มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ทำการสุ่มตรวจโรตีสายไหม ของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเคยสุ่มตรวจมาแล้วครั้งแรกเมื่อปี 2561 แล้วพบว่าใส่สารกันบูดเกินค่ามาตรฐาน โดยการสุ่มตรวจครั้งล่าสุด ได้เก็บตัวอย่างทั้งหมด 13 ร้าน และพบว่า มี 6 ร้านที่ใส่สารกันบูดเกินที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้
ขณะที่ล่าสุด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อเก็บตัวอย่าง ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคพบว่าใส่สารกันบูดเกินไปตรวจสอบ หากพบจะดำเนินการลงโทษปรับ
ด้านแม่ค้าขายโรตีสายไหม ยอมรับว่า จำเป็นต้องใส่สารกันบูดเพื่อยืดอายุโรตีสายไหม แต่ยืนยันว่าใส่ปริมาณตามที่กฎหมายกำหนด เชื่อว่า ที่ตรวจพบว่าเกินค่ามาตรฐาน อาจมาจากแป้งผงที่นำมาปรุง ที่อาจใส่สารกันบูดมาอยู่แล้ว ทำให้ตรวจพบสารในโรตีสายไหม เกินค่ามาตรฐาน