ฟรีคิกธวัชชัย

วินาทีสะกดคนไทยทั้งประเทศ

เอเชียนเกมส์ 2541

แมตช์แห่งความทรงจำ

เอเชี่ยนเกมส์ปี 98 : ไทย พบ เกาหลีใต้

สิ้นเสียงนกหวีดของกรรมการ หลังจบการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทย แพ้กาตาร์ 1-2 แต่ก็เพียงพอต่อการเข้ารอบในฐานะที่ 2 ของกลุ่ม

การได้ผ่านเข้ารอบ อาจเป็นความสำเร็จที่น่าพอใจแล้ว ไม่เคยมีใครคาดคิด ว่าทีมชาติไทยจะมาไกลได้ถึงขนาดนี้ กับด่านต่อไปในการได้เจอกับทีมยักษ์ใหญ่ ฉายาพยัคฆ์เอเชียอย่าง ‘เกาหลีใต้’

โอกาสที่ยิ่งใหญ่ เราอาจไม่ได้เจอบ่อยๆ แน่นอนว่า เมื่อ ‘มาไกลแล้ว’ ก็ต้อง ‘ไปให้ไกลที่สุด’

ประตูแห่งความทรงจำ

เย็นวันที่ 14 ธันวาคม 2541 ช่วงเวลา 2 วินาทีจากขณะที่ลูกฟุตบอลสัมผัสที่เท้าของ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ไปสู่ก้นตาข่ายของทีมชาติเกาหลีใต้ คือช่วงเวลาที่สายตาของคนไทยนับล้านคน จับตามองไปที่จอโทรทัศน์ ด้วยหัวใจที่เต้นรัวด้วยความตื่นเต้น

การเผชิญหน้ากับเกาหลีใต้ ทำให้ทีมชาติไทย กลายเป็นทีมรองบ่อนตั้งแต่ยังไม่เริ่มเกม บวกกับการที่มีผู้เล่นน้อยกว่า 2 คนอยู่ถึง 10 นาที ทำให้แมทช์รอบรองชนะเลิศระหว่างไทยและเกาหลีใต้ ถือเป็นช่วงเวลาที่บีบหัวใจที่สุดในเอเชียนเกมส์ครั้งนั้น

และนี่คือเรื่องราว ก่อนที่บอลลูกนั้นเคลื่อนไหว และกลายเป็นภาพที่ทุกคนได้จดจำ...

เอเชียนเกมส์ ความหวังหลังวิกฤต

ปีพุทธศักราช 2541

เป็นเวลา 1 ปี หลังประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ข่าวความเสียหายเป็นประเด็นใหญ่หน้าหนึ่งตลอดมา และได้ทำลายขวัญและกำลังใจคนไทยจนตั้งรับไม่ทัน

คงไม่มีเหตุการณ์ไหน ที่จะทดแทนพลังใจให้คนไทย หนีจากความหดหู่ แล้วกลับมามีพลัง ได้ในเวลาอันสั้น แต่การรวมพลัง รวมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อการแข่งขันครั้งนี้ เปรียบเหมือนการจุดประกายเล็กๆ ให้ไฟแห่งความหวังกลับมาลุกโชนอีกครั้ง

ก่อนจะถึงวันนั้น...

...

ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย เพื่อให้การจัดการแข่งขัน เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่และสมศักดิ์ศรี มีการประกาศการรับอาสาสมัครช่วยดูแลการแข่งขัน โรงเรียนหลายแห่งประกาศหยุดเรียน เพื่อให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมกับมหกรรมกีฬาครั้งนี้

...

ยุคที่เทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารยังไม่รวดเร็วเท่าวันนี้ การใช้อินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ ยังไม่แพร่หลาย

14 ธันวาคม 2541 จึงเป็นวันที่คนไทยหลายล้านคน พร้อมใจกันร่วมเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทย เพื่อประวัติศาสต์หน้าใหม่ กับภารกิจในการเอาชนะทีมชั้นนำของเอเชีย

1 เดือนก่อนถึงเอเชียนเกมส์

สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตัดสินใจแต่งตั้ง ปีเตอร์ วิธ เฮ้ดโค้ชชาวอังกฤษ มารับหน้าที่คุมทีมชาติไทน ที่แม้จะมีดีกรีเป็นถึงฮีโร่ผู้เคยยิงประตูพาทีมแอสตัน วิลล่า คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพมาแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจเรียกความเชื่อมั่นในฝีมือ จากทั้งแฟนบอลและสื่อ เพราะแทบไม่มีประสบการณ์การคุมทีมและยังไม่รู้จักนักฟุตบอลไทยดีพอ

แต่ความเชื่อมั่นของเขากลับพาทีมชาติไทยมาไกลกว่าที่ใครหลายคนคิด กับการบอกแฟนบอลไทยและนักเตะไทยอยู่เสมอ ด้วยประโยคง่ายๆ อย่าง "We can do it”

11 ตัวจริงเกาหลีใต้

1. คิม บุน-จิ

2. ปาร์ค จิน-ซุบ

3. คิม ฮยุน-ซู

4. ซิม แจ-วอน

5. โช เซ-ควอน

6. ชอย ซุง-ยอง

7. ยู จุง-ฮวาน

8. ชอย ยุน-โยล

9.ลี บยึง-เคือน

10. ชอย ยอง-ซู

11. ลี ดอง-กุ๊ก

11 ตัวจริงทีมชาติไทย

1. ชัยยง ขำเปี่ยม

2. ดุสิต เฉลิมแสน

3. กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์

4. เสนาะ โล่งสว่าง

5. พัฒนพงษ์ ศรีปราโมทย์

6. ตะวัน ศรีปาน

7. สุรชัย จิระสิริโชติ

8. สุรชัย จตุรภัทรพงษ์

9.เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

10.วรวุฒิ ศรีมะฆะ

11.นที ทองสุขแก้ว

พลังแห่งเสียงเชียร์

หากวัดกันเรื่องคุณภาพ ทีมสุดแกร่งอย่างเกาหลีใต้ เหนือกว่าทีมชาติไทยแทบทุกด้าน ทั้งรูปร่าง สภาพความฟิต และทักษะความสามารถเฉพาะตัว

ยกเว้นสิ่งเดียวที่เปรียบเสมือน ‘พลังพิเศษ’

จากกว่า 6 หมื่นคนที่ตีตั๋วเข้ามาเกือบเต็มความจุใน ‘ราชมังคลากีฬาสถาน’ บางคนไปรอซื้อตั๋วแต่เช้ามืด และอีกหลายพันคนที่ไม่สามารถเข้าสนามได้เพราะไม่มีตั๋ว แต่ทั้งหมดนั้น ได้รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกับคนไทยอีกหลายล้าน เป็นกำลังใจ สู่ 11 นักเตะไทยในสนาม เพื่อหวังจะให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในวันนั้น

เกมการแข่งขัน

ความในใจของผู้บรรยายเกม

ปัจจุบันของตำนานเอเชียนเกมส์

นที ทองสุขแก้ว

ปราการหลังจอมเก๋า ผู้สวมปลอกแขนกัปตันทีม ตัดสินใจแขวนสตั๊ดเมื่อปี พ.ศ. 2543 เมื่ออายุได้ 34 ปี ปัจจุบันรับราชการตำรวจ ยศพันตำรวจโท
ในสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุทัยธานี

วรวุฒิ ศรีมะฆะ

ศูนย์หน้าร่างโย่ง เจ้าของส่วนสูง 191 เซนติเมตร หลังแขวนสตั๊ดในปี 2552 ก็เริ่มต้นงานโค้ชทันที
ปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เพื่อเตรียมสู้ศึกในเอเชียน เกมส์ครั้งนี้

ดุสิต เฉลิมแสน

แบ็กซ้ายตำนานทีมชาติไทยและอดีตแข้งดาราเอเชีย
ผู้มีทีเด็ดในการปั่นฟรีคิก ลงสนามรับใช้ชาติ 124 นัด ยิงได้ 14 ประตู ปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมตราดเอฟซี
และกำลังมีลุ้นเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาลหน้า

เสนาะ โล่งสว่าง

กองกลางตัวตัดเกม เจ้าของฉายา “รถถังเมืองปากน้ำโพ” เสนาะถือเป็นนักเตะที่มีเส้นทางค้าแข้งที่ยาวนานที่สุดในชุดนี้ โดยเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพด้วยวัย 41 ปี ปัจจุบันทำงานประจำอยู่ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดนครสวรรค์ และเปิดร้านขายอาหารของตัวเอง

สุรชัย จิระศิริโชติ

ปราการหลังทางบอลดี เคยพาทีมคว้าแชมป์ซีเกมส์มาแล้ว 2 สมัย เป็นนักเตะไทยยุคแรกๆ ที่ไปค้าแข้งในประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาทีม เจแอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ในไทยลีก 3

ชัยยง ขำเปี่ยม

นายทวารที่ถูกเรียกตัวกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในวัย 33 ปี
หลังการจากไปของ วัชรพงษ์ สมจิตร ผู้รักษาประตูมือหนึ่งในตอนนั้น เขาอาศัยประสบการณ์ทำผลงานได้อย่างดียามลงสนาม ก่อนแขวนถุงมือในวัย 37 ปี ปัจจุบันติดยศพันตำรวจโท และรับงานเป็นคอมเมนเตเตอร์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอล

สุรชัย จตุรภัทรพงศ์

มิดฟิลด์เท้าชั่งทอง หลังจากแขวนสตั๊ด เขาได้ผันตัวมาเป็นโค้ช และร่วมงานกับสโมสรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเขาคือผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลดังอย่าง บางกอกกล๊าส เอฟซี

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

ศูนย์หน้าจอมตีลังกา และเป็นความหวังของทีมชาติไทย มีชื่อเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในทีมชาติไทย ด้วยจำนวน 71 ประตู จาก 134 นัด รวมถึงเคยเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย และปลุกกระแสบอลไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ปัจจุบันนั่งแท่นผู้บริหารบริษัท สปอร์ต ฮีโร่ จำกัด ที่เขาก่อตั้งขึ้น

ธชตวัน ศรีปาน

ชื่อเดิม “ตะวัน ศรีปาน” จอมทัพหมายเลข 10 เจ้าของฉายา “สุภาพบุรุษลูกหนัง” ผลงานการคุมทีม เคยพาเมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีกเมื่อปี 2016
ปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมโปลิศ เทโร เอฟซี

กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์

แบ็คขวาที่ดีที่สุดตลอดกาลทีมชาติไทย แม้ปัจจุบันจะไม่ได้มีตำแหน่งเป็นเฮดโค้ชทีมไหน แต่ก็ยังอยู่ในแวดวงฟุตบอลโดยรับงานด้านผู้ฝึกสอนฟุตบอล รวมถึงเป็นพนักงานประจำอยู่ที่ บมจ.ทีโอที

พัฒนพงศ์ ศรีปราโมช

ปราการหลังตัวกลาง หลังจากแขวนสตั๊ด ก็ยังคงอยู่ในวงการฟุตบอล ด้วยการรับงานผู้ฝึกสอนให้กับสโมสรราชประชา และมีโอกาสร่วมงาน กับทีมชาติไทยชุดเยาวชน 19 ปี ในตำแหน่งฝ่ายเทคนิค ปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมขอนแก่น เอฟซี ในไทยลีก 2

ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล

กองกลางตัวสำรองผู้กลายมาเป็นฮีโร่ของทีมชาติไทย ประตูดังกล่าวก็ส่งให้ ธวัชชัย ถูกดึงตัวไปถึงค้าแข้งในต่างแดนนานหลายปี ก่อนเริ่มจับงานโค้ชครั้งแรกในปี 2009 กับเชียงราย ยูไนเต็ด ปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี ทีมน้องใหม่ในไทยลีก และกำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นโลกของฟุตบอล หรือทุกเรื่องราวในชีวิต

ขอเพียงทุ่มเทอย่างสุดกำลัง ถ้าเรายังเชื่อว่าทุกสิ่งเป็นไปได้

มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง ร่วมเชียร์ทีมชาติไทยใน

การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18
18 สิงหาคม - 2 กันยายน 2561 ทาง Workpoint TV