SHARE

คัดลอกแล้ว
ประเด็นเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรม กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง เมื่อ นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายเรื่องนี้ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ในวาระรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติปี 2562 และรายงานของคณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ
ส.ว.คำนูณ เสนอว่า ถึงเวลาที่รัฐบาลจะต้องเร่งตรากฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนจากความผิดที่เกิดขึ้นหรือเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ที่ทำให้สังคมไทยแบ่งแยกออกเป็นอย่างน้อย 2 ขั้วแล้วก็แบ่งแยกย่อยกันไปอีกมากขึ้นทุกที สังคมไทยร้าวลึกแม้กระทั่งในระดับครอบครัว มีผู้คนในขณะนี้ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วอยู่ในคดีนับร้อยคนบางคนตายไปแล้ว
“บางคน…เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมานี้…ผมไปเยี่ยมเขา…เฝ้าดูลมหายใจสุดท้ายของเขา”
ซึ่งคาดว่าจะหมายถึง ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ที่เสียชีวิตในวันดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นมีคดีในฐานะแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2
ส.ว.คำนูณ ระบุว่า ถ้านายกรัฐมนตรีจะผลักดันเรื่อง “รวมไทยสร้างชาติ” แต่ยังมีคนต้องขึ้นศาล ได้รับผลกระทบ ถูกยึดทรัพย์ จะไม่สำเร็จ แต่ถ้าทำได้ “จะเป็นการสร้างบารมีให้กับท่านนายกรัฐมนตรีเอง ในการที่จะดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ”
ข้อเสนอเบื้องต้นของเขาคือ
1.นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองโดยตรง
2. นิรโทษกรรมในเบื้องต้นเฉพาะผู้ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว
3. ผู้ที่ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือหนีคดี ถ้ากลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม และเมื่อผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาซึ่งจะต้องออกแบบตั้งขึ้นมา ก็สามารถจะได้สิทธิ์นี้
4. ต้องตีความกำหนดนิยามว่า “เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับการชุมนุมทางการเมือง…” ให้ชัดเจน
ถ้าเป็นไปตามข้อเสนอนี้ แกนนำผู้ชุมนุมทั้ง พันธมิตรฯ, นปช., กปปส. ในส่วนคดีการเมืองก็จะได้รับการนิโทษกรรมทั้งหมด แต่จะไม่รวม นายทักษิณ ชินวัตร, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคดีทุจริต รวมทั้งคาดว่าจะไม่รวมผู้มีคดีตามกฎหมายอาญา มาตรา 112
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปที่ความพยายามในการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม (ซึ่งไม่ใช่กรณีการล้างผิดหลังรัฐประหาร) รอบล่าสุด ได้กลายชนวนเหตุทางการเมืองครั้งสำคัญ คือ ความพยายามของพรรคเพื่อไทย ในการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ฉบับที่ถูกเรียกว่า “สุดซอย”
เดิมร่างนี้เสนอโดยนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ (ซึ่งตอนนี้ถูกจำคุกในคดี ล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา) เพื่อนิรโทษกรรมให้เฉพาะ ผู้ชุมนุม ผู้แสดงออกทางการเมือง หรือประท้วง โดยไม่รวมแกนนำและผู้สั่งการ ตั้งแต่หลัง 19 ก.ย. 2549 – 10 พ.ค. 2554 หากอยู่ระหว่างถูกสอบสวนก็ให้ระงับ อยู่ระหว่างถูกฟ้องต่อศาลก็ให้ถอนฟ้อง ถ้าติดคุกอยู่ก็ให้ปล่อยตัว
อย่างไรก็ตามเมื่อร่างกฎหมายนี้เข้าสู่ขั้นตอนของคณะกรรมาธิการ ได้มีการแก้ไขเนื้อหาสำคัญโดย นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ ส.ส.เพื่อไทย เจ้าของฉายา “หัวเขียง” ให้ย้อนกลับไปมีผลตั้งแต่ปี 2547 และมีผลถึง 8 ส.ค. 2556 และนอกจากผู้ที่ชุมนุมหรือแสดงออกทางการเมืองแล้ว ยังให้นิรโทษกรรมให้กับผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 โดยยกเว้นไม่รวมคดี 112
การขยายความในเรื่องนี้ทำหมายรวมไปถึงคดีความของนายทักษิณ ชินวัตรด้วย
ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ที่ถูกเรียกว่า ฉบับสุดซอย (เนื่องจากมีการระบุว่า นายทักษิณ เคยพูดว่า ร่างฉบับของนายวรชัย ครึ่งๆ กลางๆ ไม่สุดซอย) ถูกต่อต้านจากหลายกลุ่มแม้แต่ในปีกกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วน เพราะจะมีผลนิรโทษกรรมให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ขณะนั้นยังมีคดีความเรื่องสลายการชุมนุมในปี 2553 ด้วย และทั้งคู่ก็ประกาศขอสู้คดีโดยไม่ใช้วิธีนี้
หลังพรรคเพื่อไทยใช้เสียงข้างมากผ่านในชั้นกรรมาธิการ การพิจารณาในสภาวาระที่ 2-3 ถูกประท้วงอย่างหนัก แต่ก็ผ่านสภาไปได้ในช่วง 04.30 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 2556 จนถูกให้ฉายาอีกชื่อว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับลักหลับ
ความพยายามเดินหน้า นำไปสู่การก่อตัวชุมนุมประท้วงตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.2556 นำโดยกลุ่ม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และขยายตัวจนกลายเป็นการประท้วงใหญ่ ก่อกำเนิดกลุ่ม กปปส. ในเวลาต่อมา
ส่วนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะถูกตีตกในขั้นตอนวุฒิสภา ด้วยแรงกดดันอย่างหนัก และเมื่อส่งกลับมาที่สภาผู้แทนราษฎร ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลได้ประกาศจะไม่นำกฎหมายนิรโทษกรรมมาพิจารณาอีก แต่การชุมนุมประท้วงก็ไม่ยุติ จนนำไปสู่การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศยุบสภา
สถานการณ์ในปี 2556 ที่ความขัดแย้งทางการเมืองพุ่งสูงมาก ประกอบกับการแก้ไขเนื้อหาที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่า “มากเกินไป” จนทำให้การนิรโทษกรรม ที่หวังจะช่วยผู้ชุมนุมที่ไม่ใช่แกนนำล้มเหลวไปด้วยและยังค้างคามาจนถึงปัจจุบัน
การจุดประเด็นขึ้นใหม่ใน พ.ศ.นี้ ของนายคำนูณ น่าสนใจว่า ปลายทางจะเป็นอย่างไร และ พล.อ.ประยุทธ์ จะรับลูกไปเดินหน้าต่อหรือไม่

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า