‘บางกอกแอร์เวย์ส’ รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2565 ขาดทุน 847 ล้านบาท ส่งผลใหช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ขาดทุนรวม 1,867 ล้านบาท หลักๆ มาจากต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ผู้ประกอบธุรกิจสายการบิน ‘บางกอกแอร์เวย์ส’ เปิดเผยผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ขาดทุน 847 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 686 ล้านบาท
ส่งผลให้ผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 ขาดทุนรวม 1,867 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 1,431 ล้านบาท
โดยงบการเงินที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประะเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก
‘พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ’ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพ บอกว่า ในไตรมาส 2 ดีมานด์การเดินทางยังโตต่อเนื่อง จากมาตรการผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศของภาครัฐที่เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปี ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของผู้โดยสารต่างชาติ
โดยเส้นทางบินหลักยังคงเป็นเส้นทางบินที่มีจุดหมายปลายทางเป็นเมืองท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพ-สมุย กรุงเทพ-ภูเก็ต กรุงเทพ-เชียงใหม่ สมุย-ภูเก็ต และ กรุงเทพ-พนมเปญ ทำให้ไตรมาสล่าสุด BA มีรายได้รวม 2,520.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 74.7%
อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 2 ที่ 3,180.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ต้นทุนขายและบริการที่ผันแปรตามจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินของธุรกิจสายการบิน ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานเท่ากับ 439.9 ล้านบาท แต่ขาดทุนลดลง 146.8 ล้านบาท หรือ 25% เมื่อเทียบกับปี 2564
ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2565 บริษัทฯ มียอดผู้โดยสารกว่า 9 แสนราย มีเที่ยวบินจำนวน 10,817 เที่ยวบิน และมีอัตราขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 71.6% โดยมีรายได้รวม 4,181.2 ล้านบาท
โดยรายได้จากการจำหน่ายบัตรโดยสารของธุรกิจการบินในครึ่งปีแรกของปี 2565 อยู่ที่ 1,984 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน 1,033.5 ล้านบาท
หลักๆ มาจากการเพิ่มขึ้นของบริษัทย่อยที่เป็นผู้ให้บริการในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสนามบินจากการกลับมาปฏิบัติการบินของสายการบินต่างๆ
สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 บริษัทฯ ได้วางแผนเพิ่มความถี่เที่ยวบิน เช่น เส้นทางบินระหว่างประเทศในเส้นทาง กรุงเทพ-พนมเปญ เป็น 21 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และเส้นทางสมุย-สิงคโปร์ เป็น 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ตามความต้องการการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น
การเปิดให้บริการเช็คอินด้วยตนเองผ่านเครื่องบริการอัตโนมัติ Self-service Check-in Kiosk เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่เดินทางในเที่ยวบินภายในประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินสมุย และสนามบินกระบี่
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันการบินพลเรือน เพื่อร่วมกันผลิตบุคลากรด้านช่างอากาศยาน และยกระดับมาตรฐานการฝึกอบรมการ ซ่อมบำรุงอากาศยานภาคปฏิบัติขั้นพื้นฐานของประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดตั้ง บริษัท กรุงเทพ รีทแมเนจเมนท์ จำกัด เพื่อเป็นผู้จัดการกองทรัสต์ รวมถึงยื่นคำขอจัดตั้ง ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สนามบินการบินกรุงเทพ (BA Airport Leasehold Real Estate Investment Trust: BAREIT) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
โดย ก.ล.ต.ได้ให้ความเห็นชอบในหนังสือชี้ชวนการเสนอขายหน่วยทรัสต์ BAREITเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา