Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เผยสถานการณ์ฝุ่น 1-4 ก.พ.นี้ จะรุนแรงมากขึ้น หลัง 5 ก.พ. จะดีขึ้น ขอความร่วมมือบริษัท Work from Home  มี 33 บริษัท ตอบรับแล้ว

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 4/2566 ว่า สถานการณ์ PM2.5 ในช่วงนี้ (1 – 4 ก.พ. 66) มีฝุ่นรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ปิด รวมถึงมีการเผาชีวมวล และหลังจากวันที่ 5 ก.พ. 66 สถานการณ์จะบรรเทาลงถึงดีขึ้น เนื่องจากลมอาจมีการเปลี่ยนทิศ อย่างไรก็ตาม ทางกทม. ไม่ได้นิ่งนอนใจ

โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน มีการตรวจแหล่งกำเนิดมลพิษ (ต้นตอฝุ่น) 2 ครั้งต่อเดือน ดังนี้

– สถานประกอบการ/โรงงาน 1,044 แห่ง ตรวจสอบจำนวน 4,028 ครั้ง สั่งปรับปรุงแก้ไข 7 แห่ง

– ตรวจแพลนท์ปูน 133 แห่ง จำนวน 522 ครั้ง สั่งปรับปรุงแก้ไข 16 แห่ง

– ตรวจสถานที่ก่อสร้าง โดยสำนักการโยธา 399 แห่ง จำนวน 392 ครั้ง สั่งปรับปรุงแก้ไข 1 แห่ง

– ตรวจสถานที่ก่อสร้าง โดยสำนักงานเขต 274 แห่ง 773 ครั้ง สั่งปรับปรุงแก้ไข 26 แห่ง

– ตรวจถมดินท่าทราย 9 แห่ง รวม 67 ครั้ง

– ตรวจควันดำในสถานที่ต้นทาง 1,288 คัน พบเกินค่ามาตรฐานและสั่งให้ปรับปรุงแก้ไข 10 คัน

– ตรวจควันดำรถยนต์ 58,871 คัน สั่งห้ามใช้ 1,245 คัน

– ตรวจรถโดยสารประจำทาง 9,269 คัน สั่งห้ามใช้ 43 คัน

– ตรวจรถบรรทุก 31,072 คัน สั่งห้ามใช้ 135 คัน (ข้อมูล ณ 30 ม.ค. 66)

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เราตรวจต้นตอฝุ่นอย่างต่อเนื่อง และทำแอปพลิเคชันเพื่อให้ประชาชนได้ใช้กัน สำหรับสิ่งที่กำชับให้ปรับปรุงให้ดีขึ้น คือ การพยากรณ์ฝุ่น ควรมีความแม่นยำมากขึ้น เพราะส่งผลต่อการเตือนภัยประชาชน และการประสานงานขอความร่วมมือจากพื้นที่รอบนอกเรื่องการเผาชีวมวล

ด้านแนวทางการรับมือกับฝุ่นในช่วง 2-3 วันนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ขอความร่วมมือในการทำงานแบบ Work from Home เพื่อลดการเดินทาง โดยเราได้ประกาศขอความร่วมมือบนช่องทางการสื่อสารของกทม. และมีเครือข่ายติดต่อกับบริษัทต่าง ๆ เพื่อขอความร่วมมือด้วย ตอนนี้มีบริษัทที่ให้ความร่วมมือทำงานแบบ Work from Home จำนวน 33 บริษัท อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่รุนแรงถึงขั้นต้องประกาศปิดโรงเรียน

ส่วนการป้องกันผลกระทบจากฝุ่น ทางสำนักอนามัยได้มีการแจกหน้ากากอนามัยแก่กลุ่มเปราะบางไปแล้วกว่าล้านชิ้น รวมถึงสำนักการแพทย์ได้มีการเปิดคลินิกฝุ่น (คลินิกมลพิษทางอากาศ) ในโรงพยาบาล 5 แห่ง (โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และโรงพยาบาลสิรินธร)

และมีหน่วยงานลงตรวจต้นตอฝุ่นอยู่ตลอด ซึ่งสุดท้ายแล้ว การลดต้นตอฝุ่นบางเรื่องเป็นเรื่องที่ต้องขอความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพราะมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น รถยนต์ในกทม. หรือขนส่งมวลชน หากจะเปลี่ยนเป็นการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle)

กทม. อาจมีส่วนเพียงการสนับสนุนในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจไม่สามารถทำได้ในระยะสั้น แต่เป็นการวางแผนในระยะยาว ทั้งนี้ ในด้านการวิจัย เราจะต้องรู้ให้ชัดว่าต้นตอของฝุ่นนั้นมีองค์ประกอบจากอะไรเป็นหลัก เพื่อให้แก้ไขได้อย่างตรงจุด ในส่วนนี้นักสืบฝุ่นได้พยายามวิเคราะห์หาคำตอบ และเราได้หารือกับกรมควบคุมมลพิษอยู่อย่างต่อเนื่อง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า