SHARE

คัดลอกแล้ว

แอมเนสตี้ประเทศไทยยื่นรายงาน “หน้าแสบร้อนเหมือนโดนไฟไหม้” ที่สภาผู้แทนราษฎรจี้ประเด็นรัฐใช้สารเคมีกับผู้ชุมนุม

วันนี้ (8 กรกฎาคม) ที่รัฐสภา เกียกกาย ตัวแทนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยยื่นรายงานวิจัยฉบับล่าสุดเรื่อง “หน้าแสบร้อนเหมือนโดนไฟไหม้” (My face burned as if on fire) เรียกร้องรัฐบาลส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้สิทธิมนุษยชนของตนที่ได้รับการรับรองโดยกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศได้อย่างสมบูรณ์ เรียกร้องไทยต้องเคารพสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ โดยยื่นรายงานและข้อเสนอแนะให้กับชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและตัวแทนพรรคการเมือง โดยมี นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนมารับมอบ

เนื้อหาในงานวิจัยได้มีการพิสูจน์และเปรียบเทียบหลักฐานการใช้กำลังโดยมิชอบของตำรวจไทย รวมถึงการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สารเคมีที่มีความระคายเคือง (แก๊สน้ำตา) และกระสุนยาง ตำรวจมีการฉีดน้ำแรงดันสูงที่ปนเปื้อนสารเคมีที่มีความระคายเคืองโดยตรงเข้าใส่ผู้ชุมนุม หรือบางครั้งเป็นการฉีดแบบไม่เลือกเป้าหมายเข้าใส่ผู้ชุมนุม การ์ดอาสา และผู้ที่ใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ ตลอดจนสื่อมวลชนและผู้สังเกตการณ์

ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยว่า การกระทำเหล่านี้เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่จำเป็นและไม่ได้สัดส่วน จึงถือเป็นการละเมิดต่อกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และได้เสนอข้อเสนอต่อรัฐบาลไทยดังนี้

“1.กำหนดแนวทางดูแลการชุมนุมในภาพรวม ให้เป็นไปในแนวทางการอำนวยความสะดวกและรับประกันสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบของผู้ชุมนุม โดยสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ

2.ให้ความสำคัญในการใช้วิธีการที่ไม่รุนแรง เช่น การเจรจา การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการไกล่เกลี่ยเพื่อลดการปะทะที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง และให้การประกันว่าการใช้กำลังใดๆ ระหว่างการชุมนุม สามารถทำได้เมื่อมีความจำเป็นอย่างถึงที่สุดแล้วเท่านั้น และต้องใช้อย่างสอดคล้องกับหลักความจำเป็นและความได้สัดส่วน

3.แยกแยะระหว่างผู้ชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมที่ไม่ใช้ความรุนแรง และปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ที่ใช้ความรุนแรงที่กระทำความผิดเท่านั้น

4.ให้มีการสืบสวนอย่างรวดเร็ว เป็นอิสระ ไม่ลำเอียงและเห็นผลต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน รวมถึงตำรวจตระเวนชายแดนที่ใช้กำลัง รวมถึงฉีดน้ำแรงดันสูงที่ผสมสารเคมีที่มีความระคายเคืองใส่ผู้ชุมนุมอย่างสงบในปี 2563 ตลอดจนให้มีการชดเชยเยียวยาอย่างเป็นรูปธรรมต่อผู้เสียหายจากการใช้กำลังโดยมิชอบ รวมทั้งการจ่ายค่าชดเชย ฟื้นฟู และรับประกันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีก

5.ยกเลิกข้อหาทั้งหมดที่มีต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและนักกิจกรรม ที่ตกเป็นเป้าหมายเนื่องจากการใช้สิทธิในการชุมนุมโดยสงบ และให้แก้ไขหรือยกเลิก พ.ร.บ.ชุมนุมและ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ รวมถึงเพื่อให้เกิดการชุมนุมโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าได้ และยกเลิกข้อจำกัดที่เกินกว่าเหตุในการปิดกั้นการชุมนุมโดยสงบ”

นอกจากนั้นแอมเนสตี้ยังเรียกร้องทางการไทยปรับปรุงหลักสูตรในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้มีการฝึกอบรมโดยละเอียดตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ การใช้กำลังและอาวุธที่ชอบด้วยกฎหมาย และการรับมือกับการชุมนุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับหลักการพื้นฐานว่าด้วยการใช้กำลังและอาวุธสำหรับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายด้วย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า