โฆษกรัฐบาลยันไม่ตัดงบทหาร ชี้จำเป็นต้องเปลี่ยนอาวุธเก่า งบช่วยชาวบ้านใช้ส่วนเงินกู้ 1 ล้านล้าน

โฆษกรัฐบาลแจงข้อเสนอเพื่อไทยให้ตัดงบทหารทำไม่ได้ เพราะต้องใช้ปรับเปลี่ยนอาวุธที่เก่าและต้องซ่อม ระบุที่ผ่านมาไม่ค่อยได้งบ ส่วนที่ช่วยชาวบ้านสามารถใช้จากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทได้

จากกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เสนอให้รัฐบาลนำงบประมาณประจำปี 2564 จำนวน 40,000 ล้านบาท ไปจ้างเกษตรกรปลูกพืชปรับปรุงดิน และช่วยค่าปรับปรุงการผลิตให้ใช้สารเคมีน้อยลง เพื่อปูพื้นฐานไปสู่การผลิตอาหารปลอดภัย ครัวเรือนละ 15,000 บาท จะได้ประโยชน์คุ้มค่ากว่า ซึ่งจะช่วยเกษตรกรได้เกือบ 3 ล้านครอบครัว  โดยกรรมาธิการงบประมาณงบของพรรคเพื่อไทย จะตัดงบเหล่านี้ให้มาประชาชนที่กำลังเผชิญกับสึนามิเศรษฐกิจ

วันที่ 7 ก.ค. 2563 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ชี้แจงชัดเจนถึงเหตุผลความจำเป็นไปแล้ว และตรวจสอบกับสำนักงบประมาณพบว่าทุกอย่างยังคงเป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ทุกประการ โดยเป็นงบผูกพันข้ามปีสำหรับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการผลิตและการแบ่งชำระ

ขณะนี้ประเทศมีความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้มีความเพียงพอ เหมาะสม เพราะที่ผ่านมา ไม่ได้มีการสนับสนุนงบให้มีการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆ ทำให้ปัจจุบันมีอาวุธยุทโธปกรณ์เก่าประมาณร้อยละ 80 และเพื่อทดแทนไม่ให้ต้องเสียงบประมาณในการซ่อมบำรุง ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาภารกิจป้องกันตามชายแดนต้องใช้กำลังพลจำนวนหลายหมื่นคนในการดูแลพื้นที่ ทำให้การแก้ปัญหาชายแดนสามารถยุติได้ระดับหนึ่งจากภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ

นางนฤมล  ระบุว่า ต้องขอขอบคุณฝ่ายค้านที่แสดงความเป็นห่วงถึงการใช้งบประมาณของปี 2564  แต่ขอให้มีความเข้าใจและห่วงใยถึงลูกหลานที่เป็นทหาร จำเป็นจะต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียด้วย

ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจได้ว่า นายกรัฐมนตรีจะดูแลการดำเนินการทุกอย่างอย่างดีที่สุด และใช้งบประมาณให้คุ้มค่าเกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด สำหรับในส่วนของงบประมาณที่นำมาให้ความช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูประเทศ นั้นอยู่ในงบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว