Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

มีหลายครั้งที่เราเห็นการเติบโตของ ‘บางจาก’ จากหลายๆ ดีลมาเสริมความแข็งแกร่ง ที่ผ่านมาเกิดบิ๊กดีลมากมายขึ้นก่อนที่จะเป็น ‘บางจาก : ใบไม้ใบใหม่’ สัญลักษณ์เชิงการตลาดที่สะท้อนความแกร่งอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หนึ่งในดีลใหญ่ที่เป็น talk of the town ในวงการพลังงานก็คือ การควบรวมและโอนย้ายสินทรัพย์ทั้งหมดของ ‘พี่เสือ’ ธุรกิจ Esso ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 หลังดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานมากกว่า 120 ปี

รวมทั้งการดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมันศรีราชา ใต้ร่มเงาธุรกิจของบางจากที่เพิ่งครบ 1 ปีไปหมาดๆ เช่นกัน

ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวย้อนไปถึงสมัยก่อนที่บางจากยังเป็นโรงกลั่นที่เล็กที่สุดในประเทศ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นโรงกลั่นที่ดีที่สุดในโลกเพราะได้รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA) บางจากได้เพียงรายเดียวในโลก

ขณะเดียวกันเหตุผลที่บางจากปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ชัยวัฒน์ กล่าวว่า “บางจากต้องการทำให้แบรนด์ดูเด็กลง วัยรุ่น ไม่ใช่เป็นคุณลุงใส่เสื้อม่อฮ่อม เราจึงเลือกทำการรีแบรนด์ด้วยการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ตอนนี้เหลือแค่ในต่างจังหวัดบางสาขาที่ยังไม่ได้เปลี่ยนโลโก้”

ทั้งนี้ บางจาก ครบรอบ 40 ปี ถือว่าเป็นปีแห่งการสร้าง Synergy ปรับตัวและเติบโต ขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ที่โดดเด่นกว่ารายอื่นๆ ในตลาด โดยเฉพาะกำลังการผลิตการกลั่นน้ำมันที่บางจากจะกลายเป็นรายใหญ่ที่กลั่นน้ำมันได้สูงสุดในประเทศ 300,000 บาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ มีข้อมูลน่าสนใจอื่นๆ ที่ ‘ชัยวัฒน์’ ได้สรุปเร็วๆ ในภาพรวมทั้งหมดของธุรกิจบางจาก ดังนี้

  • สถานะการเงินของบางจากถือเงินสดกว่า 45,000 ล้านบาท
  • มีสินทรัพย์ในงบการเงินกว่า 350,000 ล้านบาท
  • มีหนี้สิน 100,000 ล้านบาทนิดๆ ซึ่งถือว่าไม่เยอะมาก
  • EBITDA ปัจจุบันอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท

เป้าหมายใหญ่ของธุรกิจบางจาก มีอยู่หลายประการรวมกัน หนึ่งในเป้าหมายใหญ่ที่สุดก็คือ ‘EBITDA’ ที่ตั้งใจก้าวสู่เป้าหมาย 100,000 ล้านบาท ในปี 2573

 

[ ขยายปั๊มน้ำมันอีก 2,400 แห่ง ]

หน้าบ้านของธุรกิจน้ำมัน หนึ่งในพื้นที่ที่สำคัญก็คือ ‘สถานีบริการน้ำมัน’ หรือปั๊มน้ำมันนั่นเอง ซึ่งการปรับปรุงและเพิ่มบริการอื่นๆ ใน core ธุรกิจของบางจาก ยังมีแผนขยายสถานีบริการน้ำมันอีก 2,400 แห่ง ภายในปี 2573 จากปัจจุบันที่มีสถานีบริการ 2,214 แห่ง

ส่วนหนึ่งเพื่อตอบสนองกับ pain point ผู้บริโภคที่ปัจจุบันอาจจะมองว่า ปั๊มบางจากหายาก มีน้อย ซึ่งจุดอ่อนเหล่านี้ ‘เสรี อนุพันธนันท์’ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด ที่เปิดเผยถึงแผนการขยายสาขาในอนาคต

“เราพยายามเพิ่ม touch point เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ที่ผ่านมาเราได้รางวัลเป็น Super Brand เป็นปีที่ 6 จากการสำรวจและผู้บริโภคเชื่อใจ ขณะที่แบรนด์อินทนิลเองก็เป็น Super Brand ติดกันเป็นปีที่ 3”

“เทรนด์ของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังมาแรง ดังนั้น ในทุกๆ 100 กิโลเมตร ต้องมี EV Charging ตามแผนขยายสาขา”

ความน่าสนใจของธุรกิจตลาดปั๊มน้ำมันบางจากก็คือ การรวบรวมร้านดังที่ได้ ‘มิชลินไกด์’ มาอยู่ด้วยกัน ภายใต้เป้าหมาย one coffee one mart ซึ่งหลักๆ ที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าบางจากมีโมเดลสถานีบริการน้ำมันอยู่หลายรูปแบบ ทั้งโมเดล Food Truck, Community และการเปิดร้านแบบ KIOSK อย่างที่ก่อนหน้านี้ บางจากได้จับมือร่วมกับ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เปิด GON EXPRESS เพื่อรับโมเดลนี้ เป็นต้น

ทั้งนี้ การขยายสถานีบริการน้ำมัน คาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของบางจากเป็น 33% จากครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ 28.8%

ขณะที่ กาแฟอินทนิลที่ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่จะเพิ่มจำนวนให้เป็น 2,400 แห่งภายในปีเดียวกันด้วย ซึ่งเชื่อว่าดีมานด์ที่สูงขึ้นทั้งในไทย รวมถึงตลาดใน CLMV อย่าง กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา และเวียดนาาม ก็มีดีมานด์เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

แผนการขยายธุรกิจของบางจาก มุ่งไปที่การสร้างสมดุลให้กับ Portfolio พร้อมด้วยความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งคาดว่าจะได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับ ‘A’ บ่งบอกถึงความมั่นคงจาก TRIS Rating

 

[ ขอเป็นองค์กร 100 ปี ที่ยั่งยืน ]

แนวคิด “Greenovative Destination” ของบางจาก ไม่ใช่เพียงแค่กับสถานีบริการน้ำมัน แต่ยังมีแพลนอีกมากที่เราไม่ได้พูดถึง เช่น โรงผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงใช้แล้ว (SAF) ที่ตอนนี้ก่อสร้างเสร็จแล้วประมาณ 65%

ซึ่งโรงงานกลั่นน้ำมันน้องใหม่นี้ ภายในปี 2568 จะเป็นปีแห่งการบุกเบิกความเป็นผู้นำในการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ด้วยกำลังการผลิต 7,000 บาร์เรลต่อวัน อีกทั้งบางจากยังเป็นผู้เล่นรายแรกในตลาดด้วยที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดลงทุนแล้วประมาณ 8,500 ล้านบาท และได้เซ็นสัญญาที่จะรับซื้อน้ำมันใช้แล้วจากธุรกิจใหญ่ๆ ที่เกี่ยวข้องหลายราย รวมถึงสายการบินจำนวนมากเริ่มประกาศสนใจและจะใช้น้ำมัน SAF ด้วย

ชัยวัฒน์ ได้พูดทิ้งท้ายเกี่ยวกับโครงการโรงกลั่นน้ำมัน SAF ว่า “คนไทยมีการบริโภคน้ำมันมากถึง 300 ลิตรต่อวัน ดังนั้น เราคิดว่าประมาณ 200 ลิตรที่เราจะช่วยจำกัดและนำมากลั่นอีกครั้ง ให้ได้ราวๆ 5 ถึง 6 แสนลิตรต่อวัน ประเทศไทยคงจะเป็นผู้นำในเรื่องนี้อีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งตอนนี้ก็เหลือแค่ร้านตามสตรีทฟู้ดที่อาจจะยังไม่ได้ข่าว หรือไม่เห็นประกาศการรับซื้อของบางจาก ซึ่งคิดว่าอนาคตคงจะมีการรับซื้อในปริมาณที่มากขึ้นอีก”

หลายๆ แผนการ และโครงการที่ริเริ่มไปแล้ว ไม่แปลกใจที่เห็นเป้าหมายอีกหนึ่งอย่างของบางจาก คือ อยากเป็นองค์กร 100 ปี จะถูกบรรจุเป็นวาระสำคัญของบริษัทด้วย เพราะทุกเส้นทางการเติบโตทั้งหมดที่เราเล่ามาเพียงบางส่วน สะท้อนถึงความยั่งยืน และแนวคิดที่ส่งต่อแผน 100 ปีของบางจากทั้งสิ้น

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า