บิล คลินตัน ชี้การอยู่ยาวของ สี จิ้นผิง ทำให้จีน-สหรัฐฯ ไม่ลงรอย

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุจีนยุคใหม่มีเสรีภาพน้อยลง จากการให้อำนาจผู้นำอยู่ในตำแหน่งตลอดชีวิต และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ความสัมพันธ์สองชาติเกิดรอยร้าว

วันที่ 17 พ.ย. 2563 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานบทสนทนาระหว่าง บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ในงาน Bloomberg New Economy Forum ที่ปีนี้บลูมเบิร์กจัดขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์

บิล คลินตัน แนะว่า รัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะต้องหาพันธมิตรเพื่อนำมาเป็นข้อต่อรองกับจีน โดยเน้นไปที่ประเทศที่เคยร่วมลงนามให้ข้อตกลง Trans Pacific Partnership ซึ่งปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจพาสหรัฐฯ ถอนตัวออกมา

สำหรับในด้านการเมืองการปกครองของจีน บิล คลินตัน เชื่อว่าจีนในยุคก่อนหน้านี้แม้จะไม่มีความเป็นประชาธิปไตย แต่ยังเปิดกว้างกว่าตอนนี้เนื่องจากตำแหน่งผู้นำต้องเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ

แต่หลังจากที่ปธน. สี จิ้นผิง แก้ไขกฎหมายที่จะทำให้เขาสามารถอยู่ตำแหน่งต่อไปได้อย่างไม่จำกัด สิ่งต่างๆ ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป

อย่างไรก็ตาม อดีตปธน.สหรัฐฯ ย้ำว่าแม้ทั้งสองขั้วจะเห็นต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในประเด็นเรื่องการจำกัดอิสรภาพในฮ่องกง และการปฏิบัติต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง แต่ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งสองชาติต้องพยายามหันหน้าเข้าหากัน

ทางด้าน โทนี แบลร์ แสดงความเห็นว่า แม้จีนจะเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ แต่ในด้านการเมืองกลับไม่ได้เปิดกว้างไปกว่าเดิม เมื่อดูจากนโยบายทั้งในและนอกประเทศของรัฐบาลจีนในช่วงที่ผ่านมา