กทม. จับมือ ‘แพลนท์ปูน’ ออก 3 มาตรการ แก้ปัญหา PM 2.5

กทม. จับมือ ‘แพลนท์ปูน’ ออก 3 มาตรการ แก้ปัญหา PM 2.5 พร้อมขอความร่วมมือ ‘ไซต์งานก่อสร้าง’ ใช้งานเฉพาะรถบรรทุกที่ผ่านการตรวจควันดำเท่านั้น

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษในสถานประกอบการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5  ตามนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. ให้ดำเนินการเชิงรุก ซึ่งถ้าเราดูจากงานวิจัยที่ผ่านมา แหล่งกำเนิดฝุ่นในกรุงเทพฯ กว่าครึ่งมาจากควันดำ ไอเสียรถยนต์ วันนี้ได้เชิญผู้ประกอบการ คอนกรีตผสมเสร็จ หรือแพลนท์ปูน เข้ามาพูดคุยกันถึงมาตรการเข้มข้นในการป้องกันฝุ่น PM2.5 กลุ่มแรก จำนวน 9 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทที่มีแพลนท์ปูนอยู่ในกรุงเทพฯ 113 แพลนท์ และมีรถปูนวิ่งเข้าออกมากกว่า 1,500 คัน คิดเป็นร้อยละ 80 ของจำนวนแพลนท์ปูนทั้งหมดในกรุงเทพฯ ที่มีจำนวน 131 แพลนท์ โดยได้ขอความร่วมมือ 3 เรื่อง คือ

1. ในตัวโรงงาน ตัวแหล่งผลิตเอง ต้องมีมาตรการตามมาตรฐานขั้นต่ำของสำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร พร้อมขอความร่วมมือบริษัทที่จะมาแชร์แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ช่วยกันติดตั้งเครื่องวัดมอนิเตอร์ฝุ่นด้วยตัวเอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้สังคมได้

2. เรื่องตรวจรถควันดำ ซึ่งปัจจุบันก็มีตรวจอยู่แล้ว เพราะรถทุกคันต้องผ่านมาตรฐานตรอ. แต่การตรวจดังกล่าวอาจจะตรวจมานานแล้ว เพื่อความมั่นใจในช่วงของฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังจะมาถึง จึงแนะนำให้มีการตรวจซ้ำ โดยทางกทม. จะร่วมกับขนส่งทางบก นัดหมายวันเข้าไปตรวจ โดยจะใช้กระบวนการตรวจ 100% คือตรวจทุกคัน และเมื่อตรวจเรียบร้อย จะมีสัญลักษณ์ว่าคันนี้ได้ดำเนินการตรวจเรียบร้อยแล้ว และขอความร่วมมือไปยังไซต์งานก่อสร้างให้รับเฉพาะรถที่ผ่านการตรวจควันดำแล้ว

3. เศษวัสดุที่ตกหล่นระหว่างเคลื่อนย้าย ซึ่งกทม.ได้รับการร้องเรียนมาผ่าน Traffy Fondue ขอความร่วมมือให้ทางบริษัทดังกล่าวเข้มงวดกวดขันมากขึ้น เนื่องจากหลายบริษัทไม่ได้ดำเนินการเอง แต่มีแฟรนไชส์รับไปทำงานอีกทอดหนึ่ง ก็ขอให้ไปควบคุมผู้รับจ้างเหล่านั้นให้ปฏิบัติให้ถูกต้อง ที่ผ่านมาทุกบริษัทก็ให้ความร่วมมือดีมาก จากนี้ก็อาจจะมีการยกระดับมาตรฐานควบคุมคุณภาพให้มากขึ้นสูงขึ้น และมีความชัดเจนมากกว่าเดิม เพื่อทำให้แพลนท์ปูนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ถูกยกระดับเรื่องคุณภาพสิ่งแวดล้อม สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

นอกจากนี้ กทม. จะหารือทางสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้าง ขอความร่วมมือรถบรรทุกที่เข้ามาที่ไซต์งาน ให้เป็นรถบรรทุกที่ผ่านการตรวจควันดำตามมาตรฐานเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากไม่ผ่านการตรวจควันดำก็ไม่ควรใช้บริการ ซึ่งถือเป็นการกำกับทางอ้อมโดยไม่ได้ใช้กฎหมาย แต่เป็นการขอความร่วมมือ

รวมถึงในส่วนของรถขนส่งสาธารณะเอง ทางกทม.จะเข้าพบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหารือขอความร่วมมือด้วยเช่นเดียวกัน โดยอาจจะขอให้ทางกรมการขนส่งทางบกเข้มงวดกับรถโดยสารสาธารณะ ทั้ง ขสมก. บขส. และรถตู้วินที่ให้บริการ หามาตรการร่วมกันที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตั้งด่านลอยเพื่อตรวจควันดำอย่างเดียว แต่อาจจะเข้าไปตรวจที่อู่จอดรถอีกด้วย ด้วยการใช้เครื่องมือตรวจควันดำ ของสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อตรวจเชิงรุกร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ