SHARE

คัดลอกแล้ว
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกรายงานอ้างปากคำนักกิจกรรมทางการเมืองและสื่อมวลชน แฉเฟซบุ๊กและยูทูบ ดำเนินการปิดกั้นและลบเนื้อหาวิจารณ์รัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม
วันที่ 1 ธันวาคม 2563 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล หน่วยงานสิทธิมนุษยชน ออกรายงานระบุว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ไอทีระดับโลกอย่างเฟซบุ๊กและกูเกิล กำลังให้ความช่วยเหลือรัฐบาลเวียดนามในการเซ็นเซอร์เนื้อหาทางการเมืองของบรรดานักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เห็นต่างจากรัฐบาลเวียดนาม
รายงานของแอมเนสตี้ฯ ซึ่งอาศัยการเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์นักกิจกรรมทางการเมืองของเวียดนามพบว่า มีความพยายามปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหาโจมตีสมาชิกระดับสูงประจำพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม รวมไปถึงลบข่าวสารที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ซึ่งนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและสื่อมวลชนเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กและยูทูบ
ข้อมูลจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลระบุว่า ปัจจุบันมีนักโทษทางความคิดในเวียดนาม 170 คน โดยในจำนวนนี้ 69 คนถูกคุมขังจากการใช้โซเชียลมีเดีย

รายงานของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อ้างถึงประกาศของเฟซบุ๊กเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งระบุถึงความร่วมมือกับรัฐบาลเวียดนามที่มากขึ้นในการเซ็นเซอร์เนื้อหาต่อต้านรัฐบาล สอดคล้องกับรายงานด้านความโปร่งใสของเฟซบุ๊กที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วที่ให้ข้อมูลว่า มีการปิดกั้นเนื้อหาที่อ้างว่าขัดต่อกฎหมายท้องถิ่นเพิ่มขึ้นถึง 983% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
เช่นเดียวกับยูทูบซึ่งแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมาให้ความร่วมมือเซ็นเซอร์เนื้อหาตามที่รัฐบาลเวียดนามร้องขอมาโดยตลอด
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีสื่อสารของเวียดนามเปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า มีการร้องขอให้เจ้าของแพลตฟอร์มถอนเนื้อหาที่ต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลเวียดนามสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน พร้อมระบุว่า เฟซบุ๊กให้ความร่วมมือมากถึง 95% ส่วนกูเกิลเจ้าของยูทูบให้ความร่วมมือ 90% ในการเซ็นเซอร์เนื้อหาตามที่รัฐบาลเวียดนามร้องขอ
ขณะที่โฆษกของเฟซบุ๊ก เปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีโดยยืนยันว่า ที่ผ่านมาเฟซบุ๊กทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของคนทั้งโลก แต่ก็ยอมรับว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีแรงกดดันจากรัฐบาลเวียดนามที่ร้องขอให้จำกัดการเข้าถึงเนื้อหา ขณะที่ยูทูบยังไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆ ต่อกรณีนี้
เวียดนามกำลังเป็นประเทศที่เครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊กและยูทูบกำลังเติบโตอย่างมาก โดยปัจจุบันมีผู้ใช้เฟซบุ๊กในเวียดนามมากถึงกว่า 53 ล้านคน ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ โดยเฟซบุ๊กสร้างรายได้ในเวียดนามเมื่อปี 2561 มากถึงเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 30,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของรายได้ที่เฟซบุ๊กได้รับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนกูเกิลก็มีรายงานว่า สามารถทำรายได้มากถึง 475 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 14,300 ล้านบาทในช่วงเดียวกัน ส่วนหนึ่งมาจากการโฆษณาในยูทูบ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า