ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สำคัญในวันที่ 27 พ.ค. คือ การที่แกนนำพรรคพลังประชารัฐ เดินสายทาบทามพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย ร่วมรัฐบาล
.
หนึ่งในช่วงเวลาสำคัญ คือ การที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ร่วมคณะมากับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาที่พรรคภูมิใจไทย แล้วนาย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยทักนายสมศักดิ์ว่า “Welcome home” หรือยินดีต้อนรับกลับบ้าน
.
ย้อนกลับไปช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2551 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรคพลังประชาชน จากคดีทุจริตเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้า ซึ่งมีผลให้กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี
.
จากการที่พรรคพลังประชาชนถูกยุบนี่เอง ได้มีการตั้งพรรคเพื่อไทยเพื่อรองรับสมาชิกที่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่ปรากฏว่าสมาชิกบางส่วนไม่ได้ย้ายตามไปด้วย กลุ่มเพื่อนเนวิน ได้ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย โดยมีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล (พ่อของนายอนุทิน) เป็นหัวหน้าพรรค และมีกลุ่มมัชฌิมา ที่นำโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และกลุ่มอื่นๆ มาร่วมด้วย
.
ช่วงเวลาต่อมาที่ นายชวรัตน์ จะวางมือนั่นเอง ในพรรคมองกันว่าใครสมควรจะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนต่อไป ระหว่างนั้นมีตัวเลือกอยู่ 2 คน คือ อนุทิน ชาญวีรกูล และสมศักดิ์ เทพสุทิน ต่างฝ่ายต่างมีผู้สนับสนุนจนมีข่าวว่ามีปัญหากัน แม้ทั้งคู่จะออกมาปฏิเสธก็ตาม
.
ที่สุดแล้ว เนวิน ชิดชอบ แกนนำคนสำคัญที่ว่ากันว่าเป็นตัวจริงเสียงจริงของพรรคสนับสนุนให้ อนุทิน ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค โดยมี ส.ส.ในพรรคอยู่ฝ่ายนี้ 27 คน ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน มีเสียงหนุน 7 คน

สมศักดิ์ เทพสุทิน
.
เรื่องลงเอยที่กลุ่มนายสมศักดิ์ แยกตัวไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย และมีชื่อในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 16 ในการเลือกตั้งปี 2557 แต่การเลือกตั้งก็กลายเป็นโมฆะ และต่อมามีการรัฐประหารโดย คสช.
.
ก่อนที่ปีที่แล้ว สมศักดิ์จะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะแกนนำกลุ่มสามมิตร และกำลังจะกลับมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยอีกครั้ง ในฐานะว่าที่รัฐมนตรีในรัฐบาลเดียวกัน