31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2567 ประเทศไทย กำหนดคำขวัญว่า “บุหรี่ไฟฟ้า หยุดโกหกได้แล้ว” เพื่อหวังกระตุ้นเตือนให้เยาวชน ผู้ปกครอง และประชาชน รู้เท่าทันอันตรายและไม่หลงเชื่อลองเสพบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ
ไทยประกาศแบน บุหรี่ไฟฟ้า โดยมี ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรีไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 2557
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เปิดเผยข้อมูล การสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนไทย อายุ 15-24 ปี พบว่า อัตราการสูบบุหรี่มวนลดลง เยาวชนหันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ขณะที่ ผลสำรวจ จาก Global Youth Tobacco Survey (GYTS) ปี 2565 พบเด็กและเยาวชน อายุ 13-15 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จาก 3.3% ในปี 2558 มาเป็น 17.6% ในปี 2565
สูบบุหรี่ไฟฟ้า เสี่ยงนกเขาไม่ขัน!
สำนักข่าวสร้างสุข สสส. เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล ประธานเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาวะทางเพศ คลินิกวัยรุ่นชาย โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้ชี้ถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ยังพบว่า ทำให้เกิดปัญหาสมรรถภาพทางเพศลดลง หรือ “นกเขาไม่ขัน” รวมไปถึงปัญหาการอ่อนตัวและหลั่งไว
ศ.นพ.สมเกียติ ระบุว่า จากการดูแลรักษาผู้ที่มีปัญหาดังกล่าว พบว่า จากเดิมประมาณ 30% ที่เคยพบปัญหาอ่อนตัวเมื่อมีกิจกรรมทางเพศ ส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่มั่นใจจากการที่ปกติช่วยตัวเองบ่อย แต่ปัจจุบันเมื่อสอบถามข้อมูลเชิงลึก พบว่า มีเรื่องของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าร่วมด้วย
สอดคล้องกับข้อมูลจากต่างประเทศที่มีการสำรวจผู้ชายที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าวันละ 2 ครั้ง จำนวน 13,000 คน พบ 4.8% มีปัญหาเรื่องอวัยวะเพศไม่แข็งตัว โดยเฉพาะในผู้ชายอายุ 20-25 ปี สาเหตุหลักที่นกเขาไม่ขัน พบว่า มาจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า รวมไปถึงยังมีปัญหาเรื่องของการอ่อนตัว โดยระดับองศาของการแข็งตัว
ทั้งนี้ ศ.นพ.สมเกียติ กล่าวว่า “ธรรมชาติจะเตือนความเป็นผู้หญิงทุกเดือนคือมีประจำเดือน และจะเตือนความเป็นชายทุกวัน เพราะดัชนีชี้วัดสุขภาพทางเพศของผู้ชายคือ ต้องแข็งตัวตอนเช้าทุกวัน ซึ่งระดับการแข็งตัวจะมี 4 ระดับ คือ
1. เต้าหู้ คือ ใหญ่ แต่ไม่แข็ง หรือมีปัญหาการแข็งตัวระดับรุนแรง
2. กล้วยปอกเปลือก คือ แข็ง แต่สอดใส่ไม่ได้ หรือมีปัญหาระดับปานกลาง
3. กล้วยหอมสุก สอดใส่ได้ แต่แข็งไม่สุด หรือระดับแข็งตัวไม่ดีพอ
และ 4. แข็งสุดดุจแตงล้าน โดยจะต้องแข็งตัวระดับ 4 ตลอดทั้ง 7 วัน เท่ากับ 28 คะแนน แสดงว่า สมองดี ฮอร์โมนดี เส้นประสาทดี หลอดเลือดดี
แต่ถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ดื่มเหล้า พักผ่อนไม่เต็มที่ มีความเครียด รับประทานยาบางอย่าง ปัจจัยเหล้านี้จะส่งผลให้ระดับความแข็งลดลง เช่น แข็งตัว 6 วัน อยู่ที่ระดับ 3 หรือ 18 คะแนน หากคะแนนต่ำลงเรื่อยๆ สมรรถภาพเพศก็จะมีปัญหามาก”
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาวะทางเพศ กล่าวอีกว่า บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า มี ‘นิโคติน’ ซึ่งไปกระตุ้น ‘โดปามีน’ ฮอร์โมนแห่งความสุข ทำให้เกิดการเสพติด ทำให้ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ และนิโคตินทำให้เกิดอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับเบาหวานและภาวะไขมันในเลือดสูง ที่จะไปทำลายผนังด้านในของหลอดเลือดในทุกอวัยวะ รวมถึงองคชาต ทำให้หลอดเลือดในองคชาตที่มีขนาดเล็ก 1 มิลลิเมตร เกิดความผิดปกติ คือหดตัวหรือไม่ขยายตัว จึงไม่สามารถแข็งตัวได้ หากไปเกิดปัญหาที่หัวใจที่มีหลอดเลือดขนาด 3 มิลลิเมตร ก็จะเกิดปัญหากล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือเกิดที่สมองที่มีหลอดเลือดขนาด 5 มิลลิเมตร ก็จะเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ที่น่าห่วงคือ การทำลายผนังด้านในหลอดเลือดมักเกิดกับหลอดเลือดขนาดเล็กที่สุดก่อนคือ 1 มิลลิเมตร
ดังนั้น คนที่เป็นนกเขาไม่ขันอาจจะเป็นสัญญาณบอกเหตุว่า อาจจะเป็นโรคหัวใจภายใน 5 ปี ได้ถึง 80% เพราะถ้าไม่รักษาปัญหาจะเริ่มมาที่หัวใจ แต่หากรักษาภาวะนกเขาไม่ขันก็จะไปช่วยลดความเสี่ยง เพราะต้องไปลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ รับประทานอาหารอย่างดี ออกกำลังกาย ทำให้สมองกับหัวใจดีขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ สารนิโคตินจะไปกระตุ้นต่อมหมวกไต ปล่อยอะดรีนาลีนและสารต่างๆ ทำให้เส้นเลือดหดตัวทั้งร่างกายรวมถึงที่อวัยวะเพศชาย ปลุกเร้าไม่ขึ้น ขาดสารตั้งต้นในการขยายหลอดเลือดที่น้องชาย เกิดความเครียดเป็นเวลานาน จนฮอร์โมนเพศชายลดลง และลูกอัณฑะฝ่อไม่สร้างฮอร์โมน ส่วนที่เชื่อกันว่า ดื่มเหล้าสูบบุหรี่แล้วทำให้คึกคักในเรื่องทางเพศ อาจจะเป็นเพียงช่วงระยะแรกที่เพิ่มความต้องการทางเพศ เพราะฮอร์โมนเพศชายยังสูง แต่ถ้าสูบบุหรี่ไฟฟ้าไปหลายครั้งหรือระยะยาวก็จะเกิดภาวะน้องชายไม่แข็งตัวในที่สุด ดังนั้น หากคนสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีปัญหาเรื่องนกเขาไม่ขัน สามารถรักษาให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้นได้ แต่ต้องเลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้า
ศ.นพ.สมเกียติ อธิบายด้วยว่า กลไกการแข็งตัวขององคชาต ซึ่งมีปัจจัยเกี่ยวข้องกับหลายระบบที่ซับซ้อน
1. ระบบประสาทคือ จะต้องมีความรู้สึกที่อยากมีกิจกรรมทางเพศ ทำให้มีสารเคมีในสมองคือ ‘โดปามีน’ ไปกระตุ้นที่อวัยวะเพศชาย
2. ระบบฮอร์โมนเพศชาย คือ ‘เทสโทสเตอโรน’
3. ระบบหลอดเลือด โดยหลอดเลือดแดงจะนำเลือดเข้ามายังอวัยวะเพศชายที่มีลักษณะเหมือนฟองน้ำ ก็จะทำให้เกิดการขยายตัว และหลอดเลือดดำจะปิดไม่ให้เลือดออกไป ทำให้เลือดคั่งเลยเกิดการแข็งตัวขึ้นมา
ทั้งนี้ หากเกิดปัญหาไม่ว่ากับระบบใดล้วนมีผลต่อการแข็งตัวขององคชาตได้ เช่น ฮอร์โมนเพศชายลดลงซึ่งเป็นไปตามวัย การรับประทานยาบางอย่าง เช่น ยารักษาซึมเศร้า ยาปลูกผม ยารักษาต่อมลูกหมากโต หรือผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมาก ก็ส่งผลกระทบต่อระบบประสาท หรือเรื่องของภาวะจิตใจก็มีผลได้เช่นกัน และมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ดื่มเหล้า พักผ่อนไม่เต็มที่ มีความเครียด