Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

กระแสความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ถูกกล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง จะด้วยเหตุผลที่ประเทศพัฒนาแล้วผ่านช่วงฟื้นตัวจากโควิด-19 หรือจะด้วยเหตุผลที่ธนาคารกลางต่างๆ พากันขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากภาวะราคาน้ำมันและภาวะสงคราม

ถึงอย่างนั้น เอเชีย ยังเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยโอกาส ทั้งรอบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เพิ่งมาถึง และเงินเฟ้อที่ยังต่ำกว่ากลุ่มประเทศตะวันตก แต่ทำไมประเทศไทยถึงไม่ได้อานิสงส์นี้ TODAY Bizview ชวนมาไขคำตอบพร้อมกัน

[ ‘เอเชีย’ โอกาสลงทุนช่วงเศรษฐกิจถดถอย ]

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) หรือ Eastspring เปิดเผยในงานสัมมนาออนไลน์ Investment Outlook: Different World, Different Playbook โดยอัพเดตมุมมองการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี 2565 และแนวโน้มของปี 2566 ว่า

แม้ที่ผ่านมาจะเกิดการ ‘เทขาย’ สินทรัพย์การลงทุนทุกประเภท นักลงทุนลดน้ำหนักการลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ ถึงอย่างนั้น Eastspring ก็ยังมองเห็นโอกาสการลงทุน โดยเฉพาะตลาดเอเชีย ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งโอกาส

เพราะเงินเฟ้อก็ไม่ได้สูงมาก เทียบกับสหรัฐที่กำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเชิงเทคนิค (Technical Recession) ภายหลังจีดีพีติดลบต่อเนื่อง 2

แม้รัฐบาลสหรัฐจะยังไม่ออกมาประกาศภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างเป็นทางการ แต่สิ่งที่เห็นชัดเจน คือ ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐกำลังเติบโตแบบชะลอตัวลง

สะท้อนจากเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจ เช่น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่เริ่มออเดอร์วัตถุดิบต่างๆ น้อยลงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะนำไปสู่ Recession ในระยะถัดไป

[ เศรษฐกิจปี 2565-2566 ยังเติบโต ]

ตรงข้ามกับมุมมองตลาดเอเชียที่คาดว่าจะไม่เกิดภาวะ Recession ทั้งในปี 2565 และปี 2566 แต่ยอมรับว่าความผันผวนในตลาดการลงทุน และภาวะตลาดหมี (Bearish) หรือตลาดการลงทุนที่อึมครึม ไม่ค่อยสดใส จะยังเป็นภาวะที่ต้องรับมือกันอีกสักระยะหนึ่ง

นอกจากนี้ คาดการณ์ว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา (2560-2564)

อย่างไรก็ตาม ถ้าไปดูไส้ในของบริษัทจดทะเบียนและภาคครัวเรือน พบว่า งบดุลยังแข็งแกร่ง และเพียงพอจะรับมือกับภาวะ Recession หากเกิดขึ้น และหากมีสัญญาณเชิงบวกเกิดขึ้น จะเป็นผลดีต่อภาพการลงทุนทันที

ดังนั้น การลงทุน จึงเลือกกลุ่มหุ้นคุณค่า (Value Stock) เพราะน่าดึงดูดมากกว่ากลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง (Growth Stock) แต่ต้องเน้นการลงทุนระยะยาว เพราะระยะสั้นคงจะยังไม่เห็นกำไรที่เติบโตขึ้นมากนัก เพราะต้นทุนทางการเงินเพิ่มสูงขึ้น แต่การลงทุนระยะยาว ยังให้ผลตอบแทนที่ดีเสมอ

นอกจากนี้ หากลงทุนในหุ้นที่มีเงินปันผลสูง (Dividend Stock) และมีกระแสเงินสดสูงต่อเนื่อง จะยิ่งเป็นผลบวกต่อพอร์ตโฟลิโอของนักลงทุน

สำหรับประเทศที่น่าลงทุน Eastspring ชี้ว่า จีนเป็นประเทศที่ไม่ลงทุนไม่ได้ เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่เกินกว่าที่จะมองข้าม ถึงตอนนี้นักลงทุนจะลดน้ำหนักการลงทุนในจีนเพราะปัจจัยลบต่างๆ ก็ตาม

[ หุ้นไทยยังลงทุนได้ แต่ไม่น่าสนใจ ]

ภายในงานสัมมนา ได้เชิญผู้มีความรู้ด้านการลงทุนที่มีชื่อเสียง เช่น ‘ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร’ นักลงทุนคุณค่า (Value Investor: VI) เข้ามาแชร์มุมมองการลงทุนด้วย

โดย ดร.นิเวศน์ ให้มุมมองต่อตลาดหุ้นไทยว่า ‘ใกล้จบ’ ไม่ได้หมายความว่าหุ้นจะตก แต่หมายความว่า ตลาดหุ้นไทย เป็นตลาดหุ้นที่ไม่น่าสนใจ ไม่ได้มีอะไรคึกคักที่จะดันให้หุ้นขึ้นเยอะ ไม่ได้ดึงดูดให้คนเข้ามาลงทุนมาก

แต่ถามว่ายังลงทุนได้หรือไม่ ก็ยังลงทุนได้เรื่อยๆ แต่จะหวังผลตอบแทนสูงๆ หรือหวังว่าจะได้ลงทุนในบริษัทเจ๋งๆ ซื้อแล้วกำไรเยอะ ค่อนข้างยาก

‘สังเกตดูว่า ประเทศไทย บริษัทใหญ่ๆ ยักษ์ๆ หรือคนรวยมหาศาลในประเทศไทยที่เป็นเจ้าสัวใหญ่ๆ ของทั้งประเทศ มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลยนะ อยู่มา 10 กว่าปี เหมือนเดิมหมด ไม่มีความสดใส (Vibrant) ไม่มีความคึกคักว่ามีของใหม่มา หรือบริษัทใหม่มา ขึ้นไปแซงบริษัทเก่า มีเศรษฐีใหม่มาแซงเศรษฐีเก่า มันไม่ค่อยมี เป็นเหมือนนสังคมคนแก่’

เมื่อเป็นสังคมผู้สูงอายุ แม้จะลงทุนได้ผลตอบแทนบ้าง เช่น ปีละ 5-6% หากดูภาพรวมผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย และยังมีหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ยังพอเล่นเก็งกำไรได้ ซึ่งก็มีคนที่รวยขึ้นจากการเล่นเก็งกำไรลักษณะนี้

ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่ใช่ตลาดหุ้นที่จะมีบริษัทใหม่เข้ามา ซึ่งหากลงทุนจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้ได้อย่างมหาศาลโดยที่ไม่ต้องมานั่งเก็งกำไร แตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม

อย่างไรก็ตาม ดร.นิเวศน์ บอกว่า เขายังลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่ราว 60% แต่ลดลงจากในอดีตที่ 100% และ 90% ตามลำดับ

[ การเมืองไม่นิ่ง กระทบเศรษฐกิจระยะยาว ]

เช่นเดียวกับ ‘ยิ่งยง เจียรวุฑฒิ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน ของอีสท์สปริง (ประเทศไทย) ที่ให้มุมมองว่า ระยะสั้น ตลาดหุ้นไทยยังไปต่อได้ เพราะกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ก็ต้องระมัดระวัง เพราะส่วนหนึ่งเป็นการปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน

แต่ระยะยาว หากการเมืองไม่นิ่ง ประเทศจะเสียโอกาสในระยะยาว เพราะที่ผ่านมา ประเทศไทยพึ่งพาการส่งออกกับการท่องเที่ยวมาโดยตลอด ส่วนตัวขับเคลื่อนใหม่ๆ ในอนาคตจะต้องหวังพึ่งการปรับเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจ

ซึ่งจะต้องจับตาการเลือกตั้ง ว่าจะหนุนให้เกิดการเปลี่ยนโครงสร้างของไทยจากปัจจุบันเป็นอุตสาหกรรมการผลิตขั้นต่ำได้หรือไม่ ซึ่งเกิดขึ้นไม่ง่าย เพราะต้องอาศัยความต่อเนื่องของนโยบายและเสถียรภาพการเมือง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า