SHARE

คัดลอกแล้ว

วันนี้ (9 ธ.ค.66) อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศลาออก จากความเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ “ขอลาออก ยืนยันไม่ได้ไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น กรีดเลือดออกมาก็ยังเป็นสีฟ้า”

การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่3 วาระสำคัญคือเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9 นายชวน หลีกภัย เสนอ ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ ได้แสดงวิสัยทัศน์นานกว่า 30 นาที ถึงวิกฤตและปัญหาในพรรคตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดยบอกไม่ได้อยากจะเป็นหัวหน้าพรรคด้วยความอยากจะเป็นส่วนตัว แต่เป็นการตัดสินใจที่มองอนาคตของส่วนรวม และ ตนถูกพาดพิงในหลายเรื่อง ทุกคนทราบดีว่าหลังจากที่ผมแสดงจุดยืนชัดเจน ซึ่งไม่ตรงกับพรรคในเรื่องการร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา ตนต้องระมัดระวังบทบาทของตัวเองมาโดยตลอด และหลายครั้งเกิดผลกระทบของพรรค หลายคนถามตนว่าถอนตัวจากรัฐบาลดีหรือไม่ แต่ตนไม่ได้ไปแสดงความเห็น และบอกว่าหากเป็นเช่นนั้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคจะทำงานอย่างไร

หากถามว่าวันนี้ มันมีเหตุผลอะไรไหมที่จะต้องกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค ภายใต้สถานการณ์หลายอย่างและตนไม่มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆเลย ตนก็ตอบได้ว่า “แทบไม่มีเหตุผลอะไรที่จะตอบรับ” แต่ก็คิดเช่นเดียวกับนายชวนว่า ตนก็เป็นหนี้บุญคุณพรรค และมีคนคาดหวัง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าบางคน โทรหรือบอกต่อหน้า ว่า “เห็นแก่ตัวไม่เข้ามากอบกู้พรรค” ก็ต้องอธิบายให้เข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์มีระบบกระบวนการหลายสิ่งหลาย แต่สำหรับคนภายนอกส่วนหนึ่งก็ไม่เข้าใจเพราะพรรคเราอย่างที่เคยเรียนว่าน่าจะเป็นพรรคการเมืองเดียวที่การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคทุกครั้งเป็นการแข่งขันกันจริงๆ ตามกระบวนการของประชาธิปไตย

ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ / Thai News Pix

นายอภิสิทธิ์ยังยอมรับว่า ตอนนี้สถานการณ์พรรคอยู่ในภาวะที่เรียกว่า ยิ่งกว่าวิกฤต หลายคนบอกว่าพรรคตกต่ำก็คืนกลับมาได้ การเมืองมีขึ้นก็มีลง ตนก็บอกว่ามีขึ้นก็มีลงแน่นอน แต่มีลงไม่ใช่ว่าจะมีขึ้น จึงขอให้ทุกคนคิดกันจริงจังว่าเราอยุ่จุดนี้ได้อย่างไร เราไม่ได้มาถึงจุดนี้เพราะพรรคเราจน ตนอยู่มา 30 ปี ขอยืนยันว่าการสนับสนุนผู้สมัครพรรคและพรรคไม่มียุคใดทำได้มากเท่ายุคนายเฉลิมชัย แต่ความพร้อมที่มากที่สุดตรงนั้น กลับมาพร้อมกับความพ่ายแพ้ทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุด ต้องยอมรับว่า ที่เรามาถึงจุดนี้เพราะประชาชนมองไม่เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืน

จากนั้นในบางช่วง นายอภิสิทธิ์ พูดถึงกติกา 70:30 ว่า ระยะหลังคนที่เคยทำงานกับพรรค เขาบอกกับผมว่าองค์กรหลายองค์กรไม่ได้ประเมินทั้งประชาธิปัตย์ว่าเป็นพรรคของประชาธิปไตยแล้ว เราต้องฟื้นฟูถ้าเราคิดจะกลับมาเรามีความต่างจากพรรคการเมืองอื่นที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ตนพูดเสมอเกือบทุกยุคทุกสมัย เราเป็นพรรคการเมืองที่ไม่เคยกลัวเป็นฝ่ายค้าน และเป็นพรรคที่สร้างตัวเองมาเป็นสถาบัน พยายามที่จะสร้างกติกาให้ทุกคนในพรรคมีส่วนร่วมกับพรรคอย่างกว้างขวางจนกระทั่งต่อมาบรรดากฎหมายพรรคการเมืองอื่นมาเขียนตามเรา ซึ่งมีคนพาดพิงพูดถึงเรื่อง 70:30 ทำไมสมัยตนเอง ถ้าไม่ดี ทำไมไม่แก้ตอนนั้น มาพูดอะไรตอนนี้ ซึ่งขอให้ย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ ตัวเลขเปลี่ยนตลอด แต่ตัวเลข 70:30 เกิดจากขณะนั้นคำนวณได้ว่าองค์ประชุมที่เป็น สส. มี150 คน และคสช.ยุบสาขาพรรคทั้งหมด เราจึงต้องเริ่มต้นใหม่ ตัวเลขลงตัวสุดคือตัวเลขดังกล่าว ขณะนั้นมีน้ำหนักไม่ต่างกันมาก ที่สำคัญหลายคนไม่พูดถึงว่า ผมเขียน 70:30 แต่ผมบอกเฉพาะตำแหน่งหัวหน้าพรรคไปยั่งเสียงสมาชิกทั้งประเทศ ซึ่งครั้งที่แล้ว และครั้งที่ผ่านมา มีการอ้าง 70:30 เพราะอ้างกระบวนการยั่งเสียง มันใช้เวลา พรรคอาจต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญ แต่มาถึงวันนี้ไม่เข้าใจเหตุผลว่าจำเป็นต้องยกเว้นการหยั่งเสียงหรือไม่

ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ / Thai News Pix

ในเมื่อขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยมาถึงขนาดนี้เลยแล้วเราไม่คิดจะระดมสมาชิกทั่วประเทศให้มามีส่วนร่วมเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของเราหรือ ก็ไม่เป็นไรเมื่อพรรคตัดสินใจตามนี้แล้วต้องเดินหน้าต่อแต่อยากจะชี้แจงเพื่อเป็นหลักฐานไว้สำหรับคนที่มักจะมาพูดทำนองว่า ตนมาเสนอยกเว้นเนี่ยเสมือนกับ 2 มาตรฐาน ไม่ได้ดูว่า เมื่อก่อนทำอะไรกันอย่างไรจะได้เข้าใจเหตุผลที่ตรงกัน สุดท้ายตนไม่ได้ข้อสรุปตรงนี้ วันนี้ไม่ได้เลือกใครชนะใครแพ้ไม่ว่าจะเหลือผู้สมัครคนเดียว 2 คนหรือ 3 คน แต่วันนี้พรรคเดินต่อไม่ได้ ถ้าไม่มีความเป็นเอกภาพอย่างแท้จริง ตนลงตนแพ้ก็น่าจะมีปัญหา หากชนะก็ยิ่งมีปัญหาเข้าไปใหญ่ หลายคนจะยอมรับหรือไม่ บางคนไม่มาวันนี้ดูเจตนาด้วย มาถามผมว่าทำไมไม่คุยกัน และต่อมามีการไปพาดพิงว่า ผมไม่ยอมคุย ผมขอยืนยันว่าใครพูดแบบนั้น “ไม่จริง” และขอบคุณนายองอาจ นางเจิมมาศ น.ส.วทันยา พยายามพูดว่าคุยกันเถอะ แต่ได้รับการปฏิเสธ ผมก็ไม่กล้าจะไปสอบถามเหตุผล การปฏิเสธเป็นอย่างที่บอกมาหรือเปล่า แต่คำตอบชัดคือ “ไม่คุย” เพราะฉะนั้นวันนี้นายชวน เสนอชื่อผม ผมถามท่านรักษาการหัวหน้าพรรค ว่า “พักการประชุมแล้วคุยกับผมไหม”

จากนั้นนายเฉลิมชัยลุกขึ้นตอบรับเปิดห้องคุยสองคนกับนายอภิสิทธิ์  10 นาทีว่ามีปัญหาอะไรพร้อมยอมรับว่าก่อนหน้านี้ปฏิเสธที่พูดคุยกับนายอภิสิทธิ นั่นเพราะไม่มีอะไรจะคุย แต่ชี้แจงว่าการพูดไม่เคยพูดส่งเดช มีที่มาที่ไปทั้งหมด หากเมื่อถึงเวลาก็จะพูดเองเป็นเหตผลส่วนตัว และยอมรับไม่ได้รักประชาธิปัตย์มากที่สุด แต่มีความผูกพันธ์ตั้งแต่ปี 2518 ที่บ้านครอบครัวเป็นหัวคะแนนคือสายเลือด และยึดมันอุดมการณ์พรรคมาตลอด พร้อมปิดห้องคุย 2 คน ท่ามกลางเสียงปรบมือของสมาชิกที่ลุ้นกันอยู่

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ตอบว่า “พร้อมกับท่านเราไม่เคยทะเลาะกัน เพราะหากทะเลาะกันจะไม่คุยกัน ไม่ข้ดข้องจะคุยนายเฉลิมชัยบอกว่าต่างคนต่างรู้สนิทกันที่เคยพูดไว้ว่ามองตาก็รู้ใจกัน และเป็นเช่น แต่บางเรื่องที่ไม่ได้พูดและยังไม่ได้พูดก็พร้อมจะพูดให้ฟัง ว่าคืออะไร ดีใจที่มีโอกาสพูดหลังอัดอั้นมา ก่อนจะย้ำหลักการอุดมการณ์เต็มร้อยและเข้ามาประชาธิปัตย์มา 22 ปี ยืนยันประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ใครและไม่มีวันยอม

ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ / Thai News Pix

ท่ามกลางเสียปรบมือในที่ประชุม 10 นาทีหลังพักประชุมปิดห้องคุย 2 คนแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวในที่ประชุมว่า เข้าใจตรงกันทุกอย่าง และท่านก็อธิบายว่า ท่านมีแนวทางจะเดินหน้าอย่างไร ผมก็อธิบายว่า ผมมีความคิดอย่างไร ซึ่งความจริงก็ได้ขยายความไปเยอะแล้วก่อนหน้านี้ ผมจึงเรียนอย่างนี้ครับว่า ได้เรียนกับท่านรักษาการหัวหน้าแล้วว่า ผมจะขอถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร ด้วยเหตุผลที่ท่านแจ้งให้ผมทราบ และด้วยเหตุผลเดียวกัน ก็ขอเรียนว่า ผมขอลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยืนยันกับทุกท่านที่นี่ ผมไม่มีพรรคอื่น ไม่ไปพรรคอื่น กรีดเลือดผมมาก็เป็นสีฟ้าจนวันตาย เป็นลูกพระแม่ธรณีที่จะเอาอุดมการณ์ประชาธิปัตย์รับใช้บ้านเมืองต่อไป วันข้างหน้าถ้าในพรรคคิดว่าผมจะเป็นประโยชน์มาช่วยได้ ผมก็คงไม่ปฏิเสธ แต่วันนี้เพื่อให้ท่านที่มีสถานะ และจะมีอำนาจในการบริหารต่อไป ทำงานด้วยความสบายใจ ทำงานตามแนวทางอย่างเต็มที่ ไม่ต้องหวาดระแวงเรื่องผม เรื่องใคร ใดๆ ทั้งสิ้น ก็ขออนุญาตที่จะลาออก แล้วก็ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนทั้งในห้องนี้ และไม่ได้อยู่ในห้องนี้ และเจ้าหน้าที่ของพรรคทุกคนที่ได้ทำงานและให้การสนับสนุนผมอย่างดีตลอดมา ผมมีแต่ความปรารถนาดีต่อพรรค และก็หวังว่าผู้บริหารชุดใหม่ จะสามารถทำงานได้สำเร็จ ตามที่ท่านรักษาการหัวหน้าได้แจ้งกับผมเมื่อสักครู่ครับ ขอบคุณครับ

จากนั้นนายอภิสิทธิ์ขึ้นรถเดินทางกลับทันที

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า