ไบเดนประกาศทุ่มงบกว่า 5 พันล้านบาทช่วยอาเซียน หวังคานอิทธิพลจีนในภูมิภาค

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดทำเนียบขาวต้อนรับผู้นำชาติอาเซียนครั้งแรก ประกาศจะมอบเงินช่วยเหลือกว่า 5,000 ล้านบาท ท่ามกลางความพยายามต้านอิทธิพลจีนในภูมิภาค 

วันที่ 13 พ.ค. 2565 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เปิดการประชุมร่วมกับผู้นำประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) พร้อมให้คำมั่นว่าจะจัดสรรเงิน 150 ล้านดอลลาร์ (ราว 5,200 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน, ความมั่นคง, การเตรียมความพร้อมในการรับมือกับโรคระบาด และความพยายามอื่นๆ เพื่อต้านทานการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาค 

การประชุมสุดยอดระหว่างไบเดนและผู้นำอาเซียนเปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) โดยเหล่าผู้นำได้รับประทานอาหารเย็นร่วมกันที่ทำเนียบขาว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ เปิดทำเนียบขาวต้อนรับบรรดาผู้นำอาเซียน นับตั้งแต่สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพการประชุมเมื่อปี 2559 

ส่วนการประชุมในวันนี้ (13 พ.ค.) จะเป็นการหารือร่วมกันที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ โดยจะเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมถึงมาตรการรับมือกับความท้าทายจากจีน ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ 

ทั้งนี้ เมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว จีนเพิ่งให้คำสัญญาว่าจะมอบเงินช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่อาเซียนวงเงิน 1,500 พันลัานดอลลาร์ (ราว 52,000 ล้านบาท)  ภายในเวลา 3 ปี เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และกระตุ้นการพื้นตัวทางเศรษฐกิจ 

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า “เราต้องยกระดับเกมของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราไม่ได้ขอให้ประเทศต่างๆ ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างสหรัฐฯ กับจีน แต่เราต้องการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ ต้องการยกระดับความสัมพันธ์กับอาเซียนให้แน่นแฟ้นมากขึ้นกว่าเดิม”

เงินช่วยเหลือที่สหรัฐฯ ให้สัญญาว่าจะมอบให้กับอาเซียนนั้น รวมไปถึง เม็ดเงินลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งเป้าไปที่การลดการปล่อยคาร์บอนของแหล่งพลังงานในภูมิภาค 40 ล้านดอลลาร์, เงินสนับสนุนด้านความมั่นคงทางทะเล 60 ล้านดอลลาร์ และงบประมาณในด้านสุขภาพ 15 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยในเรื่องการกับการกับโควิด-19 และโรคระบาดอื่นๆ ส่วนเงินที่เหลือจะใช้สำหรับโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและกฎหมายปัญญาประดิษฐ์ในประเทศต่างๆ 

นอกจากนี้ หน่วยยามฝั่งของสหรัฐฯ ยังเตรียมที่จะส่งเรือเข้ามาประจำการในภูมิภาคเพื่อคอยให้ความช่วยเหลือกองเรือท้องถิ่นในการรับมือกับสิ่งที่สหรัฐฯ และประเทศต่างๆ เรียกว่าเป็นการประมงที่ผิดกฎหมายของจีน 

สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-อาเซียน ในครั้งนี้ มีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมประชุม 8 ประเทศ ขาดไป 2 ประเทศ เนื่องจากเมียนมาได้ถูกกีดกันจากการทำรัฐประหารในประเทศ และฟิลิปปินส์กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง