SHARE

คัดลอกแล้ว

เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ของ Apple หลายคนคงนึกถึง iPhone เป็นอย่างแรกๆ และที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ iPhone ถือเป็นสินค้า flagship ของ Apple มาตลอดหลายปี

นับตั้งแต่วันเปิดตัวในปี 2007 iPhone ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า Apple ขาย iPhone ได้เพิ่มขึ้น 9 ปีติด ทำสถิติสูงสุดในปี 2015 ขายได้ทั่วโลกกว่า 230 ล้านเครื่อง

ปี 2007 ขายได้ 1.39 ล้านเครื่อง
ปี 2008 ขายได้ 11.63 ล้านเครื่อง
ปี 2009 ขายได้ 20.73 ล้านเครื่อง
ปี 2010 ขายได้ 39.99 ล้านเครื่อง
ปี 2011 ขายได้ 72.29 ล้านเครื่อง
ปี 2012 ขายได้ 125.05 ล้านเครื่อง
ปี 2013 ขายได้ 150.26 ล้านเครื่อง
ปี 2014 ขายได้ 169.22 ล้านเครื่อง
ปี 2015 ขายได้ 231.22 ล้านเครื่อง

ในแง่รายได้ iPhone ก็ทำเงินให้ Apple อย่างมหาศาลด้วย ในปี 2015 Apple มีรายได้ 2 ใน 3 จากจากการขาย iPhone เพียงอย่างเดียว โดยในปีนั้น Apple ขาย iPhone ได้ 155,000 ล้านดอลลาร์ จากรายได้ทั้งปี 233,715 ล้านดอลลาร์ ตีเป็นสัดส่วนก็ประมาณ 66%

แต่นับจากปี 2016 เป็นต้นมา ตลาด iPhone กลับไม่เติบโตเหมือนเดิม จำนวนเครื่อง iPhone ที่ขายได้ลดลงจากปี 2015 และทรงๆ มาตลอดถึงปัจจุบัน

ปี 2016 ขายได้ 211.88 ล้านเครื่อง
ปี 2017 ขายได้ 216.76 ล้านเครื่อง
ปี 2018 ขายได้ 217.72 ล้านเครื่อง

แต่จากนโยบายปรับราคา iPhone ขึ้น เลยทำให้รายได้จากการขาย iPhone ไม่ลดลงมากนัก โดยปี 2018 Apple ยังคงมีรายได้จาก iPhone กว่า 142,700 ล้านดอลลาร์ รวมถึงเป็นปีที่ Apple กลายเป็นบริษัทมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรกด้วย

ในแง่สัดส่วนรายได้จาก iPhone เทียบกับรายได้ของทั้งบริษัท พบว่าสัดส่วนรายได้จาก iPhone ลดลงเรื่อยๆ

ปี 2016 รายได้จาก iPhone 136,700 ล้านดอลลาร์ รายได้รวม 215,639 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 63.4%
ปี 2017 รายได้จาก iPhone 141,300 ล้านดอลลาร์ รายได้รวม 229,234 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 61.6%
ปี 2018 รายได้จาก iPhone 142,700 ล้านดอลลาร์ รายได้รวม 265,595 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 53.7%

และจากผลประกอบการล่าสุด ไตรมาส 1 ปี 2020 รายได้จาก iPhone ลดลงไปน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดของ Apple แล้ว โดยใน 3 เดือนแรกปีนี้ Apple มีรายได้จาก iPhone 28,962 ล้านดอลลาร์ จากรายได้รวมทั้งไตรมาส 58,300 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 49.6%

Apple เองก็มองเห็นปรากฏการณ์นี้ และมองว่าตอนนี้ตลาดโทรศัพท์มือถือน่าจะถึงจุดอิ่มตัวแล้ว คือไม่น่าที่จะดันให้เติบโตกว่านี้ได้อีก และเริ่มปรับทิศทางบริษัทไปสู่การขาย service มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Apple Music, Apple News+, Apple TV+, iCloud, iTunes และ App Store

เราเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวนี้ของ Apple ที่ต้องการจะเปลี่ยนผ่านจากบริษัทขายฮาร์ดแวร์ ไปสู่การหารายได้จากการขาย service และซอฟต์แวร์มากขึ้น โดยในช่วงต้นปี 2019 Tim Cook ได้ใช้ห้องประชุม Steve Jobs Theater ในการเปิดตัวservice ใหม่ๆ เหล่านี้ของ Apple ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ห้องประชุมแห่งนี้สงวนเอาไว้สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ๆ ของ Apple เท่านั้น โดยก่อนหน้าปี 2019 ห้องประชุมแห่งนี้เคยถูกใช้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกเพื่อเปิดตัว iPhone X และอีกครั้งหนึ่งเพื่อเปิดตัว iPhone XS และ Apple Watch เท่านั้น

แม้ยังต้องดูกันต่อไปอีกยาวๆ ว่า Apple จะแปลงตัวเองไปสู่บริษัทที่ขาย service ได้จริงหรือไม่ แต่ตอนนี้ในแง่รายได้ ดูเหมือนว่า Apple จะเริ่มสามารถทำรายได้จากการขาย service ได้เป็นกอบเป็นกำบ้างแล้ว โดยรายได้จาก service ในไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 13,348 ล้านดอลลาร์ จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ส่วนนี้ 11,500 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 16% ในปีเดียว

อีกทั้งข้อได้เปรียบหนึ่งของ Apple เหนือผู้เล่นอื่นๆ ที่อยู่ในธุรกิจขาย service ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Spotify, Amazon ฯลฯ ก็คือ ผู้ใช้กว่า 1,400 ล้านคนทั่วโลกตอนนี้ใช้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Apple ซึ่งหากอนาคต Apple จะผลักดันบริการหรือซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ให้ผู้ใช้ทั่วโลก ย่อมง่ายและราบรื่นกว่าผู้เล่นรายอื่น

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า