SHARE

คัดลอกแล้ว

เครือข่ายต้านน้ำเมา ยืนยันโพสต์คำว่า “เบียร์ แก้วเบียร์” ไม่ถูกจับ-ปรับ 5 หมื่น ซัดมีการสร้างกระแสให้คนตื่นกลัวหวังปลุกให้คัดค้านกฎหมายห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

วันที่ 7 มิ.ย. นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวถึงกรณีกระแสดราม่าโพสต์คำว่า เบียร์  โพสต์แก้วเบียร์ ถูกจับปรับ 50,000 บาท จนเป็นข่าวส่งต่อทางสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชน ว่า ถือเป็นการสร้างกระแสให้ประชาชนคนทั่วไปตื่นกลัว และมุ่งโจมตีการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จงใจทำลายเจตนารมณ์ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในการคุ้มครองสุขภาพประชาชน ลดผลกระทบและป้องกันนักดื่มหน้าใหม่  พยายามผลักให้ประชาชนเกลียดชังและเข้าใจผิดในสาระสำคัญของกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม

นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่สินค้าธรรมดาทั่วไป สร้างผลกระทบต่อสุขภาพผู้ดื่ม ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เป็นสาเหตุของ 200 โรค ทำให้คนไทยเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 50,000 คนต่อปี เป็นปัจจัยร่วมนำไปสู่ปัญหา ทั้งอุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท ความรุนแรงในครอบครัว การคุกคามทางเพศ ทำให้เยาวชนเสียอนาคตเพราะคดีความและอาชญากรรม ดังนั้นจึงต้องมีกฎหมายมาควบคุม จำกัดการขายการดื่ม การส่งเสริมการขาย ควบคุมการโฆษณา ทำให้บรรดาธุรกิจน้ำเมาทั้งรายเล็กรายใหญ่หันมาใช้ช่องทางแฝง เลี่ยงกฎหมายโฆษณาผ่านบุคคล ผู้มีชื่อเสียง เน็ตไอดอล เพจดัง รวมไปถึงดาราศิลปิน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทั้งการปรากฏรูปขวดกระป๋อง การแสดงตราสัญลักษณ์ยี่ห้อเหล้าเบียร์  การบรรยายอวดอ้างสรรพคุณ ชักชวนจูงใจให้ดื่ม ลดแลกแจกแถม ซึ่งล้วนทำผิดกฎหมาย รวมถึงการขายออนไลน์

(ชูวิทย์ จันทรรส)

“เราพบการขายออนไลน์และโฆษณาแฝงขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19  ซึ่งสังคมกำลังทำทุกทางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดแต่ธุรกิจเหล้าเบียร์กลับหาช่องทางทำการตลาด เพื่อผลประโยชน์ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อส่วนรวม ซึ่งน้ำเมาเป็นเหตุสำคัญของการกระจายเชื้อโควิด เพราะทำให้ผู้ดื่มภูมิคุ้มกันลดลง และเกิดการมั่วสุม ไม่ป้องกันตัว เช่นการแพร่ระบาดใหญ่ๆจากผับบาร์ย่านทองหล่อ หรือแม้แต่ที่ผับบาร์ในเกาหลีใต้ ซ้ำยังมีกลุ่มมาเคลื่อนไหวเพื่อค้านมาตรการห้ามขายในช่วงนั้น เสนอยกเลิกมาตรา 32 ห้ามโฆษณา ซึ่งเป็นการฉวยโอกาสเพื่อประโยชน์ตัวเองทั้งสิ้น ทุกวันนี้กฎหมายควบคุมการขายไม่ได้ห้ามขายแต่ต้องอยู่ในกรอบ คำถามคือที่ผ่านมาผู้ที่ออกมาเรียกร้องโวยวายได้ทำตามกฎหมาย รับผิดชอบต่อสังคมมากพอแล้วหรือยัง” นายชูวิทย์ กล่าว

(คำรณ ชูเดชา)

ด้าน นายคำรณ  ชูเดชา ผู้ประสานงานแอลกอฮอล์วอช กล่าวว่า หลักการสากลที่จะลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มี 3อย่าง คือ มาตรการด้านภาษี  การห้ามโฆษณา และการจำกัดการเข้าถึง ดังนั้นการห้ามโฆษณาจึงเป็นหัวใจสำคัญของการควบคุมปัญหา ซึ่งธุรกิจขนาดใหญ่รู้ดี จึงดิ้นหนีเลี่ยงกฎหมาย ด้วยการไปจดทะเบียนตราสินค้าที่คล้ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อมาทำโฆษณาสร้างการจดจำเชื่อมโยง  ตอกย้ำ เรื่องนี้กำลังพิจารณาอยู่ในชั้นศาลอีกหลายกรณี และเราได้เสนอให้มีมาตรการแก้ไขไปแล้ว   ส่วนธุรกิจรายย่อยซึ่งอาจกระทบหนักในการสื่อสารทำการตลาด จึงมีความพยายามโจมตี ทำให้มาตรา 32 เป็นการรังแกรายเล็กรายน้อย ไปไกลถึงขนาดสร้างความสับสนให้คนทั่วไปว่าแค่โพสต์คำว่าเบียร์ก็ผิด โพสต์แก้วเบียร์ก็ผิด อันนี้มันก็เกินจากความจริงไปมาก

“แค่โพสต์คำว่าเบียร์ ขวดแก้ว กระป๋องที่มองไม่ออกว่าเป็นยี่ห้อใดแล้วมันจะผิดได้อย่างไร สาระสำคัญของการกระทำนั้นต้องไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ทางการค้า คนทั่วไปที่โพสต์ โดยไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ทางการค้า เชื่อว่าย่อมไม่ผิด แต่ต้องระวังว่า ไม่แสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  แล้วมีการอวดอ้างหรือชักจูงให้ดื่มไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม  คนทำรู้แก่ใจดีว่าเจตนาบริสุทธิ์หรือไม่ซึ่งมันพิสูจน์ได้ ในวงการรู้ดีว่าใครทำอะไร อย่าปั่นกระแสเอาคนทั่วไปมาเป็นตัวประกันเลย เรื่องนี้ไม่ต่างอะไรกับเว็บพนันที่ไปจ้างคนมาโพสต์ จนทุกวันนี้เต็มบ้านเต็มเมืองจนล่าสุดตำรวจเตรียมกวาดล้างพวกรับจ้างโพสต์ กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ห้ามขายห้ามดื่ม แต่ในความเป็นจริงก็ไม่มีเหตุผลใดๆที่ท่านจะทำการสื่อสารต่างๆ ซึ่งจะเพิ่มยอดขายหรือทำให้คนทั่วไปหลงผิด โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ส่วนการโพสต์อ้างสรรพคุณให้ความรู้เบียร์ คราฟเบียร์ ระบุชื่อยี่ห้อ ถือว่าผิดชัดเจน ที่สุดแล้วสังคมเข้าใจได้ไม่ยากว่า ใครทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ส่วนรวมกันแน่” นายคำรณ กล่าว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า