‘สุดารัตน์’ ควง ‘ปวริศา’ ผู้สมัคร ส.ก. ลงพื้นที่คันนายาว ย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจดูแล “คนตัวเล็ก” ต้องได้โอกาสเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อทำมาหากินอย่างเท่าเทียม ชูธง ใช้ กทม. นำร่อง ‘กองทุนคนตัวเล็ก’ มอบ ‘บัตรเครดิตประชาชน’ ตั้งตัว ปลดหนี้ และเป็นหลักประกันทางการเงินยามฉุกเฉิน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อม น.ส.ปวริศา คุณาวรนนท์ ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 3 เขตคันนายาว พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่พบประชาชน ที่สุเหร่าแดง ที่ชุมชนวิมานสุข เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 พ.ค. 2565 คุณหญิงสุดารัตน์ ประกาศย้ำถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการดูแลคนตัวเล็ก ซึ่งหมายถึงประชาชนทุกคนที่ไม่มีเส้นมีสาย ตั้งแต่เด็กนักเรียนจบใหม่ คนค้าคนขายรายเล็ก ผู้มีรายได้น้อยทุกคน ที่ต้องได้รับโอกาสอย่างเท่าเที่ยม ที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการห้างร้านรายใหญ่ สามารถกู้เงินได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ แต่คนตัวเล็กกลับเข้าไม่ถึงโอกาสเหล่านั้น จึงต้องไปกู้หนี้ยืมสินนอกระบบ ดอกเบี้ยแพงมหาโหดสูงถึงร้อยละ 20 ต่อเดือน พี่น้องจึงไม่สามารถตั้งตัวได้
ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทย จึงมีปณิธานอย่างชัดเจนว่า จะดูแลคนตัวเล็กให้ “หายจนหมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืน” และมุ่งสร้างโอกาสให้พี่น้องคนตัวเล็กได้มีอาชีพ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้พี่น้องประชาชนคนไทย กลับมาอยู่ดีกินดีอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องปัญหาปากท้อง ที่ได้สร้างความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาเหล่านี้ คือความทุกข์ของพวกเราพรรคไทยสร้างไทย เราจึงมีนโยบายที่ทำให้คนตัวเล็กมีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน โดยจะเติมทุนให้กับผู้ที่ต้องการทำมาหากิน และน.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่ากทม.หมายเลข 11 จะใช้กรุงเทพเป็นพื้นที่นำร่อง เดินหน้านโยบายกองทุนเครดิตประชาชน เพื่อคนตัวเล็ก หรือ “กองทุนคนตัวเล็ก” ที่พรรคไทยสร้างไทยได้สร้างขึ้นมา โดยจะมอบ ‘บัตรเครดิตประชาชน’ เพื่อนำไปใช้ในการตั้งตัว สามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ1ต่อเดือน กู้ได้ตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ใช้เครดิตของตัวเองเป็นหลักประกัน โดยนโยบายดังกล่าวหากรักษาเครดิตให้ดี จะเป็นหลักประกันทางการเงินยามฉุกเฉินติดตัวพี่น้องทุกคนไปตลอดชีวิต
นอกจากนี้ หากได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ กทม. น.ต.ศิธา จะใช้อำนาจผู้ว่า เพิ่มพื้นที่ค้าขายให้พ่อค้าแม่ค้าได้ค้าขายกันอย่างเต็มที่ตลอด 7 วัน รวมทั้งจัดพื้นที่ส่งเสริมการค้าขายตลอด 24 ชั่วโมงโดยฉพาะในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก อย่างสุขุมวิท หรือถนนข้าวสาร เป็นต้น ที่สำคัญจะดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละพื้นที่ เพื่อไม่ให้กระทบกับการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่นั้นๆ