รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เยือนเคียฟ ประกาศมอบเงิน 72,000 ล้านบาท ช่วยยูเครนและชาติเพื่อนบ้าน

‘แอนโทนี บลิงเคน’ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงเคียฟในวันพฤหัสบดี (8 ก.ย.) ประกาศมอบเงินช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนและประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป เพื่อรับมือภัยคุกคามจากรัสเซีย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การเยือนยูเครนของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันนี้ (8 ก.ย.) เป็นการเดินทางโดยไม่มีการแจ้งกำหนดการล่วงหน้า และเป็นเยือนกรุงเคียฟเป็นครั้งที่ 2 ของนายบลิงเคนนับตั้งแต่ที่รัสเซียเริ่มทำสงครามกับยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มีรายงานว่าระหว่างอยู่ที่กรุงเคียฟ นายบลิงเคนได้พบกับนายดมิทรี คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครน และเดินทางไปที่โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติพร้อมกับนายบริดเจ็ต บริงค์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเคียฟ เพื่อเยี่ยมผู้ป่วยเด็ก และบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บจากการทำสงครามที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

การเดินทางเยือนกรุงเคียฟในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายบลิงเคนประกาศว่า สหรัฐฯ จะมอบเงินช่วยเหลือและกู้ระยะยาววงเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ (72,000 ล้านบาท) ให้กับยูเครนและประเทศเพื่อนบ้านในยุโรปเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากภัยคุกคามของรัสเซีย

จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เงินช่วยเหลือดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากสภาคองเกรส แต่ไม่มีการระบุว่าประเทศในยุโรปจะได้รับเงินช่วยเหลือก้อนนี้ด้วยคือประเทศใดบ้าง เพียงแจ้งว่ามีทั้งหมด 18 ประเทศ รวมถึงชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และพันธมิตรชาติอื่นๆ ในภูมิภาค

ขณะที่นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ประกาศในระหว่างร่วมการประชุมกับรัฐมนตรีชาติพันธมิตร ซึ่งจัดขึ้น ณ ฐานทัพอากาศของสหรัฐฯ ในเมืองรัมสไตน์ของประเทศเยอรมนีในวันเดียวกันว่า สหรัฐฯ จะมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเพิ่มอีก 675 ล้านดอลลาร์ (24,000 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการจัดหาอาวุธหนัก ลูกกระสุน รถหุ้มเกราะ และระบบต่อต้านรถถัง

การประกาศมอบเงินช่วยเหลือทางทหารรอบล่าสุดนี้ ส่งผลวงเงินช่วยเหลือที่สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มอบให้กับยูเครนรวมทั้งสิ้นเป็นเงินมากกว่า 15,200 ล้านดอลลาร์ (550,000 ล้านบาท)