือนว่า บริษัทกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนในอนาคต

เขากล่าวในระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์กับนักลงทุนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “การต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ยังไม่จบ แม้ว่าจีนจะประสบความสำเร็จในการจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้แล้วก็ตาม แต่ภัยคุกคามของการระบาดใหญ่ ยังคงมีอยู่ในอีกหลายพื้นที่ทั่วโลก เวลาและโอกาสในการฟื้นตัวยังคงไม่แน่นอน”

นอกจากนี้ นายแดเนียล จาง ยังรับทราบถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนให้กับโลก หลังโควิด-19 เพิ่มขึ้นไปอีก

ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทอาลีบาบา มีมูลค่าอยู่ที่ 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถือเป็นบริษัทด้านอี-คอมเมิร์ซ รายใหญ่ที่สุดของจีน ชาวอเมริกันส่วนหนึ่งมักเรียกอาลีบาบาว่า “จีนแอมะซอน” (Chinese Amazon) ด้วยรูปแบบธุรกิจที่คล้ายคลึงกันกับ แอมะซอน ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจ-อีคอมเมิร์ซ รายใหญ่ของสหรัฐฯ

นอกจากธุรกิจด้านอี-คอมเมิร์ซ แล้ว ทั้ง อาลีบาบา และ แอมะซอน ยังมีธุรกิจให้บริการอื่นๆ รวมถึงการให้เช่าใช้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์อีกด้วย

แอมะซอน ก่อตั้งในปี 1994 โดยนายเจฟฟ์ เบซอส และเริ่มเปิดให้บริการออนไลน์ในปี 1995 โดยเริ่มต้นจากการขายหนังสือออนไลน์ ก่อนที่จะขยายสินค้าและบริการด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซ, ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์, เว็บเซอร์วิส (AWS), วิดีโอออนดีมานด์ ได้แก่ แอมะซอน ไพรม์ (Amazon Prime) และอื่นๆ

ส่วนอาลีบาบา ก่อตั้งในปี 1999 โดยนายแจ็ก หม่า โดยเริ่มต้นจากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก ผู้ผลิต และผู้ประกอบการณ์รายเล็กของจีน ในการค้าขายในต่างประเทศผ่านระบบออนไลน์ ก่อนที่จะขยายกิจการไปยัง เว็บไซต์ค้าปลีกในประเทศ อย่าง “เถาเป่า” (Taobao), “ทีมอลล์” (TMALL), บริการค้าส่งในประเทศ 1688, บริการเสิร์ช เอ็นจิ้น “อีเทา” (Etao) สำหรับการค้นหาสินค้าในประเทศจีน, โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์, ช่องทางการชำระเงิน “อาลีเพย์” (Alipay) และธุรกิจการเงิน “แอนต์ ไฟแนนเชียล” (Ant Financial), แพลตฟอร์มด้านการบริการจัดส่งสินค้า “ไช่เหนี่ยว” (Cainiao) และอื่นๆ

 

 

ทั้งนี้ ผลประกอบการณ์ในรอบ 12 เดือน สิ้นสุด ณ เดือนมีนาคม 2020 ที่ผ่านมา ของทั้งสองบริษัทฯ ที่มีความคล้ายคลึงกันมาก โดยแอมะซอน มีรายได้รวมทั่วโลก อยู่ที่ 296,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับว่าสูงกว่ารายได้ของอาลีบาบา ถึง 4 เท่า แต่ในแง่ของผลกำไรนั้น อาลีบาบามีผลกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 12,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่แอมะซอน มีผลกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 14,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นกำไรที่ใกล้เคียงกันกับอาลีบาบา

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า