ซุปเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐฯ ประสบปัญหาขาดแคลนเนื้อสัตว์

วันที่ 6 พ.ค.63 เดอะ การ์เดียน รายงานว่า เวนดี้ส์ (Wendy’s) ร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจากสหรัฐฯ ต้องยกเลิกเมนูเนื้อวัวชั่วคราว หลังเนื้อสัตว์ทั่วสหรัฐฯ ขาดแคลนอย่างหนักเนื่องจากสายพานการผลิตตามโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ต่างๆ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยทางบริษัทเวนดี้ส์เผยว่า บริษัทกำลังประสบปัญหาจากการขาดแคลนเนื้อ และได้ตัดสินใจยกเลิกเมนูเนื้อวัวชั่วคราว

ด้านนายสตีเฟน เมเยอร์ นักนักวิเคราะห์ทางการเงินของบริษัท สตีเฟนส์อิงค์ กล่าวว่า ในรัฐโอไฮโอ, มิชิแกน และนิวยอร์กนั้นมีปริมาณเนื้อสดในตลาดต่ำที่สุดในประเทศ ขณะที่รัฐอริโซนา และรัฐเนวาดา เป็น 2 รัฐที่ได้รับผลกระทบด้านเนื้อสัตว์น้อยที่สุด ความขาดแคลนเนื้อสัตว์เป็นวงกวางในสหรัฐฯ สืบเนื่องมาจากสหภาพเเรงงานโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ในรัฐต่างๆ ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวเรื่องสวัสดิภาพของแรงงานในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ หลังพบแรงงานนับพันคนในรัฐไอโอวาและรัฐอินเดียนาติดเชื้อโควิด-19 จนนำไปสู่การปิดโรงงานแบะลดกำลังการผลิตลงในหลายพื้นที่

ด้านบริษัทไทสัน ฟู้ดส์ ผู้ผลิตเนื้อรายใหญ่ในของสหรัฐฯ เผยว่าผลผลิตเนื้อหมูของบริษัทลดลงถึงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยรายงานประจำสัปดาห์จากกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมาเผยว่า ผลผลิตเนื้อสัตว์ของประเทศลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ทั้งหมด โดยมีการผลิตเนื้อวัวลดลง 25% ขณะที่การผลิตเนื้อหมูลดลง 15% การขาดแคลนครั้งนี้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคาเนื้อสัตว์ในร้านอาหารและร้านค้าบางแห่ง

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 29 เม.ย.63 ที่ผ่านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้อาศัยอำนาจตามกฎหมายการผลิตเพื่อป้องกัน ปี 1950 โดยกำหนดให้โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ทำให้โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ชื่อดังต่างๆ อาทิ Smithfield Foods, Tyson Foods, Cargill และ JBS USA ต้องกลับมาเปิดสายการผลิตอีกครั้ง