‘อนุทิน’แจง วัคซีนไฟเซอร์ ยังรอใบเสนอราคา เผย 22 เม.ย. 64 เจรจาตัวแทนวัคซีนอีก 2-3 ราย

‘อนุทิน’แจง วัคซีนไฟเซอร์ ยังรอใบเสนอราคา เผย 22 เม.ย. 64 เจรจาตัวแทนวัคซีนอีก 2-3 ราย ชี้สิ่งสำคัญคือ จะได้ของเมื่อไหร่ ลั่นเงินมี เงื่อนไขอะไรก็ได้ แต่ถ้าส่งไตรมาส 4 ช้าเกินไป

วันที่ 21 เม.ย. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ 5-10 ล้านโดสว่า นายกรัฐมนตรีสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทุกชนิดที่มีความปลอดภัย ไม่ได้ระบุยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง ท่านมีความกังวลว่า ต่อให้ในทางทฤษฎีกระทรวงสาธารณสุขจะระบุว่าการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 60% ของจำนวนประชากรทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ แต่นายกรัฐมนตรีก็ย้ำว่า ให้เผื่อเอาไว้เป็น 70% เลย ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงพยายามหาวัคซีนให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหนก็แล้วแต่

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า วัคซีนของไฟเซอร์ในระยะหลังสามารถฉีดในกลุ่มที่อายุ 12 ปีขึ้นไปได้ นี่เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขที่ไทยนำมาพิจารณาด้วย ประกอบกับในระยะหลังเพิ่งมีการปรับปรุงในเรื่องของการจัดเก็บวัคซีนเหลือประมาณลบ 20 องศาเซลเซียส จากช่วงแรกต้องจัดเก็บในอุณหภูมิลบ 70 องศาเซลเซียส ยิ่งถ้าสามารถจัดเก็บได้ในอุณหภูมิลบ  2-8 องศาเซลเซียสก็จะยิ่งดี อย่างไรก็ตาม ในส่วนของไฟเซอร์นั้นยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขบอกให้เขาส่งใบเสนอราคามา ถ้าส่งวัคซีนให้ได้เร็ว มิ.ย. หรือ ก.ค. 2564 เราคว้าเลย ส่วนการฉีดให้ใครนั้นขึ้นกับจำนวนที่จะได้มา สมมติว่าถ้าได้มา 10 ล้านโดสก็ฉีดให้ครอบคลุมกลุ่มวัยรุ่นได้ ถ้าได้มากกว่านี้ก็ฉีดเป็นวัคซีนทั่วไปได้

“6 เดือนที่แล้วไม่มีใครบอกได้ว่าวัคซีนจะส่งได้เมื่อไหร่ พอประเทศไทยสั่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าได้ 60 กว่าล้านโดส เจ้าอื่นก็เริ่มเข้ามา จากที่เคยบอกว่าจะส่งได้สิ้นปี 2564 ตอนนี้ก็ร่นมาเป็นไตรมาส 3 แต่เราบอกว่าขอปลายไตรมาส 2 ได้หรือไม่ ดังนั้นทุกอย่างอยู่ที่การเจรจา พรุ่งนี้ (22 เม.ย.) ก็จะมีการเจรจากับตัวแทนวัคซีนอีก 2-3 ราย สิ่งสำคัญคือจะได้ของมาเมื่อไหร่ เงินมี เงื่อนไขอะไรก็ได้ แต่ถ้าส่งไตรมาส 4 ช้าเกินไป นี่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลฟังทุกเสียง ทุกคำแนะนำ ผมพูดมาตลอดว่า ถ้ามีวัคซีนเยอะ ส่งได้ เงื่อนไขเหมาะสม เราก็ซื้อ เราไม่ได้ต้องการขี่ม้าตัวเดียวอยู่แล้ว แต่เราต้องมีม้าหลักของเราก่อน” นายอนุทิน กล่าว

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า คณะทำงานพิจารณาจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ข้อสรุปจัดหาวัคซีน 2-3 ยี่ห้อ เพิ่มเติม 35 ล้านโดส ซึ่งในจำนวนนี้เป็นของหอการค้าไทยประมาณ 10-15 ล้านโดสนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นตัวเลขที่บอกว่าจะให้ครอบคลุมคน 70ล้านคน ซึ่งตอนนี้ที่มีเราครอบคลุมคนประมาณ 35 ล้านคน ไม่อยากให้มองว่าเป็นโควตาของรัฐบาลหรือของใคร ตัวเลขนี้เป็นไปตามจำนวนความต้องการใช้ นายกรัฐมนตรีมาช่วยหาอีกแรง ท่านใช้กลไกกระทรวงการต่างประเทศ กลไกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งท่านเล่าให้ฟังว่า ได้เจรจาผู้นำประเทศขอให้ช่วย ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย อเมริกา หรือจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว ทุกคนต้องช่วยกันทำงาน

สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เอกชนออกมาเคลื่อนไหวจึงมีวัคซีนทางเลือกมากขึ้นนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลทำทุกอย่างอยู่แล้ว เอกชนก็มาให้ความเห็น ซึ่งเราก็ฟัง เราก็คิดตรงกัน ไม่ได้ช้า ไม่ได้บอกว่าห้ามเอกชนฉีด ถ้าเขาส่งได้จริง อย่างที่บอกว่ามี 10 ล้านโดส ถ้าเจรจามาได้ก็มาขึ้นทะเบียนเลย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมพิจารณาขึ้นทะเบียนอยู่แล้ว ไม่ใช่บอกแต่ตัวเลขแล้วยังไม่เห็นอะไรมา แต่มาบอกว่ารัฐช้า อย่างนี้ไม่ได้ เพราะรัฐก็สั่งของรัฐ เมื่อมีความจำเป็น มีสถานการณ์การระบาดเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน ก็รีบนำวัคซีนมาเพิ่มเติม