กทม.นำร่องมอบ ‘ผ้าอนามัย’ 2.3 หมื่นชิ้น แจกให้นักเรียนฟรี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 80-150 บาทต่อเดือน

ผ้าอนามัย ของใช้จำเป็นสำหรับผู้หญิง หลายประเทศแจกผ้าอนามัยฟรี และยกเลิกการเก็บภาษีผ้าอนามัยไปแล้วเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้มีประจำเดือน แต่สำหรับประเทศไทยผ้าอนามัยถูกจัดอยู่ในหมวด ‘สินค้าฟุ่มเฟือย’ และมีราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น สร้างภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้หญิงโดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อย นักเรียน นักศึกษา

ล่าสุดกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดโครงการแจกผ้าอนามัยฟรีให้แก่เด็กนักเรียน เป็น 1 ในแผนปฏิบัติการ (Action Plan) 216 ข้อ ตามนโยบาย 9 ดี เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครอง และแก้ไขปัญหาความจนประจำเดือน (Period Poverty) ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและสุขอนามัยของผู้มีประจำเดือน โดยเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2565 ผศ.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ประธานด้านยุทธศาสตร์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. ได้ส่งมอบผ้าอนามัยฟรีให้แก่นักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตคลองสามวา กทม. เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้มีประจำเดือนและครอบครัว ที่โรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) เขตคลองสามวา

ผศ.เกษรา เปิดเผยว่า เรื่องผ้าอนามัย มองเผิน ๆ หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่รู้ไหมว่า มีเด็กต้องขาดเรียน เพราะไม่มีผ้าอนามัย อันนี้ต่างประเทศทำวิจัยเลย และพอได้ลงพื้นที่กรุงเทพฯ ก็เจอปัญหาเดียวกันคือ เด็กผู้หญิงที่ครอบครัวมีฐานะยากจนเมื่อมีประจำเดือนจะไปโรงเรียนไม่ได้ เพราะไม่มีผ้าอนามัย จริง ๆ แล้วเรื่องนี้เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนสำหรับผู้หญิงนะ และด้วยตนเองมี น้องสาว 3 คน และลูกสาวอีก 2 เลยเข้าใจเรื่องนี้ดี แต่ละเดือนผู้หญิงมีค่าใช้จ่าย เพื่อซื้อผ้าอนามัยราว ๆ 80 – 150 บาทต่อเดือน ตรงนี้คือค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ตายตัว และอาจเพิ่มขึ้นแล้วแต่ละคน แม้เป็นกิจกรรมเล็ก ๆ ที่เริ่มจากเด็กนักเรียน แต่ก็ภูมิใจที่ได้ช่วยคิด ช่วยแก้ไขและลงมือทำด้วยตัวเอง

สำหรับการมอบผ้าอนามัยฟรีให้แก่นักเรียนหญิง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1-3 จำนวน 875 คน แบ่งออกเป็น
– โรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) 412 คน จำนวน 23,072 ชิ้น
– โรงเรียนวัดคู้บอน (วัฒนานันท์อุทิศ) 216 คน จำนวน 12,096 ชิ้น
– โรงเรียนวัดพระยาสุเรนทร์ (บุญมีอนุกูล) 132 คน จำนวน 7,392 ชิ้น
– โรงเรียนสุเหร่าแสนแสบ 115 คน จำนวน 6,440 ชิ้น

นักเรียนจะได้รับผ้าอนามัยเฉลี่ย 7 วัน อย่างน้อยคนละ 2 ชิ้นต่อวัน เป็นการนำร่องในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 (เดือน มิ.ย.-ก.ย.) รวม 4 เดือน และจะมอบอย่างต่อเนื่องในภาคเรียน และปีการศึกษาต่อ ๆ ไป