SHARE

คัดลอกแล้ว

 

ภาพ FB เต่าน้อย พาเพลิน

ตำรวจเจ้าของคดี เด็กวัย 13 ปี ขี่บิ๊กไบค์ชน ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เตรียมรวมรวมพยานหลักฐานและนัดคู่กรณีทั้ง 3 ฝ่ายมาสอบปากคำในวันพุธนี้ พร้อมขอเจ้าของคลิปจากกล้องหน้ารถช่วยมาให้ปากคำในฐานะพยาน ด้านรองปลัดยุติธรรมชี้ พ่อแม่เข้าข่ายมีความผิดปล่อยให้ลูกมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด

ความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุ เด็กชายวัย 13 ปีขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ขนาด 1000 ซีซี ชนกับรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 6 ก.ค.ด้านหน้า ตลาดศรีอรุณพลาซ่า ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยพ่อของเด็กชายเปิดเผยว่า ลูกไม่ได้ขาซ้ายขาดตามข่าวในโซเชียลมีเดีย แต่ต้องพักรักษาตัวและหยุดเรียน 1 เทอม ส่วนวันเกิดเหตุยืนยันลูกชายขี่รถในทางตรงและคู่กรณีตัดหน้าขึ้นมาจากข้างทางซึ่งไม่ใช่ทางแยก แต่ฝ่ายใดจะผิดหรือถูกนั้น ขอให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน

วันที่ 8 ก.ค. พ.ต.ท. อนุชิต อุ่นใจ พนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานทั้งภาพถ่าย และนำรถที่เกิดอุบัติเหตุทั้งหมดมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.สันกำแพง เพื่อสรุปสำนวนคดี แต่ตอนนี้คู่กรณีในส่วนของเด็กชายวัย 13 ปี ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนจักรยานยนต์ ซึ่งมีหญิงวัย 60 ปีและ 63 ปี ที่ถูกชนได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลรักษาตัวเช่นกัน แต่อาการบาดเจ็บไม่มากกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว

ส่วนในรถยนต์อีกคันทราบว่ามีคนขับและเด็กเล็ก ซึ่งคนขับไม่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เด็กในรถได้รับแรงกระแทกแต่ไม่บาดเจ็บมากไม่ประสงค์ที่จะไปโรงพยาบาล ขณะนี้ตำรวจเร่งเก็บหลักฐานเป็นคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดจากหน้าหมู่บ้านจัดสรรใกล้เคียงจุดเกิดเหตุแต่ได้ภาพเฉพาะช่วงที่รถเสียหลักมาชนกับรถยนต์แล้ว ในช่วงที่เกิดการเฉี่ยวชนระหว่างจักรยานยนต์สองคันไม่อยู่ในจุดที่กล้องบันทึกภาพได้

ขณะเดียวกันก็จะนำคลิปภาพจากกล้องหน้ารถที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ มาประกอบสำนวนคดี

https://www.facebook.com/redskullxox/videos/364699810913875/

 

ทั้งนี้ อยากจะขอฝากประชาสัมพันธ์ให้กับเจ้าของคลิปจากกล้องหน้ารถที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์ได้ให้เข้ามาให้ปากคำตำรวจในฐานะพยานที่เห็นเหตุการณ์ด้วย เนื่องจากเป็นคลิปที่มีการแชร์ต่อๆ กันมาจึงยังไม่สามารถเจอต้นตอเจ้าของคลิปได้

สำหรับเรื่องของคดีในวันพุธที่ 10 ก.ค.นี้ได้นัดคู่กรณีทั้ง 3 ฝ่าย ซึ่งฝ่ายเด็กอาจจะต้องให้ผู้ปกครองมาเจรจาและให้ปากคำก่อน เพื่อดูหลักฐานและให้ปากคำกับทางตำรวจ ตอนนี้ยังไมีการแจ้งข้อหาใดๆ กับใคร จนกว่าจะได้สอบปากคำและพิจารณาจากพยานและหลักฐานก่อน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในคดีนี้

ด้านนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวง โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีเด็กอายุ 13 ปี ขับขี่รถบิ๊กไบค์ว่า บิดามารดาหรือผู้ปกครองเด็กรายนี้เข้าข่ายเป็นผู้ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดต้องรับโทษ

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26 (3) บัญญัติว่า..ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการบังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งมีโทษตามกฎหมายอื่นที่หนักกว่าก็ให้ลงโทษตามกฎหมายนั้น

นายธวัชชัย ระบุว่า กรณีนี้มิได้คิดซ้ำเติม แต่อยากให้สังคมตระหนักรู้ว่า บิดามารดาหรือผู้ปกครอง ต้องรับโทษกรณีที่เป็นผู้ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดอีกด้วย เพื่อจะได้ไปอธิบายเด็กในกำกับหรือปกครองว่าไม่สามารถให้ตามที่เด็กร้องขอได้ เพราะมันผิดกฎ รวมถึงจะทำให้กลุ่มพ่อแม่รังแกฉันโดยรู้เท่าไม่ถึงการจะได้ให้ความระมัดระวังมากขึ้น

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=10213249315325453&id=1173747960

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า