“อนุทิน” ลั่นถ้าไม่ใช่ “บิ๊กตู่-อุตตม” ไม่ต้องมาคุยปรับครม.

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เผยถ้าปรับครม. จะคุยกับ “พล.อ.ประยุทธ์” และ “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ตอบแบบการเมืองข่าวเพื่อไทยร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ “อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้” 

วันที่ 10 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไป Inside Thailand กรณีข่าวปล่อยจะโละ ส.ส. ประชาธิปัตย์สายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และจะนำ “งูเห่า” มาเสียบร่วมรัฐบาล ว่า ตนไม่เคยได้ยินจากปากของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ไม่เคยได้ยินจากปากนายกัฐมนตรี หรือผู้ใหญ่ที่ร่วมรัฐบาล คิดว่าการที่มีรับประทานอาหารร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ต้องถือภาพสุดท้ายที่เห็นเป็นสำคัญไว้ก่อน ท่านนายกฯ เดินออกมากอดคอคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน (เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์) คุณวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) เป็นภาพที่เหมือนว่าเคลียร์ใจเคลียร์ปัญหากันแล้ว

(พรรคร่วมรัฐบาลรับประทานอาหาร ก่อนโหวตญัตติตั้งกมธ.ม.44 ในวันรุ่งขึ้นซึ่งผลออกมาฝ่ายรัฐบาลชนะ)

“การพบกันวันที่ 3 ทำให้วันที่ 4 ทุกอย่างก็ดีขึ้นเยอะ ถูกไหม… มันมีสายใครสายใครอยู่ มันก็เป็นตรงนั้นอยู่ เราก็ต้องพยายามให้กำลังใจซึ่งกันและกัน สุดท้ายมันก็ผ่านมาได้ด้วยดี อย่างนี้ครับรัฐบาลนี้ เราต้องยอมรับพื้นฐานก่อนว่า คือรัฐบาลที่เสียงปริ่มน้ำอันนี้ไม่มีใครเถียงเลย รัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ จะปฏิบัติตนหรือจะมีผลลัพธ์เหมือนรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากไม่ได้หรอก ต้องอย่างนี้ “ขอไปขอมา” ส.ส.แต่ละท่านก็มีแนวความคิดของตัวเองเยอะแยะไปหมด การทำแต่ละอย่างบางทีขอกันไม่ได้ เกิดมันเห็นแล้วมันค้านอุดมการณ์เขา เรามีอยู่ทางเดียวในความเป็นพรรคการเมือง ถ้าเกิดคุยกันไม่รู้เรื่อง มาตรการการจัดการจะใช้คำว่าลงโทษไม่ได้ เพราะเขาเป็นผู้แทนของประชาชนเขาสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิ์มีเอกสิทธิ์ในสภา ไม่สามารถจะไปบังคับเขาได้ แต่ว่าเที่ยวต่อไปถ้าคุณทำแบบนี้อะไรเกิดขึ้น เราอาจจะต้องพิจารณาอีกคนไหมที่จะส่งลง คุยรู้เรื่องหน่อย ทีมเวิร์คดีหน่อย มันก็จะมีมาตรการหลาย ๆ อย่างที่จะบริหารจัดการ…”

คนปล่อยข่าวโละประชาธิปัตย์มีธงอยากให้ล้างไพ่จัดโควต้ารัฐมนตรีใหม่? นายอนุทิน กล่าวว่า ห้ามความคิดคนไม่ได้ และยอมรับในเสี้ยวหนึ่งของความคิดก็คิดแบบเดียวกัน แต่ว่าทำสำเร็จหรือไม่อีกเรื่อง ถ้าเป็นรัฐบาลก่อนปฏิวัติไม่เหลือหรอกป่านนี้นั่งเป็นฝ่ายค้านเรียบร้อยแต่วันนี้ทำได้หรือไม่ ผลรวมเสียหรือไม่ ประเทศชาติได้อะไร และว่า สุดท้ายคำขู่ว่า “ยุบสภา” ถามว่าทุกคนกลัวไหม ทุกคนกลัวไม่มีใครอยากเลือกตั้งหรอก ทุกคนที่เป็น ส.ส.กลัวหมด แต่ถ้าจำเป็นต้องยุบมันก็ต้องยุบ พวกตนก็เจอยุบสภาไม่ต่ำกว่า 8 ครั้งแล้ว ประคับประคองเต็มที่ถึงไหนก็ถึงนั้น

“การจะปรับครม. หรือการจะตกลงอะไรที่มันนอกเหนือจากที่เป็นไปอยู่ในปัจจุบันนี้เราก็ต้องพูดกับหัวหน้ารัฐบาลเท่านั้นไม่ฟังเสียงอื่น เสียงลือเสียงเล่าอ้าง คนอื่นจะคิดอย่างไร หัวหน้าพรรคก็ต้องคุยกับหัวหน้าพรรค เลขาฯพรรคก็คุยกับเลขาฯพรรค ไม่ใช่หน้าที่ของลูกพรรคที่จะมานั่งเจรจากับหัวหน้าพรรคเราวางระบบไม่ดีกว่าเหรอ…” นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่ง

มองว่าถ้าล้างไพ่กันใหม่จะถึงจุดจบของรัฐบาลไหม? นายอนุทิน ตอบว่า พอดีภูมิใจไทยไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ ก็เลยไม่กล้าวิจารณ์ ธุระของคนอื่นของตนไม่มีปัญหา ของตนยกเว้นคุณพ่อชัย ชิดชอบคนเดียวที่ท่านป่วยอยู่ ตนก็ประเมินแล้ววันนั้นไม่มีความวิกฤตถึงขนาดต้องขอให้คุณพ่อชัยนั่งรถเข็นมาโหวต ถ้าจำเป็นจริง ๆ วันนั้นท่านโทรหาตนบอกว่า “พ่อออกมาได้นะ”  ตนบอกไปว่า “ไม่ต้องครับ ถ้าเกิดเหตุจำเป็น เดี๋ยวผมไปอุ้มมาเอง”

พรรคเพื่อไทยจะมาบวกกับพรรคพลังประชารัฐตั้งรัฐบาลจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่? นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าตอบแบบมารยาท คือมันไม่น่าเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าตอบแบบคนการเมือง เราก็อย่าตั้งมั่น อะไร ๆ มันก็เกิดขึ้นได้ สิ่งที่ดีที่สุดคือทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ทำให้มันไม่มีช่องโหว่ ช่องว่างที่จะทำให้คนเข้ามาหาเรื่อง สาดโคลน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยทำเช่นนี้มาโดยตลอด