ผู้สมัคร ส.ก.รุ่นใหม่ ‘รวมไทยยูไนเต็ด’ เดินหน้าขอโอกาสทวงคืนสาธารณูปโภคพื้นฐาน ให้กทม. ตามหลักการ พ.ร.บ.กระจายอำนาจฯ ยกระดับคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพ
วันที่ 12 พ.ค. 2565 เพจเฟซบุ๊ก พรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์เรื่อง “ทวงคืนสาธารณูปโภคพื้นฐาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนกรุง” โดยมีรายละเอียดระบุว่า ผู้สมัครสมาชิกกรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ในนามพรรครวมไทยยูไนเต็ด ได้แก่ นายกอบกฤต สุขสถิตย์ (หนุน) ผู้สมัครส.ก. เขตปทุมวัน หมายเลข 7, น.ส.ภัทรพร ชุติวาลนันท์ (นุ่น) ผู้สมัคร ส.ก. เขตคลองสาน หมายเลข 7 และ น.ส.ริสา แซ่ฮึง (ยิว) ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางคอแหลม หมายเลข 3 ต่างตระหนักถึงความสำคัญของบทบาท ส.ก. ในฐานะกลไกสำคัญในการผลักดันให้เกิดการกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่นในการดูแลบริหารจัดการสาธารณูปโภคพื้นฐาน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนมากที่สุดตาม พ.ร.บ. กระจายอำนาจฯ พ.ศ. 2542 ที่กำหนดอำนาจและหน้าที่ในการจัดบริการสาธารณะระหว่างรัฐกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เกิดความมั่นคงและความสะดวกในการบริหารงาน ที่การบริหารงานแบบรวมศูนย์ไม่อาจตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของประชาชนในด้านการบริการ และการอำนวยประโยชน์ได้
โดยในปี 2562 มีรายงานถึงเงินกําไรของการไฟฟ้า และ ประปา ออกมาว่า กฟน. มีกำไร 8,400 ล้านบาท และ ประปากำไรอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท โดยคนกรุงถือเป็นผู้บริโภคใหญ่ที่สุด คำถามที่เกิดขึ้นคือ กำไรจากสาธารณูปโภคพื้นฐานเหล่านั้น กทม. ไม่สามารถนำกลับมาใช้เพื่อพัฒนาเมืองและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพได้เลย
ทั้งนี้ นายกอบกฤต ผู้สมัครส.ก. เขตปทุมวัน หมายเลข 7 กล่าวว่า “การกระจายการบริหารงานจากศูนย์กลางมาอยู่ที่พื้นที่ จะทำให้มีการบริหารงานต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นการที่การจัดการไฟฟ้าและประปาจะมาอยู่ในมือของกทม. จะทำให้การบริหารงานและการจัดการไฟฟ้าและประปาตอบโจทย์ประชาชนในพื้นที่มากขึ้น ไฟฟ้าพลังงานทดแทนสามารถดึงมาใช้งานได้อย่างเต็มที่ การเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำประปาให้ทานได้และครอบคลุมทุกพื้นที่”
น.ส.ภัทรพร ผู้สมัคร ส.ก. เขตคลองสาน หมายเลข 7 ได้กล่าวเสริมอีกว่า “ประชาชนทั่วไปต่างก็พร้อมที่ปรับตัวมาใช้พลังงานทางเลือก แต่ด้วยโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารงานของภาครัฐบางส่วนที่ส่งผลให้การตื่นตัวของประชาชนในการใช้พลังงานทางเลือกน้อยลง การขายคืนไฟจากการลงทุนของประชาชนในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ดูจำกัดด้วยการไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ดังนั้นการที่จะผลักดันให้มหานครอย่างกทม. เข้ามามีอำนาจในการบริหารการไฟฟ้าด้วยตัวเอง คงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้มากที่กว่าการกำกับดูแลจากส่วนกลาง”
“มหานครกรุงเทพ ต้องการอำนาจในการพัฒนาตนเองให้ครอบคลุมในทุกด้าน แต่ในปัจจุบันการที่กรุงเทพมหานครจะปรับตัวให้เป็นเมืองสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังติดปัญหาอยู่หลายส่วนหนึ่งในนั้น คือ กทม.ไม่มีอำนาจในการเข้าไปดูแลสาธารณูปโภคพื้นฐานของกทม. อย่างเช่น การไฟฟ้า และ การประปา ดังนั้นการเร่งกระบวนการตามพระราชบัญญัติ การกระจายอำนาจท้องถิ่น พ.ศ. 2542 จะเป็นการตอบโจทย์ปลดล็อกให้กทม.พัฒนาตนเองได้อย่างเต็มที่” ผู้สมัคร ส.ก. พรรครวมไทยยูไนเต็ด ระบุ
ขณะที่ น.ส.ริสา ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 3 เขตบางคอแหลม ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงความสำคัญของการทวงคืนสาธารณูปโภคพื้นฐานให้กทม. จัดการดูแลการกระจายอำนาจจากส่วนกลางสู่ กทม. ในการจัดการบริหารไฟฟ้า และ ประปาเองได้ จะเป็นก้าวสำคัญในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอื่น ๆ เพื่อให้มีการจัดการบริการให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่มากขึ้น และขอย้ำอย่าลืมวันที่ 22 พฤษภาคม นี้ เลือกสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) บัตรสีชมพู เลือกพรรครวมไทยยูไนเต็ด
https://www.facebook.com/RuamThaiUnited/posts/pfbid0ntwWYck89rX3RHra7qWKoMaM8zMDhWj7pHhhrTFxLsNHqMNYvDCpkjECxnZJgnfGl