Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ถ้าหากพูดถึงตลาดน้ำอัดลมราคาถูก ชื่อแรกที่หลายคนคิดถึง คือ ‘บิ๊กโคล่า’ แบรนด์น้ำอัดลมจาก ‘กลุ่มอาเจ’ บริษัทสัญชาติเปรู ที่เข้ามาตีตลาดไทยตั้งแต่เมื่อ 17 ปีก่อน

วันแรก ‘อาเจ’ มาพร้อมกับน้ำอัดลมบิ๊กโคล่าในราคา 10 บาท จนวันนี้ก็ยังขายราคา 10 บาทอยู่ แต่นอกจากบิ๊กโคล่าและเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีอยู่ในไลน์การผลิตแล้ว ตอนนี้อาเจยังขยับเข้าสู่ ‘ตลาดปลากระป๋อง’ ที่มีมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาทด้วย โดยมี ‘ไทย’ เป็นประเทศแรกสำหรับไลน์ปลาซาบะในกระป๋องด้วย

TODAY Bizview ชวนรู้จัก ‘กลุ่มอาเจ’ ว่าเป็นใครมาจากไหน และหาคำตอบเกี่ยวกับแผนเรื่องปลากระป๋องและแผนใน 10 ปีต่อจากนี้ของอาเจในประเทศไทย

[ รู้จัก ‘อาเจ’ ผู้นำตลาดน้ำอัดลมละตินอเมริกาจากเปรู ]

ย้อนกลับไปในปี 1988 ‘กลุ่มอาเจ’ ถือกำเนิดท่ามกลางความขัดแย้งทางการทหารใน ‘เปรู’ ที่ทำให้ระบบขนส่งมีปัญหาและผู้คนไม่สามารถหาซื้อ ‘น้ำอัดลม’ ดั้งเดิมในท้องถิ่นได้

ทำให้ครอบครัว ‘ไอนาโนส’ (Añaños) เริ่มต้นผลิตโคล่าในบ้านของพวกเขา เพื่อจัดจำหน่ายให้กับเพื่อนบ้าน ก่อนจะขายดิบขายดีจนต้องขยายกิจการขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นบริษัทน้ำอัดลมชั้นนำของประเทศในที่สุด

ก่อนในปี 1999 กลุ่มอาเจจะขยายธุรกิจออกสู่ประเทศอื่นๆ ในแถบละตินอเมริกา โดยเริ่มต้นจาก ‘เวเนซุเอลา’ ก่อนขยายเข้าสู่เอกวาดอร์-เม็กซิโก และเริ่มขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอเมริกากลางในปี 2004 เริ่มจากคอสตาริกา กัวเตมาลา นิคารากัว และฮอนดูรัส

ส่วนกิจการในเอเชียของอาเจกรุ๊ปมี ‘ไทย’ เป็นประเทศแรกและประเทศศูนย์กลาง สาเหตุที่อาเจเลือกเข้ามาลงทุนในไทย เพราะไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสัดส่วนการบริโภคเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งสูงที่สุดในโลก 28 ลิตรต่อคนต่อปี

ในปี 2006 อาเจเริ่มต้นธุรกิจใต้ชื่อ ‘บริษัท อาเจไทย จำกัด’ ก่อนขยายสู่ประเทศอื่นๆ ในเอเชีย อย่างกัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย ฯลฯ จนปัจจุบันสัดส่วนรายได้จาก ‘อาเจ อาเซียน’ คิดเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมดของกลุ่ม

จนถึงปัจจุบัน ‘กลุ่มอาเจ’ เริ่มทำธุรกิจในประเทศไทยมาแล้วกว่า 17 ปี

[ ‘อาเจ’ ทำอะไรในไทยบ้าง ]

แม้ว่า ‘กลุ่มอาเจ’ จะเป็นที่รู้จักจากธุรกิจเครื่องดื่ม แต่บริษัทแม่อายุ 34 ปีจากเปรูนั้นไม่ได้มีสินค้าแค่ในกลุ่มเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังมีสินค้าในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปและของใช้ส่วนตัวด้วยในพื้นที่อเมริกากลางและละตินอเมริกา

แต่ก่อนหน้านี้พอร์ตโฟลิโอของกลุ่มอาเจในประเทศไทยมีแค่สินค้าใน ‘กลุ่มเครื่องดื่ม’ เท่านั้น ภายใต้ชื่อแบรนด์ 6 แบรนด์ 6 ประเภทเครื่องดื่มอย่าง

– น้ำอัดลมแบรนด์บิ๊ก (Big Cola)
– ชาพร้อมดื่มแบรนด์บิ๊กที (Big Tea)
– น้ำดื่มแบรนด์วีด้า (Vida)
– เครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์โวลท์ (Volt)
– เครื่องดื่มทางเลือกแบรนด์ไบโอ (Bio)
– เครื่องดื่มเกลือแร่แบรนด์สปอเรต (Sporade)

อาเจ ประเทศไทย มี ‘บิ๊กโคล่า’ เป็นสินค้าที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดและเป็นเรือธงของบริษัท โดยตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ตลาด ตั้งแต่ปีแรกในไทยจนถึงตอนนี้ บิ๊กโคล่าก็ยังคงมีสินค้าที่ขายในราคาเดิมตลอดมา คือ บิ๊กโคล่า 10 บาท

‘ฟาเบียน มอสเกล่า’ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อาเจ อาเซียน เล่าว่า DNA ของอาเจ คือ ‘ความคุ้มค่า’ ที่เป็นความภาคภูมิใจและเป็นส่วนสำคัญในการเป็นเบอร์ 4 ของผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำอัดลมระดับโลก

เพราะอาเจเชื่อในสิ่งที่เรียกว่า ‘Democratize consumption’ หรือ ประชาธิปไตยการบริโภค ที่ผู้บริโภคทุกคนควรจะมีโอกาสเข้าถึงสินค้าที่สามารถสร้างความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้น ราคาของสินค้าจึงควรจับต้องได้และสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค

จึงเป็นสาเหตุให้อาเจพยายามรักษาระดับราคาสินค้าเอาไว้ในระดับเดิมให้ได้ และยังเป็นอีกเหตุผลให้ ‘อาเจ’ ขยับเข้าสู่ตลาดปลากระป๋องใต้แบรนด์ใหม่ ‘ดิ’กุสโต้’ (D’Gussto) ด้วย

[ หันมาขายปลากระป๋อง ]

อย่างที่บอกไปว่า อาเจ ในตลาดละตินอเมริกาไม่ใช่แค่ผู้ผลิตสินค้าในไลน์เครื่องดื่ม แต่เป็นผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่ม อาหาร ของใช้ส่วนตัว และของใช้ในบ้านด้วย ปลากระป๋องจึงเป็นหนึ่งในสินค้าที่อาเจมีจำหน่ายในภูมิภาคละตินอเมริกาและอเมริกากลางอยู่แล้ว

แต่เนื่องจากอาเจมีเป้าหมายในการขยับยอดขายเพิ่มอีกเท่าตัวให้ได้ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้ (หรือภายในปี 2030) หรือเพิ่มรายได้ราว 30% ภายใน 2-3 ปี อาเจ จึงจำเป็นจะต้องขยายไลน์สินค้าภายในภูมิภาคอาเซียนมาเสริมกับสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มที่มีการเติบโตคงที่

อาเจ ตั้งเป้าว่าจะสามารถดันยอดขายปลากระป๋องเป็น 10% ของช่องทางการขาย โดยเชื่อว่า แม้ตลาดปลากระป๋องไทยจะมีผู้เล่นอยู่หลายเจ้าอยู่แล้วในตลาด แต่ปลากระป๋องแบรนด์ ‘ดิ’กุสโต้’ จะสามารถสร้างความแตกต่างในตลาด ด้วยวัตถุดิบ ‘ปลาซาบะ’ นำเข้าจากญี่ปุ่นที่ยังไม่มีในตลาดในราคาคุ้มค่า 20 บาท

แผน คือ การส่งออกสินค้าจากประเทศไทยออกไปอีก 8 ประเทศอาเซียนก่อน พร้อมเตรียมขยายสินค้าในไลน์อื่นๆ เพิ่มเติมเร็วๆ นี้ ตามขยายไปให้ถึง 15 กลุ่มในปี 2030

แต่ ‘อาเจ’ จะทำได้ตามแผนการเติบโตเป็นเท่าตัวภายใน 2030 หรือไม่ คงต้องรอจับตาดู

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า