ม็อบต่อต้านล็อกดาวน์ติดอาวุธบุกประท้วงกลางที่ทำการรัฐมิชิแกน

วันที่ 1 พ.ค.63 บีบีซีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหลายร้อยคน ซึ่งมีบางส่วนพกอาวุธมาด้วย ได้รวมตัวกันประท้วงบริเวณอาคารของศาลาว่าการรัฐมิชิแกน นครแลนซิง รัฐมิชิแกน สหรัฐฯ ก่อนที่จะบุกเข้าไปในอาคารทำการรัฐมิชิแกน โดยกลุ่มผู้ประท้วงไม่เห็นด้วยกับนายเกรทเชน วิทเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ที่เสนอต่อายุมาตรการล็อกดาวน์ ที่ต้องการขยายเวลาล็อกดาวน์ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม

โดยกลุ่ม Michigan United ได้เรียกการรวมตัวประท้วงครั้งนี้ว่า “American Patriot Rally” โดยทางกลุ่มได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของกลุ่มระบุว่า “เราไม่เห็นด้วยและไม่ยินยอมให้สิทธิ์ที่เรามีถูกจำกัดหรือละเลย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามราวถึงการระบาดของโควิด-19 ด้วย พวกเราเชื่อว่าชาวอเมริกันทุกคนและทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำงานเพื่อดูแลครอบครัว มีสิทธิ์ที่จะเดินทางได้อย่างอิสระ มีสิทธิ์ที่จะร่วมกันทำพิธีตามศาสนา”

ทั้งนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมาศาลรัฐมิชิแกนได้ชี้ขาดว่า คำสั่งล็อกดาวน์ของผู้ว่าการรัฐไม่ได้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หลังจากมีประชาชนในรัฐมิชิแกน 5 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องรัฐบาลมิชิแกน โดยทางผู้พิพากษาคริสโตเฟอร์ เอ็มเมอร์เรย์ ระบุว่า “ศาลตระหนักดีถึงความยากลำบากในการใช้ชีวิตภายใต้ข้อจำกัดจากคำสั่งล็อกดาวน์ของผู้ว่าการรัฐ แต่ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสนั้นอาจทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นวงกว้างและก่อให้เกิดความสูญเสียที่เรียกกลับคืนมาไม่ได้”

โดยเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา มีประชาชนนับพันและบางส่วนนั้นติดอาวุธด้วย ได้รวมตัวกันชุมนุมประท้วงมาตรการล็อกดาวน์รอบนครแลนซิงมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในวันต่อมาทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวิตข้อความระบุว่า “LIBERATE MICHIGAN!” ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนได้วิจารณ์ถึงท่าทีดังกล่าวของทรัมป์ว่าเป็นการยุยงให้เกิดความวุ่นวาย

สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อในรัฐมิชิแกนล่าสุดอยู่ที่ 41,379 ราย เสียชีวิตแล้ว 3,789 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วทั้งสหรัฐฯ อยู่ที่ 1,100,706 ราย เสียชีวิตแล้ว 63,851 ราย และรักษาหายแล้ว 132,550 ราย