เมื่อ ‘บิทคอยน์’ มาแรง ผลตอบแทนแซงหน้าทุกสินทรัพย์ แม้แต่ ‘ทองคำ’

เมื่อก่อนเคยได้ยินว่า “มีเงินเค้านับเป็นน้อง มีทองเค้านับเป็นพี่” เพราะทั้งเงิน ทั้งทองเป็นสิ่งมีค่า เป็นทรัพย์สมบัติที่ใครๆ ก็อยากนับญาติด้วย แต่ถ้าสำหรับสมัยนี้ต้องมี ‘บิทคอยน์’ ด้วย! ดูล่ำซำกว่าใครเลยทีเดียว

ผลตอบแทน Bitcoin แซงหน้าทุกสินทรัพย์ แม้แต่ทองคำ  

ความร้อนแรงของ Bitcoin สินทรัพย์น้องใหม่ ที่มีอายุเพียงแค่ 12 ปี (Bitcoin เปิดตัวในปี2009) กำลังสั่นสะเทือนภาคการลงทุนอย่างมาก เพราะในปี 2020 ผลตอบแทนการลงทุนในบิทคอยน์ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 โดยคิดจาก หากเราถือครองบิทคอยน์ ตั้งแต่ต้นปี 2020 มาจนถึงสิ้นปี 2020 ผลตอบแทนสูงทะลุ 302% จากประมาณ 7,200 เหรียญต่อ 1 บิทคอยน์ เพิ่มมาเป็น 29,000  เหรียญต่อ 1 บิทคอยน์ ในขณะที่ผลตอบแทนในหุ้น หุ้นก็สู้ไม่ได้ ตลาดหุ้นไทยแทบไม่ต้องพูดถึง ปีที่แล้วติบลบไปราว -7.5% ส่วนถ้าเป็นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลอง ยกตัวอย่างดัชนี Nasdaq  ต้นปี ถึงปลายปี 2020 ปรับตัวบวกได้ 44% แม้จะมีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้อานิสงค์บวกแรงจากโควิด-19 แล้วก็ตาม ก็ยังไม่สามารถสู้ผลตอบแทนของบิทคอยน์ได้

ขณะที่ปี 2021 ยังไม่ทันผ่านพ้นไตรมาสแรก บิทคอยน์ก็ขึ้นไปทำจุดสูงสุด ที่ 57,000 เหรียญต่อ 1 Bitcoin ช่วงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 หลัง ‘Elon Musk’ เจ้าพ่อ Tesla ประกาศลงทุนใน บิทคอยน์ 1,500  ล้านเหรียญสหรัฐ สร้างความมั่นใจให้กับตลาด Cryptocurrency ส่งผลให้จากต้นปีถึงจุดสูงสุดของปีนี้ บิทคอยน์ขึ้นไปอีก 96% สวนทางกับราคาทองคำ ที่ตั้งแต่ต้นปี 2021  สาละวันเตี้ยลง ติดลบไปราว 14%  จาก 1,940 เหรียญ ไหลลงหลุด 1,700 เหรียญ ในต้นเดือนมีนาคม

กระแสของ ‘Bitcoin’ ที่ร้อนแรงทำให้เกิดการเปรียบเทียบ กับ ‘ทองคำ’ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ในการป้องกันความเสี่ยง เป็น Safe Haven หรือสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมาโดยตลอด แม้ในปี 2020 ทองคำก็สร้างผลตอบแทนได้ดีเช่นกัน เพราะราคาทองพุ่งทะยานสูงสุดเป็นประวัติการ์ ทะลุ 2,000 เหรียญต่อทรอยออนซ์ แปลงเป็นบาทเท่ากับทะลุ 30,000 บาทต่อบาททองคำ ทำให้ผลตอบแทนทองคำ ปี 2020 อยู่ที่ราว 25% ที่ทองขึ้นแรงปีที่แล้ว เพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่พาเศรษฐกิจย่ำแย่ ทองคำจึงได้ทำหน้าที่เป็น Safe Haven อย่างเต็มตัว และปีที่แล้วนักลงทุนหลายคนได้ลงจากดอยกันซักที หลังจากรอคอยมาอย่างยาวนาน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังน้อยกว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในบิทคอยน์อยู่ดี

ลองเปรียบเทียบดูว่า ต้นปี 2020 ถ้ามีบิทคอยน์ 1 เหรียญ มูลค่า 7,200 เหรียญสหรัฐ จะมีมูลค่าเท่ากับมีทองคำ 4.7 ทรอยออนซ์ (ต้นปี 2020 ทองราคา1,524 เหรียญต่อทรอยออนซ์)

ผ่านไป 1 ปี ต้นปี 2021 มีบิทคอยน์ 1 เหรียญเท่าเดิม แต่มูลค่าขึ้นไปที่ 29,000 เหรียญสหรัฐ มีมูลค่าเท่ากับมีทองคำ เกือบ 15 ทรอยออนซ์ (ต้นปี 2021 ราคาทองคำอยู่ปีประมาณ 1,944 เหรียญต่อทรอยออนซ์) และดูแนวโน้มกระแสข–องบิทคอยน์ ยังไม่น่าจะหยุดเพียงเท่านี้

ความเหมือนที่แตกต่างระหว่าง ‘บิทคอยน์’ กับ ‘ทองคำ’

แม้วันนี้ผู้คนจำนวนมากจะยังไม่เข้าใจความเคลื่อนไหวของบิทคอยน์มากนัก แต่ดูเหมือนคนส่วนใหญ่ก็อยากกระโดดขึ้นรถไฟขบวนนี้ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จุดหมายปลายทางของรถไฟขบวนนี้จะไปหยุดที่ไหน

ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจกระโดดขึ้นรถด่วนขบวนบิทคอยน์ ลองพิจารณากันอีกทีว่าสินทรัพย์ทั้ง 2 ชนิดนี้ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง สิ่งที่ทั้ง 2 มีคุณสมบัติที่คล้ายกัน คือ

1. มีปริมาณที่จำกัดทั้งคู่ บิทคอยน์มีอยู่แค่ 21 ล้านเหรียญ และคาดว่าจะถูกขุดหมดภายในปี 2140 หรืออีก 119 ปีข้างหน้า ส่วนทองคำ ที่เป็นแร่มีค่าก็เป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดและหายากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
2. เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเอง สำหรับ ‘ทองคำ’ ไม่ว่าคุณจะมีทองคำแท่ง หรือทองรูปพรรณ ทุกคนต่างเก็บรักษามันไว้เป็นอย่างดี เพราะมันสามารถนำมาแปลงเป็นเงินสดได้ทุกเมื่อ ขณะที่บิทคอยน์ ช่วงแรกคุณสมบัติข้อนี้อาจจะสู้ทองคำไม่ได้เลย แต่ปัจจุบันและอนาคตมีแนวโน้มที่ Cryptocurrency โดยเฉพาะบิทคอยน์ จะได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากข่าวรายวัน ที่บรรดาเอกชนยักษ์ใหญ่ สนใจแบ่งเงินมาถือบิทคอยน์ หรือ บางธุรกิจยอมรับให้บิทคอยน์ สามารถใช้ในการชำระสินค้าและบริการบางอย่างได้แล้ว เช่น ซื้อรถ Tesla ด้วยบิทคอยน์ได้ หรือจะชอปปิ้งผ่านระบบชำระเงินอย่าง PayPal ก็ใช้ Crypto ได้ ถึง 4 สกุล รวมถึงบิทคอยน์ และยังมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่ต่างออกมาประกาศว่า ยอมรับบิทคอยน์ ในการชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ แม้แต่บ้านเรา เอกชนก็เกาะกระแสบิทคอยน์ ด้วยการให้ซื้อตั๋วภาพยนตร์ บางสาขาด้วยบิทคอยน์
3.   เป็นสินทรัพย์การลงทุน ทุกวันนี้เราสามารถลงทุนในตลาดทองคำ และ Cryptocurrency ได้เช่นกัน แต่ในส่วนการลงทุนใน Crypto เป็นเรื่องใหม่ ผู้ให้บริการการซื้อขายยังไม่มากเท่าการลงทุนในหุ้นหรือทองคำและยังต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ ระเบียบ ที่เข้มงวดของ กลต. เพราะถูกมองว่า เป็นสินทรัพย์ที่ผันผวนสูงจึงอยากวงกฏเกณฑ์มาคุ้มครองผู้ลงทุนนั่นเอง ดังเช่นที่กำลังเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับคุณสมบัติของคนที่จะลงทุนในบิทคอยน์ได้นั่นเอง

ส่วนความแตกต่าง ระหว่าง ‘ทองคำ’ กับ ‘บิทคอยน์’ นั้นชัดที่สุดคือ

1. ความเป็นรูปธรรม ทองจับต้องได้ แถมเอามาใส่ได้เป็นเครื่องประดับ แต่บิทคอยน์ เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่จับต้องไม่ได้ แต่ทั้งนี้มันกลับมีค่าในตัวเอง
2. การส่งมอบ การขนส่งทองคำเป็นสิ่งที่ใช้เวลา และต้องรักษาความปลอดภัยแบบสุดๆเพราะมีความเสี่ยงในการถูกโจรกรรม แต่ตรงกันข้ามกับบิทคอยน์ ที่สามารถส่งหากันได้ภายในเสี้ยววินาที โดยไม่ต้องมีตัวกลาง แม้เราจะอยู่ห่างกันคนละทวีปก็ตาม
3. การถูกยอมรับอย่างสากล ทุกวันนี้ธนาคารกลางของแต่ละประเทศ ยังไม่ได้ไว้วางใจ Cryptocurrency เท่าไหร่นัก แตกต่างจากทองคำที่เป็น สินทรัพย์ในทุนสำรองระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน
4. ความผันผวนของราคา ที่บิทคอยน์ ผันผวนมากกว่า เพราะความเคลื่อนไหวต่อวัน ขึ้นและลงแรง และเร็ว จนอาจสร้างความเสียหายได้อย่างมากสำหรับผู้ลงทุน

ปี 2021 ทิศทาง ‘ราคาทองคำ’ ขาลง

ในปี 2021 เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูและเยียวยาขนานใหญ่ นักวิเคราะห์หลายสำนักมองตรงกันว่า ‘ทองคำ’ ต้องถูกเปลี่ยนบทบาทจากสินทรัพย์ปลอดภัย กลายเป็น  สินทรัพย์ทางเลือก เพราะการมาของบิทคอยน์ ทำให้นักลงทุนจำนวนมากสนใจแห่กันไปลงทุนในบิทคอยน์ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว จากการมาของวัคซีนที่ทำให้โควิด-19 คลี่คลายลง  และการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลจากทั้งรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลก ส่งผลต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น เมื่อเกิดความเป็นห่วงเงินเฟ้อเร่งตัวนี่เอง ทำให้นักลงทุนในตลาด มองว่านโยบายดอกเบี้ยที่เคยต่ำ อาจจะกำลังถูกปรับเปลี่ยนไปสู่ดอกเบี้ยขาขึ้นในที่สุด ทำให้แม้แต่การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาว 10 ปี ยังถูกเทขาย ราคาร่วงลง ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากทะลุ 1.6% ในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เงินเหล่านั้นกลับไปถือครองดอลลาร์สหรัฐแทน ทำให้ดอลลาร์สหรัฐก็แข็งค่าขึ้น กดดันให้ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่อง นักวิเคราะห์จากหลายสำนักมองว่า โอกาสที่ปี 2021 ราคาทองคำจะพุ่งทะลุ 2,000 เหรียญเหมือนปีที่แล้ว ก็เริ่มเป็นไปได้ยากขึ้นเรื่อยๆ

โอกาสที่บิทคอยน์ จะแทนที่ทำทองคำ ?

กระแสบิทคอยน์ ที่ร้อนแรง เพราะตลอดปี 2020 มาจนถึงปี 2021 เศรษฐกิจต่างเจ็บหนักจากโควิด-19 บริษัทยักษ์ใหญ่ในแวดวงไอที กลับยังมีกำไรมากมายจากอานิสงค์ของโควิด-19 เงินเหล่านั้น ก็ไหลมาหาผลตอบแทนอย่างตลาด Cryptocurrency โดยเฉพาะบิทคอยน์ จำนวนเงินที่ไหลมายังเป็นส่วนน้อยเท่านั้น แต่สร้างแรงสั่นสะเทือนวงการลงทุนอย่างมาก เพราะในภาวะเงินล้นจากการอัดฉีดมหาศาลของรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลก ทำให้นักลงทุนโหยหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น นักวิเคราะห์ทองคำจาก บ.YLG และ บล.โกลเบล็ก มองว่า โอกาสที่ บิทคอยน์ จะแทนที่ทองคำได้จริงๆ ยังอยู่อีกห่างไกล การจะเป็นไปได้เร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับการยอมรับจากธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ซึ่ง ณ เวลานี้ ส่วนใหญ่ยังพยายามหาทางควบคุมตลาด Cryptocurrency แม้แต่รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ‘เจเนต เยเลน’ ยังห่วงว่าบิทคอยน์ จะไปเกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่ผิดกฏหมายด้วยซ้ำ ดังนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่บิทคอยน์ จะสามารถแทนที่ทองคำได้ แต่แม้ยังไม่อาจแทนกัน ความน่าสนใจของทองคำก็คงลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกัน เพราะมีสินทรัพย์ทางเลือกที่ร้อนแรงอย่างบิทคอยน์ ที่มีข่าวความเคลื่อนไหว ราวกับทำการตลาดใส่เราทุกวี่วัน

ที่มา: จากการสัมภาษณ์

• วรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการนักวิเคราะห์ บ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
• ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก
• https://sg.finance.yahoo.com/quote/BTC-USD/history?period1=1577836800&period2=1609372800&interval=1d&filter=history&frequency=1d&includeAdjustedClose=true
• https://sg.finance.yahoo.com/quote/GC%3DF/history?p=GC%3DF
• https://support.bitkub.com/hc/th/articles/360004165792-ใช-เวลาอีกนานแค-ไหนกว-าบิทคอยน-จะมีจำนวนเหรียญครบ-21-ล-านเหรียญ-