บาทอ่อนยวบ เพราะเงินดอลลาร์แข็งค่า การเมืองในประเทศไม่นิ่ง

ค่าเงินบาทอ่อนยวบ ล่าสุดแตะ 36.21 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการเมืองในประเทศที่ไม่นิ่ง

เช้านี้ ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง โดยล่าสุด (10.00 น.) แตะระดับ 36.21 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากเมื่อต้นเดือน ก.ค. อ่อนค่าหนักสุดแตะ 36.95 บาทต่อดอลลาร์

สาเหตุที่ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าในรอบนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าเป็นผลจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า สะท้อนจากดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (US Dollar Index) ที่พุ่งแตะ 109 จุด สูงสุดในรอบ 20 ปี

นอกจากนี้ คาดว่าอีกปัจจัยกดดัน คือ การเมืองในประเทศที่ไม่นิ่ง โดยคาดว่าวันนี้ (23 ส.ค.) จะมีการนัดชุมนุมของ 4 กลุ่ม จากปมนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี

นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย มองว่า ค่าเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.05-36.25 บาทต่อดอลลาร์ และคาดว่าจะผันผวนในฝั่งอ่อนค่าต่อเนื่อง เพราะค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มแข็งค่า

ทั้งนี้ คาดว่าดอลลาร์จะแข็งค่าจนกว่าตลาดจะรับรู้ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในการประชุมรอบ Jackson Hole

หลังเงินบาทอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านที่ประเมินไว้ คาดว่าแนวต้านถัดไปจะอยู่ในช่วง 36.20-36.30 บาทต่อดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เงินบาทจะไม่อ่อนค่ารุนแรงไปมาก ถ้าไม่มีปัจจัยเสี่ยงกดดันให้นักลงทุนต่างชาติเทขายสินทรัพย์ไทยรุนแรง

เช่น ทางการจีนใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดในเมืองสำคัญ เพื่อคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 หรือปัญหาการเมืองในประเทศทวีความรุนแรงมากขึ้น

ถึงอย่างนั้น ในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวนสูงและมีหลายปัจจัยที่ไม่แน่นอน แนะนำผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น

โดยเฉพาะการประกันค่าเงิน (Options) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก