มหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก ‘บิล เกตส์’ ยังคงย้ำจุดยืนว่าเขาไม่ใช่แฟนของคริปโคเคอร์เรนซีหรือ NFT เลย
เพราะล่าสุดในงานประชุมคอนเฟอร์เรนซ์เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งจัดโดย TechCrunch ซึ่งเนื้อหาส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาพรวมและแนวโน้มเศรษฐกิจ
เกตส์กล่าวระหว่างการพูดคุยเกี่ยวกับคริปโตฯ ที่ช่วงนี้ผันผวนหนัก ราคาคริปโตฯ หลายสกุลรวมทั้งบิตคอยน์ปรับตัวลดลงหนัก
ซึ่งเกตส์เรียกอธิบายถึงคริปโตฯ ว่าอิงอยู่กับ ‘ทฤษฎีคนโง่กว่า’ แบบ 100% ซึ่งแนวคิดที่ว่านั้นหมายถึงการที่สินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงโอเวอร์อยู่แล้ว จะมีมูลค่าสูงขึ้นอีกก็ต่อเมื่อมีนักลงทุน (ที่โง่กว่า) ยินดีจะจ่ายเพิ่ม
“สินทรัพย์เหล่านี้อิงจากทฤษฎีโง่กว่าแบบ 100% คือมีบางคนเท่านั้นที่ยอมซื้อต่อในราคาที่แพงขึ้นอีก”
เกตส์ยังพูดติดตลกว่า “ภาพดิจิทัลของลิงที่มีราคาแพง จะทำให้โลกดีขึ้นอย่างมาก” ซึ่งภาพดังกล่าวหมายถึงคอลเลกชัน NFT ของ Bored Ape Yacht Club ซึ่งเป็น NFT ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ทั้งนี้ NFT คือโทเคนที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ และถูกขนานนามว่าเป็นวิธีการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินดิจิทัล เช่น งานศิลปะหรือของสะสมต่างๆ
แต่นักวิจารณ์มองว่า NFT นั้นไม่มีมูลค่าจริงและใช้เพียงเก็งกำไรเท่านั้น นอกจากนี้ยังอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากธรรมชาติของคริปโตฯ ที่ใช้พลังงานมากในการสร้างและการแลกเปลี่ยน
“ผมคุ้นเคยกับสินทรัพย์ที่ให้ผลผลิตที่จับต้องได้ อย่างฟาร์ม โรงงาน หรือบริษัทที่ผลิตสินค้าออกมา”
เขากล่าวเสริมอีกว่า “สินทรัพย์ประเภทใดก็ตามที่หัวใจสำคัญของมันคือการปกปิดตัวตนเพื่อหลีกเลี่ยงภาษรหรือกฎเกณฑ์ใดๆ ของรัฐบาล ผมไม่ขอเกี่ยวข้องกับสิ่งนี้ ไม่ว่าจะระยะยาวหรือระยะสั้นก็ตาม”
ที่มา:
https://www.theverge.com/2022/6/15/23169008/bill-gates-cryptocurrency-nft-greater-fool-theory