ตำรวจแอตแลนตาโดนข้อหาจับกุม 2 นักศึกษารุนแรงเกินเหตุ ยิงปืนไฟฟ้าก่อนกระชากลงจากรถ 

นิตยสารไทม์ (Time) รายงานถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 6 นาย โดนหมายจับหลังจากเหตุการณ์เข้าจับกุมนักศึกษา 2 คนที่ปราศจากอาวุธด้วยความรุนแรงเกินเหตุ หลังจากที่ทั้งคู่เพิ่งกลับจากการเข้าร่วมประท้วงที่กำลังเกิดขึ้นทั่วสหรัฐจนถึงตอนนี้ 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงคืนวันเสาร์ที่ 30 พ.ค. มีการบันทึกวิดีโอขณะที่ตำรวจทำการเข้าจับกุมวัยรุ่น 2 คนที่นั่งอยู่ในรถ ฝั่งที่นั่งข้างคนขับ ทานิยาห์ พิลแกรม ซึ่งเป็นผู้หญิงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงปืนช็อตไฟฟ้าใส่และดึงตัวออกมาจากรถ ส่วนฝั่งคนขับชาย เมสไซยาห์ ยัง ถูกตำรวจทำลายกระจกรถและใช้ปืนช็อตไฟฟ้ายิงใส่ก่อนจะปล่อยกระแสไฟอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นทั้งคู่ยังถูกลากลงจากรถด้วยความรุนแรง

พอล ฮาเวิร์ด อัยการประจำเขต Fulton County กล่าวในแถลงการณ์ว่าทั้งสองคนถูกเจ้าหน้าที่กระทำการดังกล่าวเพียงเพราะนายยังซึ่งเป็นคนขับได้ถ่ายคลิปวิดีโอในขณะที่ตำรวจกำลังปะทะกับชายผู้หนึ่งอยู่ และก็ได้ขอให้ตำรวจปล่อยชายผู้นั้นซึ่งกำลังร้องไห้อยู่ให้ขึ้นรถไปกับเขา

จากนั้นเมื่อรถของยังและพิลแกรมขับไปข้างหน้าเพียงเล็กน้อยและจอดติดไฟแดง ตำรวจก็ได้เข้าชาร์จและทำการจับกุมด้วยความรุนแรงทันที ก่อนที่ยังจะโดนข้อหาหลบหนีเจ้าหน้าที่และขับรถด้วยใบขับขี่ที่ถูกระงับ ส่วนพิลแกรมไม่มีการตั้งข้อหาแต่อย่างใด

ผลจากเหตุดังกล่าวทำให้ยังต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเนื่องจากกระดูกข้อมือร้าว และยังต้องเย็บแผลอีก 24 เข็ม ทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าต้องทำการช็อตทั้งคู่เนื่องจากไม่แน่ใจว่ามีอาวุธหรือไม่ ซึ่งในรายงานการจับกุมไม่ได้ลงบันทึกว่ามีอาวุธแต่อย่างใด

หลังจากที่ภาพวิดีโอการจับกุมถูกเผยแพร่ออกไป ตำรวจทุกนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงการเล็งหรือชี้ปืนช็อตไฟฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร แต่จะอนุญาตให้ประกันตัวด้วยเงิน 10,000 เหรียญสหรัฐ เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดที่ทำให้ต้องจำกัดจำนวนคนในคุก

ส่วน 2 ข้อหาที่ยังโดนนั้น ทาง คีชา แลนซ์ บอตทอมส์ นายกเทศมนตรีเมืองแอตแลนตาได้ทำการสั่งให้ยกเลิกข้อหาเหล่านั้น รวมถึงไล่ตำรวจ 2 จาก 6 นายออกทันที