SHARE

คัดลอกแล้ว

‘บรรทัดทอง’ ย่านที่เคยคึกคัก เต็มไปด้วยผู้คน นิสิต นักชิม และนักท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างชาติ จนกลายเป็นหมุดหมายสำคัญของสตรีทฟู้ดเมืองไทย แต่ในวันนี้ กลับมีเสียงกระซิบถึงความเงียบเหงาที่เข้ามาปกคลุม หลายคนตั้งคำถามถึงสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าที่พุ่งสูง ราคาอาหารที่ถูกมองว่าแพงขึ้น หรือรสชาติที่อาจไม่คงเส้นคงวา รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

แต่ในท่ามกลางกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลง และร้านใหม่ๆ ที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ยังมี ‘หัวใจ’ ของบรรทัดทองที่เต้นอยู่ไม่เคยเปลี่ยน นั่นก็คือ ร้านอาหารเก่าแก่ของ ‘บรรดาเจ๊ๆ’ ที่ยืนหยัดมานานนับสิบๆ ปี บางร้านเป็นตำนานกว่าครึ่งศตวรรษ ด้วยรสมือที่เป็นเอกลักษณ์ คุณภาพที่ไม่เคยเปลี่ยน และราคาที่ยังคงมิตรภาพ

TODAY อยากชวนทุกคนไปหวนรำลึก กลิ่นหอมโชยแบบเดิมๆ ที่คิดถึง ร้านเก่าเจ้าเดิมยังคงควันโขมง และรสชาติเดิมที่ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คน วันนี้บรรดาเจ๊ๆ คนเดิม ยังคงอยู่ที่เดิม และยังยืนยันความอร่อยแบบเดิมไม่เคยเปลี่ยน 

[เจ๊โส่ย ข้าวหมูแดงเลิศรส: 60 ปีที่หอมฟุ้งด้วยเตาถ่าน…ใครคิดถึงข้าวหมูแดงเจ๊โส่ยบ้าง?]

ลองหลับตานึกภาพตาม… ข้าวหมูแดงหอมๆ ย่างด้วยเตาถ่าน ราดด้วยน้ำซอสฉ่ำๆ ที่ไม่เหมือนใคร หมูกรอบเนื้อแน่นๆ หนังกรอบสะใจ! นี่คือรสชาติของ เจ๊โส่ย ข้าวหมูแดงเลิศรส ตำนานกว่า 60 ปีในย่านจุฬาฯ ที่ส่งต่อความอร่อยตั้งแต่รุ่นลุงมาสู่รุ่นเจ๊โส่ยผู้เป็นรุ่นที่ 2 ที่ขายมานานกว่า 40 ปี เป็นร้านโดนใจของทั้งนิสิตและอีกหลายๆ คน

“เจ๊ขายมานานแล้ว อยู่กับจุฬามานาน เป็นคนเก่าคนแก่ที่นี่เลย คือเจ๊โส่ยขายจนสีผมเปลี่ยนเลยละกัน” เจ๊โส่ยเล่าด้วยน้ำเสียงภูมิใจและแววตาที่เต็มไปด้วยความผูกพัน “ทุกวันนี้ เจ๊ยังลุกขึ้นมาตั้งแต่ตี 4 หุงข้าว จุดเตาถ่าน ย่างหมู ทำเองทุกอย่าง เพราะเจ๊โส่ยอยากให้อาหารได้มาตรฐาน ลูกค้ามากินกี่ครั้งก็อร่อยเหมือนเดิม” 

แม้ตอนนี้บรรทัดทองจะเปลี่ยนไปเยอะตามกาลเวลา มีร้านใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ร้านเจ๊โส่ยยังคงอยู่ที่เดิม รสชาติคงเดิม และขายในราคาที่ใครๆ ก็เอื้อมถึง แค่ 50-60 บาทเท่านั้น!

“ใครกินแล้วต้องชมว่าทั้งอร่อยทั้งถูก” เจ๊โส่ยยืนยัน และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เธอยังคงยืนหยัดขายข้าวหมูแดงหอมๆ หุงด้วยวิธีโบราณแบบ ‘หุงเช็ดน้ำ’ ที่ทำให้ข้าวหอมอร่อยและไม่บูดง่าย ที่สำคัญคือ เจ๊โส่ยยังคงคุมเองทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้รสชาติมาตรฐานที่ลูกค้าคุ้นเคย ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป คุณภาพก็ยังคงเหมือนเดิม 

“ร้านเจ๊โส่ยยังอยู่ที่นี่ตรงนี้ ยังไม่หายไปไหน ไม่ได้ย้ายไปไหน อร่อยเหมือนเดิม ที่สำคัญคือ ขายราคาเดิม และให้เยอะเหมือนเดิมด้วย” ได้ยินแบบนี้แล้ว ใจคนเคยทานคงพองโต อยากกลับไปซดน้ำซุปหอมๆ กับข้าวหมูแดงเจ๊โส่ยอีกครั้งใช่ไหมล่ะ? มาเถอะ เจ๊ยังรออยู่ที่เดิม!

[เจ๊ฝน คั่วไก่: 30 ปี กับกลิ่นคั่วกระทะหอมๆ ที่ยังตามหลอกหลอน… ยังจำคั่วทาโร่ เส้นหนึบ เคี้ยวมัน ได้บ้างไหม]

จำได้ไหม ‘คั่วไก่’ เส้นเหนียวนุ่ม ผัดมาหอมกลิ่นกระทะไหม้หน่อยๆ ไก่นุ่มชิ้นโตๆ เคี้ยวเพลินๆ กับปาท่องโก๋ตัวเล็กกรุบกรอบ นั่นคือรสชาติของ เจ๊ฝน คั่วไก่ ตำนานกว่า 30 ปีที่สืบทอดมาจากอากงอาม่า ร้านที่อยู่คู่บรรทัดทองมายาวนานหลายสิบปี ลูกค้าของเจ๊ฝนมีหลากหลาย ทั้งนักเรียน พนักงานออฟฟิศ และแน่นอนว่ามีลูกค้าประจำที่ผูกพันกับรสชาตินี้มานาน

แม้ตอนนี้เจ๊ฝนจะยอมรับว่า ยอดขายตามเศรษฐกิจที่เจอๆ กันอยู่ แต่เจ๊ฝนและน้องต่อ ลูกชาย ยังคงมองโลกในแง่ดีและพยายามปรับตัวอยู่เสมอ พวกเขายังคงยืนยันว่า รสชาติและมาตรฐานของร้านไม่เคยเปลี่ยน “ผมยืนยันนะครับว่ายังอยู่ในมาตรฐาน รสชาติก็ยังเหมือนเดิม ราคาก็เหมือนเดิม” น้องต่อกล่าว 

หากคุณคิดถึงกลิ่นคั่วกระทะหอมๆ ที่ชวนน้ำลายสอของคั่วไก่เจ๊ฝน ได้เวลาแล้วที่จะกลับไปซึมซับความอร่อยแบบดั้งเดิมอีกครั้ง เจ๊ฝนยังตั้งใจผัดคั่วไก่รอคุณอยู่นะ!

[เจ๊วรรณ น้ำเต้าหู้: ตำนานน้ำเต้าหู้ที่ไม่เคยเจือจาง… คิดถึงน้ำเต้าหู้เจ๊วรรณก่อนนอนไหม?]

ก่อนจะนอน…ต้องแวะ! น้ำเต้าหู้เจ๊วรรณ คืออีกหนึ่งตำนานที่อยู่คู่บรรทัดทองมานานกว่า 20 ปี น้ำเต้าหู้เข้มข้น หอมกรุ่นจากถั่วเหลืองแท้ๆ ที่เจ๊วรรณลงมือทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่เลือกถั่วอย่างดี แม้ช่วงหลังจะมีเมนูนมสดเพิ่มเข้ามา แต่ความคลาสสิกของน้ำเต้าหู้เจ๊วรรณก็ยังคงเป็นที่หนึ่งในใจใครหลายคน

ใครจะรู้ว่าแค่ ลิซ่า มาเยือน ก็ทำให้ร้านเจ๊วรรณจากที่คนเยอะอยู่แล้ว ยิ่งเยอะขึ้นไปอีก ถึงขนาดมีคิวตั้งแต่ 6 โมงเย็น! แต่น่าตกใจที่หลังสงกรานต์ปีนี้ เจ๊วรรณรู้สึกว่าลูกค้าหายไปถึง 50% “ไม่ใช่แค่เจ๊วรรณที่ตกใจ ลูกค้าที่มากินกันเองก็ยังงงว่า คนที่บรรทัดทองหายไปไหนหมด” 

แต่ช่วงนี้ยอดขายตกลง เจ๊วรรณมองว่าสาเหตุหลักๆ คือเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศที่ทำให้คนรัดเข็มขัดกันหมด แต่เธอยังคงยืนยันว่า ราคาของร้านไม่เคยเปลี่ยน และไม่เคยปรับขึ้น 

ที่สำคัญ เจ๊วรรณยังย้ำด้วยความภาคภูมิใจว่า สำหรับร้านเจ๊วรรณแล้ว คุณภาพคือสิ่งสำคัญที่สุด ที่ทำให้ร้านอยู่มาได้นานขนาดนี้ ดังนั้น อยากยืนยันว่า “ร้านเจ๊วรรณ ยังคงอร่อยเหมือนเดิม และอยากเชิญชวนทุกคนมาเดินบรรทัดทองกัน” 

หากคุณคิดถึงน้ำเต้าหู้ร้อนๆ หอมๆ หรือนมสดเข้มข้นของเจ๊วรรณ ก็อย่ารอช้าที่จะกลับไปเติมเต็มความสุขยามค่ำคืนอีกครั้ง เจ๊วรรณยังทำน้ำเต้าหู้อร่อยๆ รอคุณอยู่ตรงนี้นะ!

[เจ๊อ้อย ส้มตำ: ตำนานความแซ่บที่ไม่เคยตกยุค… อยากกินส้มตำเจ๊อ้อยแล้วใช่ไหม?] 

ส้มตำเจ๊อ้อย แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกถึงความแซ่บซี๊ดขึ้นมาทันที! อีกหนึ่งร้านเจ้าฮอตของย่านสามย่านที่เปิดมานานกว่า 30 ปี เมนูเด็ดอย่าง ปีกไก่เบรคแตก ยำขนมจีน ไส้ทอด คอหมูย่าง ที่ใครๆ ก็บอกว่า “อร่อย !! ไม่ต้องพูดเยอะ อร่อยทุกเมนู”

เจ๊อ้อยเล่าว่าเมื่อก่อนคนต่อแถวกันหน้าร้านแทบทุกวัน แต่ช่วงเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา ยอดขายก็ตกลงไปถึงครึ่งหนึ่ง แต่เจ๊อ้อยยังยืนยันว่า “ไม่แย่เท่าโควิด” และเธอยังคงยืนราคาเดิม แม้วัตถุดิบจะแพงขึ้น เพราะอยากให้ลูกค้าประจำยังคงแวะเวียนมาอุดหนุนได้ทุกวัน “ที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะลูกค้าประจำ” เจ๊อ้อยยังมองโลกในแง่ดีว่า “มันก็ไม่ได้แย่ไปทุกอย่าง” และเชื่อว่าร้านเก่าๆ ที่อยู่มาดั้งเดิมแบบเธอก็ยังคงมีคุณภาพเหมือนเดิม

“อยากชวนให้มาบรรทัดทองกันเยอะๆ อย่าเพิ่งไปเชื่อข่าว” เจ๊อ้อยฝากบอกด้วยรอยยิ้ม พร้อมเชิญชวนทุกคน และยืนยันว่า “ร้านเจ๊อ้อยที่ขายตรงนี้มาเป็น 10 ปี วันนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม ขายราคาเดิม ไม่ได้แพง ไม่ได้ขึ้นราคา ที่สำคัญยังอร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน กำแบงก์ร้อยมาก็มากินร้านเจ๊อ้อยได้แล้ว และยังเหลือเงินกลับบ้านด้วย” 

ใครที่คิดถึงรสชาติส้มตำแซ่บๆ ปีกไก่ทอดกรอบๆ ของเจ๊อ้อย ได้เวลาแล้วที่จะกลับไปชิมให้หายคิดถึง! แม่ค้าปากแดงคนเดิมยังรออยู่!

นี่คือเรื่องราวจาก ‘เจ๊ๆ’ ทั้งสี่ร้านที่สะท้อนภาพของบรรทัดทองในวันนี้ได้อย่างชัดเจน แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง แต่สิ่งที่ร้านดั้งเดิมเหล่านี้ยังคงยึดมั่นคือ คุณภาพ รสชาติ และราคาที่ยังคงเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ถึงพวกเธอจะมุ่งมั่นยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง สิ่งที่สังเกตได้ในวันนี้ คือเสียงสะท้อนจากใจของบรรดาเจ๊ๆ ที่บ่งบอกถึงความกังวลที่พวกเธอแบกรับอยู่ไม่น้อย เจ๊ทั้งหลายบอกเล่าเป็นเสียงเดียวกันว่า สถานการณ์ปัจจุบันหนักหนาสาหัสอยู่พอตัว ทั้งจากยอดขายที่หายไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์ ต้นทุนที่สูงขึ้นสวนทางกับรายได้ ทำให้แต่ละวันคือการประคับประคองเพื่อให้กิจการอยู่รอด 

ที่ทำได้ตอนนี้ เจ๊ๆ บอกว่า พวกเธอพยายามปรับตัว และภาวนาให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะหากเป็นเช่นนี้ต่อไป การจะอยู่ในบรรทัดทองก็อาจจะเป็นเรื่องยากลำบาก ที่สำคัญ นี่ไม่ใช่แค่เรื่องปากท้อง แต่คือความผูกพันกับพื้นที่ และลูกค้าที่อยู่ด้วยกันมาแสนนาน

เจ๊ๆ ยังรอพวกเรากลับไปสัมผัสความทรงจำในอดีต ลิ้มลองรสชาติคุ้นเคยที่ยังคงเอกลักษณ์ ต้อนรับด้วยรอยยิ้มแบบเดิมตั้งแต่สมัยยังเรียน สู่คนทำงาน จนถึงครอบครัว จากรุ่นสู่รุ่น เฉกเช่น ร้านอร่อยคู่สามย่าน บรรทัดทอง

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า