มทร.อีสาน ออกแถลงการณ์ประณามรุ่นพี่ ฝ่าฝืนกฎรับน้องปี 1 จนเสียชีวิต พบผู้เกี่ยวข้อง 6 คน ตร.จ่อแจ้งข้อหา

มทร.อีสาน ออกแถลงการณ์ประณาม รุ่นพี่ฝ่าฝืนกฎรับน้องปี 1 เสียชีวิต พบผู้เกี่ยวข้อง 6 คน

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก ANTI SOTUS เปิดเผยเรื่องราวของ ‘น้องเปรม’ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) เสียชีวิตระหว่างการรับน้องนอกมหาวิทยาลัย

“ด่วน!! ศพแรกของปี 65… น่าจะมีการเข้าไปทำร้ายกันในป่า และถูกทำร้ายร่างกาย จนเสียชีวิต” ข้อความบางส่วนบนเพจ ANTI SOTUS

ต่อมา เพจ ANTI SOTUS ได้อัปเดตความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ พร้อมคลิปวิดีโอ พิธีขอขมา พาน้องกลับบ้าน

(ภาพจาก FB : ANTI SOTUS)

ล่าสุด  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) ออกแถลงการณ์เหตุการณ์การรับน้องนอกสถานที่ จนทำให้สูญเสียนักศึกษามหาวิทยาลัย จำนวน 1 ราย

จากเหตุการณ์ที่เกิดการรับน้องนอกสถานที่ และทำให้มีนักศึกษาระดับชั้น ปวส. ของมหาวิทยาลัยเสียชีวิตนั้น ขอเรียนว่า มหาวิทยาลัยมีนโยบายอย่างเด็ดขาดเคร่งครัดที่ห้ามมีการรับน้องไม่ว่าในสถานที่หรือนอกสถานที่ หรือการประชุมเชียร์ใดๆ อย่างเด็ดขาด ตามประกาศ มทร.อีสาน เรื่องงดการจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ ประจำปีการศึกษา 2564

มหาวิทยาลัยได้รับทราบเหตุการณ์อันเศร้าสลดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ด้วยความเสียใจยิ่ง และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของน้องนักศึกษาดังกล่าวที่ต้องสูญเสียบุตรผู้เป็นที่รัก และอนาคตของชาติ อันเป็นผลจากการกระทำของกลุ่มนักศึกษาที่กระทำลงไปโดยขัดกับประกาศและกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยอย่างร้ายแรงยิ่ง ซึ่งทางมหาวิทยาลัย ได้ดำเนินการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิด
เพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และควบคุมตัวผู้กระทำผิดเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง และดำเนินคดีถึงที่สุดต่อไป

จากการดำเนินการร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะเริง และ สภ.เมือง นครราชสีมา ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและสอบหาข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่า เหตุเกิดขึ้นในช่วงปิดภาคการศึกษา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค. 2565 เวลา 23.00 น. โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นนักศึกษา ระดับ ปวส. ชั้นปีที่ 1 และ ปีที่ 2 เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 60 คน สถานที่เกิดเหตุอยู่ภายนอก มหาวิทยาลัย ห่างจากมหาวิทยาลัยเป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษา ปวส. ชั้นปีที่ 1 ส่วนผู้ก่อเหตุที่เป็นผู้รับผิดชอบกิจกรรมนี้มีประมาณ 6 ราย

วันที่ 14 มีนาคม 2565 มหาวิทยาลัยได้นำนักศึกษาที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับกิจกรรมทั้งหมด เข้ารับการตรวจ ATK ก่อนที่จะพานักศึกษาไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อรวบรวมรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป

ขณะนี้ผู้ปกครองของนักศึกษาทราบเรื่องและเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรมะเริงและได้พบผู้บริหารของมหาวิทยาลัย เพื่อดำเนินการในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการอำนวยความสะดวก และให้ความดูแลช่วยเหลือผู้ปกครองของนักศึกษาผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิดและดีที่สุด รายละเอียดอื่นๆ มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการติดตามและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ร่วมมือกับ พันตำรวจเอกคณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผู้กำกับการ สภ.มะเริง อย่างใกล้ชิด เพื่อสอบสวนหาผู้กระทำผิด มารับการลงโทษตามกฎหมายต่อไป

ในส่วนของมหาวิทยาลัย ก็จะดำเนินการระเบียบควบคุมความประพฤติ ซึ่งมีประกาศชัดเจนในเรื่องข้อห้ามการจัดกิจกรรมที่ไม่พึงประสงค์ และบทลงโทษตามระดับความผิดของแต่ละคน ตั้งแต่ตัดคะแนนความประพฤติ พักการเรียน ให้ออก และโทษสูงสุด คือไล่ออก โดยจะพิจารณาสอบสวนและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิด

มหาวิทยาลัยขอประณามการกระทำของนักศึกษาที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยเช่นนี้ และขอให้นักศึกษาทุกคนพึงสังวรณ์ถึงผลอันร้ายแรงและไม่พึงปรารถนาที่อาจจะเกิดขึ้นกับการกระทำที่ละเมิดกฎระเบียบในเรื่องนี้ และขอย้ำไม่ให้กระทำกิจกรรมที่ละเมิดฝ่าฝืนกฎระเบียบในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด และขอให้ทราบว่า มหาวิทยาลัยพร้อมจะดำเนินการทางวินัยขั้นสูงสุดกับนักศึกษาที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบในเรื่องนี้ต่อไปอย่างแน่นอน

ส่งศพ ‘น้องเปรม’ ให้นิติเวชฯ ชันสูตร เตรียมดำเนินคดีรุ่นพี่

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับรุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ที่ได้นำรุ่นน้องออกไปจัดกิจกรรมนอกสถานที่ แล้วต่อมาเกิดเหตุรุ่นน้อง จำนวน 1 รายได้รับบาดเจ็บและได้เสียชีวิตขณะนำตัวรักษาที่โรงพยาบาล โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2565 ในพื้นที่ สภ.มะเริง จ.นครราชสีมา พนักงานสอบสวน ได้รับคำร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกฎหมายไว้แล้ว และได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ สอบปากคำพยาน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ได้เข้าร่วมทำกิจกรรมรับน้องในไร่อ้อยแห่งหนึ่งของพื้นที่ สภ.มะเริง จว.นครราชสีมา ระหว่างทำกิจกรรมนั้น ผู้เสียชีวิตได้เกิดหมดสติไป จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา สำหรับประเด็นที่มารดาผู้เสียชีวิตได้ติดใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น

ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการส่งศพไปให้แพทย์นิติเวชทำการชันสูตรพลิกศพ เพื่อหาสาเหตุการตายโดยละเอียด ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์ และพนักงานสอบสวนได้เร่งทำการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้หนึ่งผู้ใด อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบสวนปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนไปยังรุ่นพี่ของสถาบันต่างๆว่า การรับน้องเป็นประเพณี หรือธรรมเนียมปฏิบัติของสถาบันที่สืบต่อกันมา ทั้งนี้ควรจัดกิจกรรมให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์คำนึงถึงความปลอดภัย ความพร้อมร่างกาย จิตใจ ของรุ่นน้อง หรือผู้เข้าร่วมแต่ละบุคคล ควรปรึกษาครูอาจารย์ของสถาบันให้ช่วยกำกับดูแล หากทำไปโดยพลการ ไม่ว่าจะเป็นด้วยความคึกคะนอง หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วเกิดการบาดเจ็บ หรือสูญเสีย ตัวผู้กระทำเองก็จะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เสื่อมเสียชื่อเสียง เสียประวัติ และอนาคต