‘Blessed Child’ สารคดีเผยเรื่องจริงของ ‘ลัทธิมูน’ ต้นเหตุแห่งความแค้นของมือสังหารอดีตนายกอาเบะ

วันที่ 8 กรกฏาคมที่ผ่านมา นาย เท็ตสึยะ ยามากามิ ลั่นไกปืนที่เขาประดิษฐ์ขึ้นมาเองและสังหาร ชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดของญี่ปุ่น ด้วยความแค้นที่เขามีต่อลัทธิหนึ่ง (ไม่ระบุนาม) ที่แม่ของเขาเคยบริจาคเงินก้อนใหญ่ให้เมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวของเขาล้มละลายในภายหลัง

ภายหลังได้มีข่าวออกมาทางสื่อ ว่าลัทธิที่ว่านั้นคือ ‘ลัทธิมูน’ (Moonies) หรือรู้จักในอีกชื่อคือ ‘โบสถ์แห่งความสามัคคี’ (Unification Church) ซึ่งปัจจุบันมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สหพันธ์ครอบครัวเพื่อความสามัคคีและสันติภาพโลก (The Family Federation for World Peace and Unification) ซึ่งมีพิธีขึ้นชื่ออย่างการจับคู่แต่งงานหมู่ วันนี้ Series Society จะพาไปเจาะลึกที่มาของลัทธินี้ผ่านสารคดี Blessed Child จากฝีมือของ Cara Johnson หญิงสาวที่เกิดในครอบครัวแถวหน้าของลัทธิและถอนตัวออกมาได้ในภายหลัง รวมไปถึงสารคดีและบทความอื่น ๆ ที่เผยมุมมองที่ต่างออกไป

ความเชื่อของโบสถ์แห่งความสามัคคี และ มุนซอนมยอง ‘พ่อที่แท้จริง’ ของสาวก

‘โบสถ์แห่งความสามัคคี’ (Unification Church) ก่อตั้งขึ้นในปี 1954 โดย สาธุคุณมุนซอนมยอง และแผ่อิทธิพลไปในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงอเมริกาและญี่ปุ่น
ตามที่สารคดีระบุไว้ หลักเทววิทยาของโบสถ์แห่งความสามัคคีโดยย่อ คือเมื่ออาดัมและเอวาได้กินผลไม้ต้องห้ามเข้าไป ซึ่งหมายถึงว่าพวกเขามีเพศสัมพันธ์กันก่อนเวลาอันควร ทำให้เกิดบาปกำเนิด (Original Sin) นำมาสู่การที่ทั้งสองถูกขับจากสวรรค์ (Fall of Man) และการที่พระเยซูไม่สามารถทำภารกิจที่จะทำให้ผู้คนหันหน้ากลับไปสู่พระเจ้าได้สำเร็จ เพราะพระองค์ถูกตรึงกางเขน ทำให้ต้องมีพระเมสสิยาห์ได้รับสาสน์จากพระเจ้าเพื่อช่วยเหลือพามนุษย์ให้หันหน้ากลับสู่พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งก็คือสาธุคุณมูนนั่นเอง
เขาและภรรยาของเขา ฮันฮักจา จึงถูกเรียกขานว่าเป็น True Parents (พ่อแม่ที่แท้จริง) ที่จะทำหน้าที่พ่อและแม่ในอุดมคติเพื่อสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ไร้บาป
สาธุคุณมุนจะจัดพิธีรับพรมงคลสมรสที่เรียกว่า The Blessing ซึ่งเป็นพิธีสมรสหมู่หลังจากผู้ศรัทธาได้รับการจับคู่โดยไม่มีการคำนึงถึงศาสนาและเชื้อชาติโดยสาธุคุณมุนจะเป็นคนจับคู่ให้กับทุกคนเอก และเด็กที่เกิดมาจะถูกเรียกว่า Blessed Chidren หรือเด็กที่ได้รับพรและเกิดมาอย่างบริสุทธิ์ไร้บาปกำเนิด

การเติบโตของโบสถ์ การลักพาตัวคนเข้าร่วมกลุ่ม และปัญหาในกลุ่มสาวก

ในสารคดีเผยหลากหลายมุมมองของสาวกและอดีตสาวกว่าทำไมพวกเขาถึงมีศรัทธาในโบสถ์แห่งความสามัคคี หลายคนก็คล้ายพ่อของคาราชื่นชมแนวคิดเรื่องการเป็นครอบครัวเดียวใต้พระเจ้า โดยไม่ได้มีการแบ่งแยกเชื้อชาติหรือศาสนา การรวมเป็นครอบครัวเดียวกันด้วยการแต่งงานที่ทำให้โลกนั้นเป็นหนึ่งเดียว โดยเฉพาะในช่วงหลังสงครามที่ทำให้ในสายตาของหลายคนมันเหมือนเป็นการสมานแผลให้กับโลก บางคนก็ชื่นชอบสาธุคุณมุนหรือรู้สึกกับเขาเหมือนเป็นพ่อ หรือหลายคนก็ชอบสังคมและความสามัคคีในโบสถ์
แต่ก็มีหลายคนที่อ้างว่าถูกล่อลวง หรือ ลักพาตัวและบีบบังคับให้เข้าร่วมลิทธิ อย่างเช่นในญี่ปุ่น ที่มีคนที่อ้างตัวว่าเป็นเหยื่อออกมาเปิดเผยเรื่องนี้อยู่หลายคน โดยก่อนหน้านี้ก็มีวิดีโออยู่ใน Youtube ก่อนจะโดนลบออกไปไม่กี่วันก่อน แต่ยังคงมีเว็ปไซต์ที่เข้าไปติดตามอ่านข่าวย้อนหลังได้
ครอบครัวของคารานั้น ต่างออกไปอาจจะเป็นเพราะพวกเขาเป็นสมาชิกชั้นนำของโบสถ์ผู้มีศรัทธาแรงกล้าและได้รับการปฏิบัติอย่างพิเศษ พวกเขาจึงสามารถคงศรัทธาของเขาได้มาจนถึงทุกวันนี้ ยกเว้นเพียงแต่คารากับน้องชาย ที่ถอนตัวออกมาก หลังจากชีวิตแต่งงานของเธอกับคู่ที่ถูกจัดให้ล้มเหลวและ True Family เริ่มมีข่าวฉาว เช่น เรื่องสาธุคุณมูนถูกจำคุกข้อหาหลีกเหลียงภาษี ส่วนน้องชายของเธอก็พบว่าตัวเองมีรสนิยมทางเพศที่ขัดต่อความเชื่อของโบสถ์ที่ต่อต้านความรักร่วมเพศ แต่พ่อ แม่ และพี่ชายของทั้งสองยังภักดีกับโบสถ์ อาจจะเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้มีปัญหาทั้งเรื่องความเชื่อและเรื่องการเงิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สั่นคลอนความศรัทธาของสาวกบางส่วน
เพราะจากรายงานของสำนักข่าวอัลซาจีรา อียองซัน อดีตมิชชั่นนารีที่รับใช้โบสถ์มากว่า 30 ปี เผยว่าเธอตัดสินใจออกจากโบสถ์เพราะยิ่งทำงานข้างในเธอก็รู้สึกว่าการกระทำและคำสอนของโบสถ์นั้นขัดแย้งกัน เธอทำงานหนักเพื่อหาเงินบริจาคตั้งแต่ช่วงที่โบสถ์ยังลำบาก แต่ยิ่งเธอได้เห็น ‘พ่อแม่ที่แท้จริง’ ของเหล่าสาวกใช้ชีวิตหรูหราจากเงินเหล่านั้น เธอก็หมดศรัทธา
นอกจากนี้อียองซันยังเผยว่าสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ที่หมดศรัทธาในโบสถ์ เกิดจากการถูกบอกให้บริจาคเงินเพื่อล้างบาปให้กับบรรพบุรุษหลุดพ้นจากนรก โดยที่ไม่รู้ว่าเงินของพวกเขาจะถูกใช้ไปกับอะไรกันแน่ ซึ่งก็มีสาวกในญี่ปุ่นที่เจอเหตุการณ์นี้และหลายคนก็ฟ้องร้องเพื่อเรียกเงินบริจาคคืน แต่อย่างไรก็ตามยังมีสาวกบางส่วนที่ยังคงภักดีกับโบสถ์ และยังมีเจ้าหน้าที่ที่บอกว่ามันเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถไถ่บาปให้กับบรรพบุรุษได้อีกด้วย
โบสถ์ไม่เพียงแค่มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ภายในไม่นานก็เติบโตกลายเป็นองค์กรที่มีมูลหลายล้านเหรียญสหรัฐ มีการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น คฤหาสน์ที่ครอบครัวมุนอยู่ที่นิวยอร์ค และภายหลังก็ขยายธุรกิจใหญ่โตไปในหลายอุตสาหกรรม เช่น หนังสือพิมพ์ Washington Times หนังสือพิมพ์ เซเกอิลโบ และ โรงแรม New Yorker Hotel ในแมนแฮตตัน ทีมฟุตบอล และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึง ธุรกิจผลิตอาวุธปืน

ลัทธิมูนและการเมือง

ทักจิลอิล ศาสตราจารย์ด้านศาสนาจาก Busan Presbyterian University เล่าในการสัมภาษณ์กับอัลซาจีราในปี 2012 ว่า อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้โบสถ์เติบโตอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ คือการมีสายสัมพันธ์กับบุคคลระดับผู้นำประเทศ
โดย ช่วงยุค 1970-80s โบสถ์แห่งความสามัคคีประกาศจุดยืนทางการเมืองในการต่อต้านระบอบคอมมูสนิสต์ แรงสนับสนุนที่โบสถ์มีให้กับสงครามเวียดนาม ทำให้โบสถ์ได้รับโทรเลขจากประธานาธิบดีนิกสันแห่งสหรัฐฯ และ CIA เพื่อขอบคุณ และหลังจากนั้นโบสถ์ก็ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มรีพับบลิกัน
ศาสตราจารย์เล่าว่าเหตุการณ์นี้ทำให้ทางโบสถ์เข้าใจถึงความสำคัญของอำนาจทางการเมืองส่งผลให้พวกเขาเลือกเข้าหานักการเมืองในระบอบเผด็จการที่คุมเกาหลีอยู่ในขณะนั้น และทำให้พวกเขาเติบโตในเกาหลีได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

ลัทธิมูนในญี่ปุ่น และความเชื่อมโยงกับ ชินโซ อาเบะ

ส่วนในญี่ปุ่น รายงานเรื่อง Geopolitical Mission Strategy: The Case of the Unification Church in Japan and Korea โดย ซากูราอิ โยชิฮิเดะ เผยว่าการเคลื่อนไหวของโบสถ์แห่งความสามัคคีในญี่ปุ่นนั้นเริ่มขึ้นในปี 1959 หลังจาก ชเวบังชุน สาวกรุ่นแรก ๆ ของสาธุคุณมุนลอบเข้าไปในญี่ปุ่นอย่างผิดกฏหมาย และเริ่มวางรากฐานของโบสถ์ในญี่ปุ่น จนในปี 1964 โบสถ์แห่งความสามัคคีภายใต้การนำของ โอซามิ คูโบกิ ก็ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นองค์กรศาสนา
บทความจาก South China Morning Post เผยว่านาย โนบุสุเกะ คิชิ อดีตนายกรัฐมนตรี คุณตาของ ชินโซ อาเบะ ก็มีสายสัมพันธ์อันดีกับโบสถ์ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก โดยเคยไปเยี่ยมเยือนโบสถ์ในปี 1970 และมีความสัมพันธ์กับ International Federation for Victory Over Communism กลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นโดยสาธุคุณมุนในปี 1968
ในบทความของ Financial Times เจฟฟรีย์ เจ ฮอลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านขบวนการชาตินิยม ให้ข้อมูลว่า โบสถ์เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนกลุ่มของ โนบุสุเกะ คิชิ ตั้งแต่สมัยสงครามเย็น เพราะทั้งสองกลุ่มมีแนวคิดเดียวกันในการต่อต้านคอมมูนิสต์ ซึ่งในตอนหลังก็เป็นพรรคของ อดีตนายก ชินโซ อาเบะ ด้วย ถึงแม้ทางโบสถ์จะปฏิเสธเรื่องการให้เงินสนับสนุนพรรคการเมือง แต่ฮอลล์ก็ยืนยังว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือฐานเสียงที่จะที่เป็นสาวกของโบสถ์
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่ ชินโซ อาเบะ ได้กล่าวคีย์โน้ตหลังพิธีเปิดงาน Think Tank 2022: Toward Peaceful Reunification of the Korean Peninsula โบสถ์เป็นเจ้าภาพร่วม อีกด้วย
ดูเหมือนความเชื่อมโยงและเหตุการ์ทั้งหมดนี้จะทำให้คนร้ายเชื่อว่า ซินโซ อาเบะ มีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธินี้อย่างแน่นอนจนตัดสินใจลงมือ เนื่องจากเขาเชื่อว่าคุณตาของอาเบะเป็นคนนำลัทธิเข้ามาในญี่ปุ่นและ ชินโซ อาเบะก็เป็นผู้สนับสนุนเช่นกัน ทำให้ทั้งสองมีส่วนที่ทำให้ครอบครัวเขาล้มละลาย
ซึ่งรายงานจาก The Guardian ในการแถลงข่าว นาย โทมิฮิโระ ทานากะ ผู้เป็นประทานของโบสถ์แห่งความสามัคคี ออกมายอมรับว่าแม่ของนายยามากามิ เคยเป็นสมาชิกอยู่จริงในช่วงปลายยุค 1990 และครอบครัวของเธอเริ่มมีปัญด้านการเงินตั้งแต่ประมาณปี 2002 แต่ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องเงินบริจาค โดยพูดเพียงกว้าง ๆ ว่า มีการบริจากเงินจากสมาชิกแต่ไม่มีการบังคับฝืนใจให้บริจาค และแถลงว่า ชินโซ อาเบะ ไม่ได้เป็นสมาชิกของโบสถ์แต่อย่างใด

ปัจจุบัน ลัทธิมูนได้แตกออกเป็นหลายสาขาหลังจากที่สาธุคุณมุนจากไปในปี 2012 หนึ่งในนั้นคือ Sanctuary Church ซึ่งมีชื่อเต็มคือ World Peace and Unification Sanctuary ก่อตั้งโดย ฮยองจิน “ฌอน” มุน ลูกชายคนเล็กของสาธุคุณมุนในสหรัฐฯ ที่ตีความว่าปืน AR-15 คือ Rod of Iron ที่ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์ และมันจะเป็นสิ่งที่เอาไว้รักษาความสงบและสันติภาพ จากนี้เราคงจะต้องจับตาดูกันต่อไปว่าญี่ปุ่นจะเปลี่ยนไปอย่างไรหรือไม่ หลังจากการสูญเสียครั้งนี้ และลัทธิที่เคยผ่านข่าวฉาวนับไม่ถ้วนและกลับมาอยู่ในความสนใจของคนอีกครั้งจะเติบโตไปในทิศทางไหนต่อจากนี้

อ้างอิง

‘Blessed Child’ สารคดีเผยเรื่องจริงของ ‘ลัทธิมูน’ ต้นเหตุแห่งความแค้นของมือสังหารอดีตนายกอาเบะ

podcast

Spotify

Podbean

Youtube

Apple Podcasts