Apple เปิดตัวไลน์สินค้า iPad ผ่านบล็อกเมื่อคืนนี้ มี iPad Pro รุ่นใหม่ และ iPad 10th Gen ที่มาพร้อมสีสันที่สดขึ้น และสีใหม่ ฟ้า, ชมพู, เงิน และเหลือง
นอกจากนี้ยังอัพเกรดฟังก์ชั่น ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ให้มีความใกล้เคียงกับตัว Pro, Air มากขึ้น แต่ก็มาพร้อมราคาที่แพงขึ้นโหดมากเช่นกัน คือเริ่มต้น 17,900 บาท แพงกว่า 9th Gen ทีเริ่มต้นมาหมื่นต้นๆ เท่านั้น
ซึ่งสำหรับเด็กๆ แล้ว iPad Gen ต่างๆ ถือเป็นตัวเริ่มต้นที่นักเรียนนิยมใช้เพื่อการศึกษา และเลือกใช้เป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรก เพราะจะมีราคาถูกกว่า iPad รุ่นอื่นๆ
ฟังก์ชั่นหลักๆ iPad 10th Gen
- จอแสดงผลขนาด 10.9 นิ้ว
- พอร์ต USB-C
- เชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6
- โปรเซสเซอร์ A14 Bionic
- กล้องหน้า Ultra Wide 12MP โดยตำแหน่งกล้องย้ายไปอยู่ในแนวนอน
- ทัชไอดีอยู่ตรงช่วงบนของเครื่อง
- กล้องหลัง 12MP เช่นกัน ถ่ายวิดีโอ 4K
- รองรับ Apple Pencil รุ่น 1 แต่ไม่รองรับรุ่น 2 ซึ่งคนที่มี Apple Pencil รุ่น 1 ต้องใช้จับคู่กับอะแดปเตอร์เพื่อชาร์จและใช้งานกับ iPad 10th Gen ได้ ตรงนี้หลายคนมองว่าเป็นปัญหา เพราะนักเรียนอาจทำอะแดปเตอร์หาย และที่สำคัญต้องซื้ออะแดปเตอร์เพิ่มอีกแล้ว แม้จะมีราคาแค่ 390 บาทก็ตาม
ส่วน iPad Pro รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวมาพร้อมกันนั้น ภายนอกยังคงเดิม แต่มีการอัพเกรดภายใจหลายอย่าง หลักๆ คือการอัพเกรดใช้ชิป M2 มาพร้อม CPU แบบ 8 คอร์ ซึ่ง Apple บอกว่าเร็วกว่า M1 ถึง 15% และ GPU 10 คอร์ ให้ประสิทธิภาพกราฟิกเร็วขึ้นสูงสุด 35% ซึ่งเมื่อรวม CPU และ GPU แล้วจะได้ Neural Engine แบบ 16 คอร์ สามารถประมวลผลการทำงานได้ 15.8 ล้านล้านรายการต่อวินาที ซึ่งมากกว่า M1 ถึง 40%
ชิป M2 ยังมีแบนด์วิดท์หน่วยความจำรวม 100GB/s ซึ่งมากกว่า M1 ถึง 50% และรองรับหน่วยความจำแบบรวมที่รวดเร็วสูงสุด 16GB ชิป M2 ยังช่วยเรื่องประมวลผลสัญญาณภาพ จับภาพวิดีโอ ProRes และแปลงไฟล์ภาพได้เร็วขึ้น
iPad Pro รุ่นใหม่ มีสองขนาดหน้าจอคือ 11 นิ้ว จอ Liquid Retina ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท และจอ 12.9 นิ้ว จอ Liquid Retina XDR ราคาเริ่มต้นที่ 44,900 บาท
ทั้ง iPad Pro รุ่นใหม่และ iPad 10th Gen จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ iPad OS 16 ที่จะอัพเดตพร้อมกัน 24 ต.ค. นี้
iPad OS 16 เปิดตัวเมื่อกลางปีที่ผ่านมาพร้อมๆ กับ iOS 16 ฟีเจอร์เด่นๆ คือ แอป Freeform ทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ทั้งขีดเขียน วาด แชร์ไฟล์วิดีโอ คลิปเสียงได้, ยกเลิกการส่งอีเมล, แชร์รูปบน iCloud ได้สูงสุด 6 คนและแชร์โดยอัตโนมัติ, การเข้าใช้งานด้วย Passkeys คือการใช้ Touch ID, Face ID เข้าใช้งานบริการต่างๆ บนอุปกรณ์ Apple และยังสามารถสแกน QR Code สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของ Apple ได้ด้วย
ที่มา : https://www.apple.com/newsroom/