Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สถานการณ์ประท้วงในสหรัฐอเมริกา จากชนวนเหตุกรณีของจอร์จ ฟลอยด์ ทำให้คนดังหลายคนออกมาแสดงจุดยืนและแสดงความเห็นกันมากมาย อย่างอารีอานา กรานเด (Ariana Grande),ฮาลซีย์ (Halsey),เจมี่ ฟ็อกซ์ (Jamie Foxx),ฌอน เมนเดส (Shawn Mendes) และดาราดังอีกหลายคนที่ไปร่วมเดินขบวนเรียกร้องเรื่องความสำคัญของชีวิตคนผิวสี (Black Lives Matter) รวมทั้งมีการเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดียจำนวนมาก หนึ่งในคนที่ถูกจับตามองคือ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ที่ออกมา โจมตีประธานาธิบดีเรื่องสนับสนุนการใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงในมินนีแอโปลิส โดยเธอได้ทวีตข้อความว่า “หลังจากที่คุณเพิ่มไฟให้คุกรุ่นเรื่องชาตินิยมผิวขาวและการเหยียดเชื้อชาติมาตลอดวาระการเป็นประธานาธิบดี คุณยังกล้าจะมาพูดเรื่องคุณธรรมแบบปลอมๆ ก่อนจะข่มขู่ด้วยประโยคว่า ถ้าการโจรกรรมเกิดขึ้นก็เริ่มยิงได้ด้วยเหรอ? พร้อมทิ้งท้ายว่าพวกเราจะโหวตคุณออกในเดือนพฤศจิกายนนี้ (We will vote you out in November) นักร้องสาวเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift)  ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวบนทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งข้อความดังกล่าวตอนนี้มีการรีทวีตเกินกว่า 5.4 แสนครั้ง และได้ยอดการกดไลค์เกิน 2.2 ล้านครั้งแล้ว

 

หลังจากนั้นนิตยสารฟอบส์ (Forbes) ได้เผยบทวิเคราะห์ที่พูดถึงการแสดงจุดยืนของเทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ว่าอาจจะส่งผลให้โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald trump) พลาดโอกาสในการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยหน้า (Taylor Swift And The Tweet That Could Help Take Down A President) เนื่องจากเธอเป็นบุคคลที่โด่งดังมาก มีผู้ติดตามในทวิตเตอร์กว่า 86.3 ล้านคน ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald trump) ก็ไม่ได้แพ้มีอยู่ 81.4 ล้านคน (ห่างกันราว 5 ล้านคน) แต่เธอมีกลุ่มแฟนคลับที่เหนียวแน่นซึ่งพร้อมจะสนับสนุนเธอในทุกๆ การตัดสินใจ

เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ถือว่าเป็นดาราที่แสดงออกจุดยืนทางการเมืองชัดเจนมากคนหนึ่ง เธอเคยแสดงความคิดเห็นและเคยสนับสนุนให้แฟนๆโหวตให้ผู้สมัครจากพรรคเดโมเครตในการเลือกตั้งกลางเทอม โดยเธอเคยกล่าว่า “จุดยืนในการเลือกผู้สมัครของฉันคือ คนๆ นั้นต้องพร้อมที่จะปกป้องและต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนให้กับพวกเรา ฉันเชื่อว่าเราทุกคนในประเทศสมควรได้รับสิ่งเหล่านี้” ส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับของเธอซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ประกอบกับโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald trump) เองก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากผู้หญิงผิวขาวอยู่แล้วและกระแสต่อต้านกลุ่มเหยียดเชื้อชาติ เมื่อบวกกับกลุ่มที่ไม่พอใจการบริหารประเทศของเขา กลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ และฐานแฟนของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) กับการแสดงออกว่าไม่สนันสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald trump) ในครั้งนี้ ก็อาจจะมากพอที่ทำให้ทรัมป์นั่งเก้าอี้ไม่ติดได้อยู่เหมือนกัน

อีกคนหนึ่งคือที่ออกมาล่าสุดคือ จอห์น โบเยกา (John Boyega) นักแสดงผิวดำที่โด่งดังจากการรับบทนำในเรื่องสตาร์ วอร์ส (Star Wars The Force Awaken) ที่ก็มาร่วมชุมนุมที่ไฮด์ปาร์ค (Hyde Park) ในลอนดอนกับผู้ชุมนุมร่วม 15,000 คนในการประท้วงเรียกร้องถึงความสำคัญของชีวิตคนดำ (BlackLivesMatter) จากกรณีจอร์จ ฟลอยด์

โดยเขากล่าวอารมณ์โกรธว่า “คนผิวดำทุกคนในที่นี่จำได้เมื่อมีคนอื่นเตือนคุณว่าคุณเป็นคนผิวดำ ฉันต้องการให้คุณเข้าใจว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนที่จะได้รับการเตือนทุกวันว่าการแข่งขันของคุณไม่มีความหมายอะไรเลย มันจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว” และกล่าวว่า “ถึงเวลาแล้ว” (Now is the time) และกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “ผมไม่รู้ว่าหลังจากการออกมาประท้วงครั้งนี้จะส่งผลต่อหน้าที่การงานของผมอย่างไร แต่ผมไม่สนใจอีกแล้ว”

 

ล่าสุดเมแกน มาร์เคิล (Meghan Markle) ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ก็ออกมาแสดงจุดยืนเรื่องนี้เหมือนกัน ประกาศจุดยืนต่อต้านการเหยีดเชื้อชาติและสีผิว (George Floyd’s life mattered) โดยเธอกล่าวว่า สิ่งที่ผิดที่สุดในออกมาพูดคือการไม่พูดอะไรเลย ในอดีตเองก็เคยเกิดประท้วงในลักษณะนี้หลายครั้ง ผู้คนที่เคยเสียชีวิตซึ่งเป็นเหยื่อจากอคติทางเชื้อชาติทุกชีวิตล้วนสำคัญ ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ซึ่งเธอเล่าถึงความทรงจำของตัวเธอเองในวัยเด็กที่เคยเกิดการประท้วงในลักษณะเดียวและจนถึงขณะนี้ภาพเหล่านั้นก็ยังคงกลับมาอีกครั้ง

ถ้าเราพูดถึงการแสดงออกทางประเด็นทางสังคมหรือประเด็นทางการเมือง ว่าสรุปแล้วดาราจะแสดงออกถึงความเห็นทางการเมืองได้ไหม เว็บไซต์เดอะแมทเทอร์ (The Matter) ได้เคยลงบทความไว้อย่างน่าสนใจ ว่า “การออกมาแสดงความเห็นของเหล่าคนดังนำไปสู่การตั้งคำถามมากมายจากนักวิชาการ นักเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆ และสาธารณชน ด้วยภาพของเซเลบริตี้ที่ถูกมองว่า ขายความสวยหล่อ จนถูกปรามาสว่า พวกเขาไม่ควรออกมาวิพากษ์วิจารณ์สังคมเพราะไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐเท่าไหร่ ขณะเดียวกัน คนดังจำนวนมากก็ถูกตัดสินไปแล้วว่า พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางการเมือง หนักเข้าหลายคนกลับโดนตีตราว่าออกมาเคลื่อนไหวตามกระแส และหวังโกยคะแนนนิยมจากประชาชนมากกว่า”

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีคนดัง ดารา และคนบันเทิงจำนวนมากออกมาขับเคลื่อนประเด็นทางสังคมโดยที่ไม่สนใจว่าจะส่งผลต่อหน้าที่การงานอย่างไร เนื่องจากมองว่าการออกมาประท้วง เรียกร้องเพื่อความเท่าเทียมกันของสังคมเป็นสิทธิพื้นฐานของพลเมืองทุกคน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า