กลุ่มนักเคลื่อนไหวนานาชาติราว 9,000 คน เดินขบวนข้ามเขตแดน ฝรั่งเศส – สเปน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มผู้นำชาติมหาอำนาจโลกเดินทางถึงเมืองเบียริตซ์ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ จี 7
วันที่ 26 ส.ค.62 สื่อต่างประเทศรายงานว่า ทางการฝรั่งเศสได้ออกคำสั่งชั่วคราวปิดเมืองเบียริตซ์ ห้ามไม่ให้ประชาชนทั่วไปสัญจรผ่านรอบพื้นที่จัดการประชุม จี 7 และ วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 13,000 นาย เพื่อรักษาความสงบในช่วงระหว่าง 3 วันของการประชุมสุดยอด (วันที่ 24 – 26 ส.ค.นับตั้งแต่วันจันทร์แล้ว (19 ส.ค.) หลังกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านลัทธิทุนนิยม นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และ กลุ่มต่อต้านโลกาภิวัฒน์อื่นๆ ต่างทยอยเดินทางสู่เมืองเบียริตซ์ เพื่อประท้วงต่อต้านการประชุม จี 7 โดยยืนยันว่า การประท้วงจะเป็นไปด้วยความสงบ
ล่าสุดเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับตำรวจ เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันศุกร์ (23 ส.ค.) ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วง หลังกลุ่มผู้ประท้วงพยายามบุกฝ่าแนวสิ่งกีดขวางของตำรวจ และ มีกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งพยายามขัดขวางตำรวจไม่ให้เข้าถึงบริเวณที่กลุ่มผู้ประท้วงตั้งแคมป์พักแรม ใกล้เขตแดนสเปนห่างจากสถานที่จัดการประชุมไปทางใต้ประมาณ 25 กม.
เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะแล้ว 4 ราย และมีผู้ประท้วงถูกตำรวจจับกุม 17 คน ทั้งนี้การประชุมสุดยอด จี-7 จะสิ้นสุดในวันนี้ ผู้นำชาติที่เข้าร่วมทั้ง 7 ชาติ ได้แก่ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีออสเตรเลีย อินเดีย และสเปน ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย