ผู้ว่าการ ธปท. เตือนธุรกิจเร่งปรับตัวสู่ดิจิทัล เผยสถิติพร้อมเพย์ช่วงล็อกดาวน์ใช้วันละ 20 ล้านรายการ

ผู้ว่าการ ธปท. เตือนธุรกิจเร่งปรับตัวสู่โลกดิจิทัล พร้อมเผยสถิติพร้อมเพย์ช่วงล็อกดาวน์ใช้วันละ 20 ล้านรายการ

วันที่ 18 ก.ย. 2563 ธนาคารแห่งประเทศไทย จัดงาน Bangkok FinTech Fair ปีนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด “Digital Transformation for the New Normal: พร้อมรับวิถีใหม่ SME ก้าวต่อไปด้วยดิจิทัล” เพื่อส่งเสริมการปรับตัวของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SME (เอสเอ็มอี) ให้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรองรับกับความท้าทายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในโลกวิถีใหม่ หรือ new normal โดยที่มีผู้ให้บริการทางการเงินและบริษัทฟินเทคต่างๆ เป็นตัวช่วยที่สำคัญในการปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจได้อย่างครบวงจร

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวเปิดงานโดยสรุปว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คล้ายกับการมีคนมากดปุ่ม Fast Forward ทำให้หลายอย่างที่เราคิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ต้องเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะต้องมีการปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัล

เทคโนโลยีดิจิทัล จะเข้ามาเป็นหัวใจสำคัญของโลกหลังโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นภาคประชาชนหรือภาคธุรกิจ ต้องปรับตัวเข้าสู่โลกใหม่โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหลัก โลกใหม่นั้นเราต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เพราะเกิดการผลิตส่วนเกิน ที่ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นทั้งระบบเศรษฐกิจโลก ดังนั้นต้องสามารถใช้เทคโนโลยดิจิทัลช่วยลดต้นทุนไปพร้อมๆ กับยกระดับรูปแบบการทำธุรกิจของตัวเองได้
ช่วงล็อกดาวน์เห็นได้ชัดว่า ธุรกิจไหนที่ประยุกต์ใช้ดิจิทัลได้ ก็สามารถก้าวข้ามความยากลำบากในเวลานั้นและนำไปสู่การปรับตัวได้ ซึ่งการปรับตัวให้สอดคล้องกับวิถีใหม่เป็นเรื่องสำคัญ ที่จะมาช่วยสร้าง ความทนทาน พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาได้ยากขึ้นเรื่อยๆ

ธนาคารแห่งประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญในการปรับตัวสู่โลกดิจิทัล ซึ่งหลายอย่างที่ได้เริ่มทำไว้ อาทิการชำระเงินแบบพร้อมเพย์ที่เริมขึ้นเกือบ 4 ปี วันนี้ได้รับการยอมรับจากประชาชนในวงกว้าง มีคนลงทะเบียน ทั้งด้วยบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ รวม 55.1 ล้านไอดี มียอดการใช้งานทำลายสถิติใหม่สูงสุด 20 ล้านรายการต่อวัน นอกจากนี้ ‘คิวอาร์โค้ดเพย์เมนต์’ เป็นระบบที่มาต่อยอดพร้อมเพย์ พบว่า ในช่วงล๊อกดาวน์มีคนใช้เพิ่มสูงขึ้นมาก 6 ล้านไอดี มีสัญญาณที่ดีจากการทำธุรกิจแบบเดิม เช่นจ่ายเช็ก ตู้เอทีเอ็ม หรือเบิกถอนเงินที่สาขาธนาคาลดลง ซึ่งการปรับตัวสู่ดิจิทัลจะช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจตลาดค้าขายออนไลน์ และเชื่อว่า ยังสามารถต่อยอดได้อีกมาก