Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สำหรับคนไทยอาจจะคุ้นเคยแบรนด์ HITACHI มากกว่า Arçelik เพราะอยู่คู่กับตลาดคนไทยมากว่า 56 ปี และอยู่ในตลาดเอเชียมาแล้วกว่า 60 ปี

แต่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2021 ทั้งสองบริษัท Arçelik และ HITACHI Global Life Solutions, Inc. ได้ร่วมทุนกัน เพื่อผลิตและจำหน่ายสินค้า รวมไปถึงการแชร์ R&D ระหว่างกัน โดยชื่อบริษัทใหม่ก็คือ Arçelik HITACHI Home Appliances

ทั้งนี้ ตลอด 3 ปีตั้งแต่ที่ก่อตั้ง Arçelik HITACHI พยายามยกระดับแบรนด์ และรีเฟรชทิศทางธุรกิจให้ดูชัดเจน และเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มมากขึ้น

ในระหว่างการสัมภาษณ์พิเศษจาก คุณซาแฟร์ อัสทูเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ เขาได้พูดถึง 3 กลยุทธ์ ที่ทำให้ Arçelik HITACHI ยังสามารถครองใจผู้บริโภคได้ ท่ามกลางวันที่แบรนด์ต่างๆ เข้าสู่ตลาดนี้มากขึ้น ขณะเดียวกัน สินค้าจีนก็เข้ามาทุ่มตลาดด้วยสินค้าที่ราคาถูกกว่า

 

[ 3 กลยุทธ์ที่ใช้ในการต่อสู้ในตลาด ]

กลยุทธ์แรกก็คือ การปรับแนวทางผสานจุดแข็ง (Alignment) เป็นการปรับตัวเองให้มีความสอดคล้องกัน นำจุดแข็งของแต่ละแบรนด์มารวมกัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เขาได้พูดถึงการเป็นบริษัทแรกที่รวมระหว่าง ‘ตะวันออก’ กับ ‘ตะวันตก’ เข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

สองคือ เพิ่มประสิทธิภาพ (Optimization) แบรนด์ให้ความสนใจเกี่ยวกับซัพพลายเชน ซึ่งพยายามจะพัฒนาและเชื่อมโยงกันให้เกิดคุณภาพที่ดีที่สุดต่อแบรนด์และผู้บริโภค รวมไปถึงสร้างความยั่งยืนให้กับ Arçelik HITACHI ด้วย

สุดท้ายก็คือ การขยายตลาดเพิ่มการรับรู้ (Expansion) จากความตั้งใจของ Arçelik HITACHI ที่จะเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ อย่าง Gen Y และ X โดยเขาอธิบายว่า กลุ่มลูกค้าเดิมของแบรนด์ส่วนมากจะเป็นลูกค้าที่มี ‘ประสบการณ์’ ซึ่งก็คือ Gen ที่อายุมากกว่านั่นเอง

“Arçelik HITACHI พยายามเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้เหมาะสมมากขึ้น ทั้งฐานการผลิตในประเทศไทยและจีน นอกจากนี้ เราต้องการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนไทย ซึ่งที่ผ่านมาเราพยายามทำ และตอนนี้ก็เริ่มเห็นผลลัพธ์เชิงบวกในเวียดนามและตะวันออกกลางแล้ว”

 

[ ไทยยังเป็นฐานผลิตที่ดี ]

ทั้งนี้ คุณซาแฟร์ อัสทูเนอร์ ได้พูดเสริมว่า Arçelik HITACHI เลือกไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าหลายประเภท เพราะยังมีความมั่นใจ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนในบุคลากรที่อยู่ในไทยเป็นส่วนใหญ่ โดยไทยถือว่าเป็นเซนเตอร์ของการผลิตที่สำคัญของบริษัท อีกทั้งยังย้ำด้วยว่า ไทยมีศักยภาพและเขาค้นพบสกิลใหม่ๆ ในตลาดไทยในแง่ของบุคลากร

ปัจจุบัน Arçelik HITACHI มีจำนวนแรงงานมากกว่า 6,000 คนจากทั้งหมด 16 ประเทศทั่วโลก ซึ่งประเทศในเอเชียถือว่าเป็นภูมิภาคที่สำคัญมาก และ HITACHI ก็เจาะตลาดนี้มานาน จึงเป็นโชคดีที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ สินค้าที่ปัจจุบันผลิตในไทยและใช้ไทยเป็นฐานส่งออกไปกว่า 65 ประเทศ ได้แก่

  • ตู้เย็น

  • เครื่องซักผ้า

  • เครื่องดูดฝุ่น

  • ปั๊มน้ำ

  • เครื่องทำน้ำอุ่น

คุณซาแฟร์ อัสทูเนอร์ ได้พูดว่า ภายในปีนี้ตั้งใจที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์จาก Arçelik HITACHI ทั้งหมด 293 ประเภท ซึ่งจะมีทั้งสินค้าที่มีอนยู่แล้วโดยพัฒนาให้ดีขึ้น ยั่งยืนขึ้น อื่นๆ ก็จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นที่มีความหลากหลายขึ้น เพื่อย้ำว่าบริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญ และใช้ประโยชน์จริงจาก R&D ที่ทำร่วมกันสองบริษัท

 

[ ไม่หวั่นแม้สินค้าจีนบุกตลาดไทย ]

อย่างที่เราเห็นว่าปัจจุบันสินค้าจาก ‘ประเทศจีน’ หลายอย่าง ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า ไปจนถึง เครื่องใช้ไฟฟ้า เข้ามาตลาดไทยและขยายไปทั่วโลก แต่สำหรับ Arçelik HITACHI คุณซาแฟร์ อัสทูเนอร์ ได้แชร์ว่า ไม่ไหวั่นใจหรือกลัวสินค้าจีนที่เข้ามาแต่อย่างใด

เหตุผลเพราะเขามองว่าทุกประเทศ ทุกบริษัท ก็มีวิธีและกลยุทธ์ที่แตกต่างกันออกไป อย่างจีน ที่เลือกใช้วิธีการผลิตสินค้าที่เดียวและส่งออกไปทั่วโลก แต่ Arçelik HITACHI ผลิตในไทย ส่วนใหญ่ใช้ของไทย และก็ส่งออกไปในประเทศเอเชียแปซิฟิก

เนื่องจากการใช้สินค้าเครื่องครัวของประเทศเอเชีย และในยุโรปมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ทุกที่มีกลยุทธ์เป็นของตัวเอง เราก็มีกลยุทธ์ และหัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจที่เป็นแบบของเรา จึงไม่มีอะไรน่ากังวลสำหรับสินค้าจากจีนที่ทุ่มตลาดเข้ามา

หนึ่งในกลยุทธ์และเส้นทางที่ Arçelik HITACHI จะโฟกัสไปแน่ๆ ก็คือ นวัตกรรมเพื่อลูกค้าและสิ่งแวดล้อม โดยพัฒนาด้านความยั่งยืน ซึ่งมีเป้าหมายบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2030 และการใช้พลังงานไฟฟ้าสีเขียว 100% ในสำนักงานทั่วทั้งภูมิภาค

ซึ่งการตลาดในตอนนี้จาก Arçelik HITACHI จะใช้หัวใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ใช้พลังงานให้น้อย และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้า

สรุปเร็วๆ ก็คือ Arçelik HITACHI พัฒนาธุรกิจตามความคาดหวังของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น สิ่งแรกๆ ที่ต้องมีคือ ความคุ้มค่า, ให้ความเชื่อมั่นลูกค้าได้, สินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, ต้องประหยัดพลังงาน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงตามเป้าหมาย จึงถือว่าปีที่ 4 ของ Arçelik HITACHI ช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของธุรกิจ ท่ามกลางความถดถอยทางเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกเวลานี้

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า