เข้าสู่ยุคใหม่ทั้งที บริษัทเอเจนซี่ชื่อระดับโลกอย่าง BBDO ขอแสดงวิสัยทัศน์ประจำปี 2025 พร้อมประกาศ พาแบรนด์ลูกค้า ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อ “Do Big Things” แก้ปัญหาขนาดใหญ่ให้ลูกค้า พาลูกค้าให้ไปยังเป้าหมายที่ใหญ่กว่า ผลลัพธ์ที่ใหญ่ขึ้น และพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ ที่อยากเล่นใหญ่ไปกับเรา

[ มาทำความรู้จักกับแนวคิด “Do Big Things” กัน ]

กว่าหลายทศวรรษที่ผ่านมา บริษัท BBDO สร้างชื่อด้วยปรัชญา “The Work, The Work, The Work” ผลงานคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งมันยังเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับ BBDO เสมอมา แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นมากกว่าการพัฒนา แต่มันคือการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรของบีบีดีโอไปอีกขั้น “Do Big Things” คือแนวคิดใหม่ ที่สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง การคิดให้ใหญ่ขึ้น การท้าทายทุกกรอบความคิด และยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรม ให้กลับไปสู่จุดหมายที่แท้จริงของโฆษณาก็คือการสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายกับสังคม

[ The Power of Big Thinking “พลังของการคิดใหญ่” ]

Nancy Reyes, CEO, BBDO Worldwide  กล่าวว่า หลายคนบอกว่าโฆษณากำลังจะตาย บอกว่า “การคิดใหญ่” คือสิ่งที่ล้าสมัย เป็นเรื่องของอดีต แต่สำหรับแนนซี่ คนที่คิดว่า “การคิดใหญ่” เป็นสิ่งที่ผิด ไม่ถูกยุค นั่นแหละคือ ความคิดที่ “เล็ก” เกินไป เพราะที่ BBDO เราเชื่อให้การคิดใหญ่ และทำงานที่อิมแพค  ปัญหาใหญ่ๆของโลกต่างต้องการไอเดียที่กล้าหาญ เรื่องราวที่ทรงพลัง และแบรนด์ที่พร้อมสร้างผลงานที่เกิดแรงกระเพื่อมกับสังคม แบรนด์ที่ดีที่สามารถกำหนดอนาคตของตลาด ส่วนมากจะเป็นแบรนด์ที่คิดใหญ่ กล้าลองสิ่งใหม่ กล้าทำงานที่สร้างกระแส นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงเชื่อใน “Do Big Things”

• “ปัญหาที่ยิ่งใหญ่” ต้องการกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริง
• “บุคลากรที่ยิ่งใหญ่” จะเติบโตและเปล่งประกายที่สุดในที่ที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้เป็นเวอร์ชั่นที่ยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเค้าคิด
• “แบรนด์ที่ยิ่งใหญ่” ไม่เคยพอใจกับความธรรมดา พวกเขาพร้อมท้าทายและสร้างสรรค์สิ่งใหม่อยู่เสมอ

[ มุมมองระดับภูมิภาค: การคิดใหญ่ในเอเชีย ]

เอเชียเป็นตลาดที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก แบรนด์ต่างๆกำลังเติบโตในอัตราที่ไม่เคยมีมาก่อน และพวกเขาต้องการๆแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ที่มีวิสัยทัศน์และสามารถเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างดี

Tze Kiat Tan, CEO BBDO Asia กล่าวว่า”ตลาดของเอเชียไม่ได้แค่เติบโต แต่มันกำลังเปลี่ยนแปลงในความเร็วที่ไม่มีที่ไหนเทียบได้…ที่นี่ ความคิดสร้างสรรค์ต้องเคลื่อนที่อย่างเร็ว อย่างชาญฉลาด และกล้าหาญกว่าเดิม ไม่ใช่แค่สร้างไอเดียที่โดนใจ แต่ต้องสามารถพลิกโฉมทั้งอุตสาหกรรม  Do Big Things ไม่ใช่แค่เรื่องของขนาด แต่มันคือการสร้างนวัตกรรมอย่างไร้ขีดจำกัด ปรับตัวอย่างชาญฉลาด และกำหนดอนาคตแห่งความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบที่ทั้งลึกซึ้งกับวัฒนธรรมท้องถิ่น และทรงพลังในระดับโลก”

[ มุมมองประเทศไทย: การตลาดไทยที่ขับเคลื่อนด้วย Emotion Marketing ]

ทสร บุณยเนตร, Chief Creative Officer, BBDO Bangkok กล่าวว่า “เวลาไปตัดสินงานโฆษณาที่ต่างประเทศ เราจะได้เปิดมุมมองที่ทั้งโลกมีต่องานโฆษณาไทย พวกเค้าคิดว่างานโฆษณาของเรานั่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวหาที่ใดเหมือนเนี้ยะไม่มี โดยเฉพาะสำหรับผม…มันไม่ใช่แค่โฆษณา แต่มันคือ Soft Power ที่สามารถขับเคลื่อนอารมณ์ของผู้คนทั่วโลก ความหมายของผมคือ ที่ไหนสักแห่งบนโลกตอนนี้ อาจมีคนกำลังหัวเราะไปกับโฆษณาตลกของ ‘ไก่ห้าดาว’ ในขณะที่อีกฟากของโลก มีคนกำลังน้ำตาไหลกับโฆษณาดราม่าที่สุดกินใจ นี่คืออิทธิพลของโฆษณาของประเทศไทย ที่ BBDO เราเชื่อในการสร้างโฆษณาที่ทำให้ผู้คนรู้สึก สร้างบันดาลใจ และเปิดสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ‘Do Big Things’ คือนิยามที่สมบูรณ์แบบของปรัชญานี้”

สมเกียรติ ลาภธนัญชัยวงศ์, CEO, BBDO Bangkok กล่าวว่า “ผลงานความคิดสร้างสรรค์จากคนไทยนั่นโด่งดังระดับที่ทั่วโลกนับถือ และในขณะที่เศรษฐกิจประเทศกำลังท้าทายพวกเรา เราก็กำลังก้าวไปอีกขั้นด้วย ‘DO BIG THINGS’ มันไม่ใช่แค่คำขวัญ แต่มันเป็นความตั้งใจและเป็นคำมั่นของเรา ที่จะพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าให้โตขึ้น ด้วยความคิดสร้างสรรค์อันทรงคุณค่า มันไม่เกี่ยวกับขนาดของงาน แต่มันเกี่ยวกับความอิมแพค ไม่ว่าบรีฟจะใหญ่หรือจะเล็ก ทุกๆงานที่รังสรรค์ออกมานั้น ต่างต้องถูกบรรจง รังสรรค์ อย่างแม่นยำ เพื่อทำให้แบรนด์สามารถเชื่อมโยงกับผู้บริโภคและชนะใจผู้บริโภค หรือเปลี่ยนความคิดพวกเค้า และฝากความคิดที่มีความหมายให้คนเจนต่อไป”

Nancy Reyes, CEO, BBDO Worldwide กล่าวว่า”นี่ไม่ใช่แค่การกำหนดทิศทางใหม่ แต่เป็นก้าวสำคัญของพวกเรา และเป็นการเปลี่ยนวิธีคิด ความคิดสร้างสรรค์ และการเชื่อมโยงกับผู้คนของแบรนด์ ที่ BBDO ‘Do Big Things’ ไม่ใช่แค่ปรัชญา แต่มันคือคำมั่นสัญญาของเรา ที่จะผลักดันงานโฆษณา คิดให้ใหญ่ขึ้น และทำให้แบรนด์ลูกค้าโดดเด่นจนเป็นไอคอนแห่งยุค”